บท
ตั้งค่า

บทที่๙...เข้าบ้าน (๒)

ดูสิโลกสีชมพูขนาดนี้มีหันไปสบสายตากันด้วยเรื่องนี้ไม่ธรรมดาถ้าเป็นนักข่าวคงได้ภาพไปเขียนสบายแต่เพราะเป็นญาติเขาจึงแอบยิ้มมุมปากก่อนกระแอมเรียกสติสองคนให้หันมาสนใจตนเอง

“กูพอใจล่ะ ว่าแต่มึงมีเรื่องอะไร”กว่าจะเข้าเรื่องได้เขานึกว่าคงต้องรอจนตะวันตกดินเสียแล้ว

“ที่กูหายไปก็เพราะมีคนตามล่าตัวเปมิกา”สิ่งที่เพื่อนที่เป็นญาติคนสนิทบอกทำให้พสุธารู้สึกแปลกใจจนต้องเอ่ยถาม

“คือขอโทษนะเพื่อน คนตามล่าเปรมแล้วมึงเกี่ยวอะไรด้วย อีกอย่างมึงจะเรียกชื่อน้องเต็มเพื่อ มาจากยุคแปดศูนย์เหรอน้องก็มีชื่อเล่นเรียกเปรมสิ”สองคนหันมองหน้ากันทันทีเพราะยังไม่เคยเรียกด้วยชื่อเล่นของอีกฝ่าย

“เรื่องของกู”ขนาดอยู่สองคนยังไม่เรียกทำไมจะต้องให้คนที่สามมาบอกด้วย ภราดรปฏิเสธเสียงแข็งทำเอาเปมิกาที่อยากฟังใจห่อเหี่ยวแต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย

“ใช่ไงเรื่องมึง กูไม่เกี่ยว อย่างนั้นออกจากบ้านกูไปเลย”เตรียมลุกขึ้นเชิญแขกออกแต่ภราดรก็รั้งคอเพื่อนให้นั่งลงตามเดิม

“มึงจะลากกูออกนอกเรื่องตลอดเลยใช่ไหม ที่มาวันนี้ก็แค่จะบอกว่าให้เปรมอยู่กับมึงสักสองสามวันก่อน เดี๋ยวกูจะไปเคลียร์กับทางนั้น”กว่าจะได้พูดพสุธาเองก็พยักหน้าเข้าใจแต่ก็แอบมีบางเรื่องที่เข้าใจหากไม่กล้าถาม คนต้นเรื่องได้แต่นั่งเงียบมองสองหนุ่มพูดคุยกันทั้งที่มันเป็นเรื่องของเธอแท้ๆ แต่กลับต้องให้คนอื่นลำบากพอจะค้านภราดรก็มองปรามจำต้องเงียบ

“มันได้อยู่แล้ว เปรมก็น้องที่รู้จักไม่ต้องห่วงเดี๋ยวกูดูแลแฟนมึงให้เอง”สถานะที่โดนระบุทำเอาสองหนุ่มสาวปฏิเสธพร้อมกัน

“ไม่ใช่แฟน!”ตะโกนเสียงดังจนสะดุ้งเอามือทาบอกไว้แทบไม่ทัน

“เออรู้แล้ว จะตะโกนพร้อมกันทำไม”ปฏิเสธเสียงแข็งขนาดนั้นคนนอกอย่างเขาจึงจำใจต้องเงียบเอาไว้

“ไอ้ดลกูว่ามึงกลับบ้านได้แล้วเดี๋ยวลุงภมรจะเป็นห่วงมากกว่านี้ ส่วนน้องเปรมเดี๋ยวกูดูแลเอง”คำพูดคำจาของมันทำเอาภราดรไม่อยากไปไหนแต่ไม่อยากให้คนทางบ้านเป็นห่วงจึงพยักหน้า

“ยืมรถหน่อยเดี๋ยวเอามาคืน”แบมือขอยืมกันง่ายๆ ราวกับรถราคาบาทสองบาท

“แล้วกูจะขับอะไรไปทำงาน”ท่านรองประธานยักไหล่ไม่แคร์พร้อมทำสายตาบอกนั้นไม่ใช่เรื่องเขาทำเอาเพื่อนที่โตมาด้วยกันต้องลุกขึ้น

“ถ้าให้ยืมกูได้อะไร”การต่อรองสำหรับสองหนุ่มเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หากคนนอกมองอาจจะไม่เข้าใจแต่เพราะว่าโตมาด้วยกันทำให้ภราดรไม่ได้ซีเรียสที่พสุธามักเรียกร้องผลประโยชน์จากเขาแท้จริงก็แค่อยากกวนให้อารมณ์ขุ่นแค่นั้น

“ค่าเทอมสองแฝด”คำนั้นทำเอาผู้เป็นพ่อยิ้มร่ายิ้มกุญแจรถจากกระเป๋าให้เพื่อนสนิทด้วยท่าทีนอบน้อม

“เชิญครับท่านรอง จะเอารถผมขับไปดูไบลัดถึงเวกัสก็ไม่มีปัญหา สุดแท้แต่ใจท่านปรารถนาเลยครับ”ความกวนของพ่อลูกสี่ยังทำเอาต้องส่ายหัวเหมือนเดิม

“ขอบใจ แล้วของกูอยู่ไหน”ทั้งโทรศัพท์และกระเป๋าเงินอยู่ในรถหมด พสุธาเพิ่งคิดได้จึงวิ่งขึ้นบนบ้านแล้วถือของสำคัญทั้งกระเป๋าเปมิกาและสิ่งที่ภราดรเอ่ยถาม

“กูก็นั่งสงสัยอยู่ว่าทำไมของเปรมมาอยู่กับมึง ตอนนี้กระจ่างแล้ว”สายตาล้อเลียนทำเอาบรรยากาศระหว่างสองหนุ่มสาวกระอักกระอวน

“กูกลับก่อนแล้วกัน เอ่อ ตอนเย็นจะมาใหม่”พึ่งเคยเห็นท่าทางแบบนี้ของเพื่อนที่นานครั้งจะเห็น หรืออาจเรียกได้ว่าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจะถูกกว่า ใครจะคิดว่าหนุ่มหน้านิ่งจะเขินเป็นเหมือนกัน ดาราสาวคนสวยที่ปกติมักทำหน้าไร้อารมณ์ก็เหมือนกัน แก้มแดงขึ้นอย่างน่าเอ็นดู

“ครับผม เดี๋ยวจะเตรียมอาหารเย็นไว้ให้ ส่วนน้องเปรมไม่ต้องเป็นห่วงนะ กูจะดูแลให้ระหว่างที่มึงไม่อยู่”คร้านจะต่อความยาวกับพสุธาจึงตัดสินใจหันมามองใบหน้าหวานอีกครั้ง

“ไว้เจอกันนะ”ร่างบางแค่พยักหน้าตอบก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินออกไปจากบ้านทิ้งเธอไว้กับตากล้องรุ่นพี่ที่มองมาด้วยแววตาล้อเลียน

“มาๆ เดี๋ยวพี่พาไปดูห้อง”เรียกเปมิกาไปดูห้องรับแขกที่ทำไว้สำหรับเพื่อนมาพักผ่อนโดยส่วนมากจะเป็นกีรติและพิชิต

“ขอบคุณพี่ดินนะคะ”เข้ามาภายในห้องก็เอ่ยขอบคุณพร้อมยิ้มให้อย่างจริงใจ ห้องรับแขกถูกตกแต่งอย่างน่ารักด้วยผนังสีครีม มีเตียงสี่เสาตั้งกลางห้องทั้งมุ้งที่ผูกไว้กับเสา ที่หน้าต่างจะมองเห็นสวนดอกไม้ของบ้านให้ความสดชื่นแก่สายตา

“คนกันเองทั้งนั้น อีกอย่างไอ้ดลมันก็ฝากพี่ดูแล”ยังพูดกันไม่ทันจะจบก็มีเด็กน้อยสองคนวิ่งเข้ามากอดขาคุณพ่อ

“พ่อขา”เด็กหญิงตัวอวบมัดแกละสองข้างใส่ชุดสีชมพูเหมือนกันทำเอาแยกแทบไม่ออก ดวงตากลมโตมีแววใสซื่อหันมามองแขกคนสวยก่อนจะยิ้มออกมา

“ใคคะ”ด้วยยังพูดไม่ชัดอีกทั้งเขินอายจึงหันมาหาคุณพ่อพร้อมชูมือสองข้างหวังให้อุ้มแต่หากเขาอุ้มคนหนึ่งอีกคนต้องงอแงให้อุ้มแน่

“น้าเปรม แฟนอาดล”คำแนะนำของคุณพ่อทำให้เปมิกาทำตาโตก่อนส่ายหน้า

“ไม่ใช่นะคะพี่ดิน บอกว่าไม่ได้เป็นแฟนไงคะ”ปฏิเสธเสียงแข็งหากเมื่อมองตาแป๋วของเด็กน้อยก็ต้องลดเสียงพร้อมหลบสายตา

“น้าเปม”แฝดพี่เดินไปหาคุณน้าคนใหม่ก่อนจะใช้นิ้วชี้จิ้มที่ขาเบาๆ

“ดีค่า น้องเนปจูนค่า”มือป้อมยกขึ้นไหว้พร้อมย่อตัวลงเพราะเห็นในโทรทัศน์แต่เพราะย่อเยอะไปจึงดูเหมือนจะลมจนดาราสาวย่อตัวลงรับเด็กน้อยเอาไว้

“ไหว้เฉยๆ ก็พอค่ะไม่ต้องย่อ”รู้แล้วว่าทำไมภราดรถึงเอ็นดูเด็กน้อยนักก็ดูสิเพียงแค่ยิ้มโลกก็ดูสว่างสดใสขึ้นมาทันที

“หนูค่ะ หนูชื่อยูเรนัส”แฝดน้องไม่ยอมแพ้ผละจากบิดาวิ่งเข้ามาหาแขกหน้าใหม่

“สวัสดีค่ะ น้าชื่อเปรมนะ”สองแฝดพยักหน้าแล้วจับใบหน้าหวานก่อนเอามือออกหันมามองกันอมยิ้มอย่างมีความสุข

“น้าเปมฉวย เหมือนแม่เลย”เป็นความคิดเห็นของสองแฝด จูงมือคุณน้าคนใหม่ออกมาข้างนอกโดยมีพสุธามองตาม รู้สึกว่าลูกเขาชักจะเข้ากับคนอื่นได้ง่ายเกินไปแล้ว เจอไม่ถึงสามสิบนาทีชวนคุณน้าลงไปเล่นห้องตัวเอง

“ได้ใครมานะ พ่อก็ออกหวงเนื้อหวงตัว ต้องได้แม่มาเยอะแน่ๆ”ส่ายหน้าให้ลูกสาวโดยไม่รู้เลยว่านิสัยนั้นก็ได้พ่อมาเต็มๆ

พสุธาต้องรีบไปทำงานจึงฝากแม่บ้านคอยดูแลเปมิกาและลูกสาวทั้งสองคนด้วย ฝ่ายภราดรที่กลับมาถึงบ้านคุณลินดาก็ร้องไห้กอดลูกชายเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง ต้องขอโทษท่านเป็นเวลานานทั้งนั่งปลอบจึงค่อยดีขึ้น คุณภมรได้ข่าวว่าลูกกลับบ้านก็บึ่งรถมาจากบริษัทอย่างรวดเร็ว

ร่างสูงเล่าให้บิดามารดาฟังเพียงแค่โดนลูกหลงจากการทำร้ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนแต่อย่างใดก่อนขอตัวไปพักผ่อน แม้จะไม่ค่อยเชื่อก็ยอมปล่อยลูกเพราะเห็นว่าอ่อนล้า เมื่อขึ้นมาบนห้องภราดรก็จัดการโทรหาเลขาคนสนิทว่าจะเข้าบริษัทช่วงเย็นเพราะตอนนี้ต้องไปทำเรื่องสำคัญเสียก่อน

...เพื่อไม่ให้เสียเธอไปในตอนที่ยังไม่เบื่อ

เมื่อเด็กน้อยหลับเปมิกาจึงขอตัวขึ้นมาบนห้อง นั่งลงบนเตียงกวาดตามองไปรอบๆ พลางถอนหายใจด้วยความเหนื่อย มองเห็นกระเป๋าของตนก็หยิบมาเปิดดูโทรศัพท์เผื่อมีคนตามหาแต่ก็ไม่พบแม้แต่สายเดียว อาจเพราะไม่มีถ่ายละครทำให้ว่างจึงไม่มีใครติดต่อมาก็เป็นได้

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เชิญค่ะ”สาวน้อยหน้าตาสะอาดสะอ้านเข้ามาพร้อมเสื้อผ้า ค่อยๆ เดินเข้ามาหาร่างบางด้วยใจเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะตื่นเต้น

“ชุด ชุดค่ะคุณเปรม”มือสั่นจนเปมิกาแอบอมยิ้มก่อนรับชุดมาจากมืออีกฝ่าย

“ขอบคุณนะคะ”ยิ้มให้อย่างจริงใจทำเอามะปรางไปไม่เป็นก้มหัวแล้วหันหลังวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ใครจะเก็บอาการตื่นเต้นได้เมื่อเจอดาราคนโปรดเล่า

มองชุดในมือจึงตัดสินใจเข้าห้องน้ำเพื่อล้างเนื้อตัว เสื้อผ้าที่แม่บ้านเอามาให้พอดีกับตัวเธอราวจับวาง ใบหน้าหวานถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อยที่มีติดกระเป๋า ตรวจความเรียบร้อยในกระจกก่อนจะลุกขึ้นออกไปข้างนอก แดดช่วงสี่โมงเย็นไม่แรงนักเมื่อมานั่งที่สวนซึ่งมีดอกไม้และร่มไม้ให้ความเย็นสบายก็ผ่อนคลายไปอีกแบบ

ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่จนกระทั่งได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งเข้ามาภายในบ้าน เปมิกาลุกขึ้นในใจคาดหวังว่าเป็นชายที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันรีบเดินออกจากสวนก็ต้องพบความผิดหวังเมื่อไม่ใช่คนที่คิด

“สวัสดีค่ะ”บุคคลที่เข้ามาเป็นผู้หญิงหน้าตาดีท่าทางสง่าคงเป็นภรรยาของรุ่นพี่อย่างพสุธา

“สวัสดีค่ะ เปรมค่ะ”แนะนำตนเองก่อนซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มกลับอย่างอ่อนหวานไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตากล้องหนุ่มถึงสละโสดทั้งที่อายุยังน้อย

“ดาวนะคะ เรียกว่าพี่ดาวก็ได้ค่ะเพราะน่าจะอายุเยอะกว่า”รอยยิ้มเอ็นดูถูกส่งมาให้น้องสาวคนใหม่โดยมีเสียงของเด็กน้อยไล่ตามหลังก่อนจะพบว่าพสุธาเดินมากับลูกชายและลูกสาว

“นี่แหละดาวที่เล่าให้ฟัง แฟนไอ้ดลมัน”คาดว่าระหว่างอยู่บนรถคุณสามีน่าจะเล่าทุกเรื่องให้ภรรยาฟังพร้อมกระซิบประโยคสุดท้ายแต่คิดว่าคงไม่ได้กระซิบหรอกเพราะขนาดเธออยู่ไกลยังได้ยินจนต้องปฏิเสธไปเป็นรอบที่สาม

“แค่พี่น้องค่ะ ไม่ใช่แฟนนะคะ”บอกด้วยความเร็วจนดาริกาต้องอมยิ้ม

“พ่อคับ น้าคนนี้เป็นแฟนอาดลใช่ไหมคับ”จะต้องบอกครอบครัวนี้อีกกี่สิบครั้งว่าเธอกับภราดรเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น พอจะเอ่ยปากอีกครั้งคนเป็นพ่อก็ย้ำความเข้าใจให้ลูกชาย

“ใช่ลูก น้าเปรมแฟนอาดล”ดาริกามองสองพ่อลูกคุยกันก่อนหันมาเห็นหน้าแขกที่ทำท่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็รู้สึกสงสาร

“เข้าข้างในเถอะจ้ะ ยืนข้างนอกร้อนนะ”ชวนดาราสาวเข้ามาภายในบ้านโดยคุณพ่อพาลูกชายและลูกสาวขึ้นบนห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในขณะที่สองสาวมายังห้องรับแขก เป็นครั้งแรกที่ได้เจอภรรยารุ่นพี่ตากล้องยอมรับว่าทั้งสองดูเหมาะสมกันมาก

“ถ้ามีอะไรขาดเหลือบอกได้นะคะ”

“แค่นี้ก็เกรงใจมากแล้วค่ะ”มาอยู่บ้านเขาโดยที่ไม่ได้สนิทก็ขอบคุณมากที่ทั้งสองอนุญาตให้มาอาศัยด้วยจนไม่กล้าจะรวบกวนอะไรมากไปกว่านี้

“คนกันเองทั้งนั้นไม่ต้องเกรงใจหรอก อยากกินอะไรบอกพี่นะเดี๋ยวจะทำให้กิน เห็นดินบอกดลจะมากินข้าวด้วยสงสัยต้องแสดงฝีมือสักหน่อย”ไม่บ่อยที่ภราดรจะมาทานข้าวบ้านนี้ส่วนมากจะเป็นเด็กๆ ที่คิดถึงคุณอาจนคุณพ่อต้องเรียกตัวมาให้ซึ่งก็นานครั้งเพราะท่านรองประธานยุ่งเสียเหลือเกิน

“เดี๋ยวเปรมช่วยค่ะ”แววตามุ่งมั่นทำให้เจ้าของบ้านไม่ได้ขัด ดาริกาขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยผู้อาศัยขอตัวเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหาร วันนี้จะแสดงฝีมือให้เขาได้ชิมอีกครั้งต้องมัดใจชายหนุ่มให้อยู่หมัด ในเมื่อเสียมาขนาดนี้ก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกเพียงทำให้เต็มที่สุดกำลัง ผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรก็ช่างมัน

เพราะเธอให้ใจกับเขาไปทั้งดวงแล้ว...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel