ตอนที่ 24
มัชฌิมามองหน้าก้องเกียรตินิ่งอย่างพิจารณา เวลานี้เธอต้องการหาตัวบุคคลที่จะสามารถช่วยป้าของเธอได้ หากไม่ใช่กานต์ก็ต้องหาคนอื่น อาจจะเป็นเขาคนนี้ก็ได้
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร กานต์ก็เดินออกมาจากบ้านเพื่อจะไปทำงาน แต่เขามองเห็นตำรวจยืนอยู่หน้าบ้าน ซึ่งมีเพียงมัชฌิมาที่ยืนอยู่เพียงลำพัง เขาจึงเดินตรงไปหยุดข้าง ๆ เธอ
“มีอะไรหรือครับ”
กานต์เอ่ยถามทำให้เธอเงยหน้ามองเขา
“กานต์”
แต่เสียงนั้นทำให้เขามองตรงไปยังต้นเสียง ก่อนจะเลิกคิ้วสูงแล้วยิ้มออกมา
“ก้องเกียรติ..”
กานต์รีบเดินมาเปิดประตูให้ก้องเกียรติทันที
“กลับมาเมื่อไหร่”
“สักพักแล้ว ได้ข่าวว่านายประจำอยู่ต่างจังหวัด ตั้งใจว่าหากจัดการกับงานได้เมื่อไหร่ จะไปหานาย”
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา
“มาหาฉันแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่า”
ก้องเกียรติส่ายหน้าไปมา
“ไม่ได้มาหานาย”
กานต์ย่นคิ้ว ทำให้ก้องเกียรติหันไปมองยังปราสาทสีงาช้าง
“ฉันมาสืบเบาะแสการหายตัวไปของผู้หญิง”
ก้องเกียรติตอบพร้อมกับมองไปหามัชฌิมา กานต์มองตามสายตาของเขาแล้วหันมาหาเธอ
“เข้าข้างในก่อนดีกว่า”
กานต์เดินนำก้องเกียรติและนายตำรวจท่านอื่นเข้ามายังห้องโถงของบ้าน
กานต์มองดูดาวบนบ่าของเพื่อนแล้วหันมาหามัชฌิมาที่ยกน้ำเข้ามา
“นี่ร้อยตำรวจเอกก้องเกียรติ เพื่อนของผมครับ”
เขาบอกกับมัฌชิมาที่รีบยกมือไหว้
“นี่คุณมัชฌิมา”
“ภรรยาของนายหรือ”
กานต์มองหน้าเธอแล้วยิ้มกว้าง แต่มัชฌิมากลับรู้สึกใจสั่นระรัวกับคำถามนั้น เธออยากรู้เหมือนกันว่ากานต์จะแนะนำเธอว่าเป็นใคร
“ไม่หรอก คุณมัชเธอป่วยเพราะฉัน ฉันเลยให้เธออยู่ที่นี่เพื่อรักษาตัว”
มัชฌิมามองหน้าเขาก่อนจะเดินห่างออกไป แต่ในใจก็อยากจะรู้ความเป็นของก้องเกียรติ เธออยากจะให้เขาเป็นคนที่เธอกำลังตามหา หรือไม่ก็ขอให้เป็นหนึ่งในนายตำรวจทั้งหมดที่นั่งอยู่ในห้องโถงนี้สักคน แต่เธอจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อต้องถามพวกเขา ทำให้เธอจำต้องแอบฟังแม้จะรู้ว่าเสียมารยาทก็ตาม
“นายได้เบาะแสว่าผู้หญิงหายไปหรือ”
กานต์เข้าเรื่องทันที
“ใช่ ฉันมารับผิดชอบในเขตท้องที่นี้ ก่อนหน้าที่ฉันจะมา มีคดีที่ปิดไม่ได้อยู่หลายคดี ล้วนเป็นคดีการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของหญิงสาว อายุระหว่าง สิบแปดถึงยี่สิบปี”
กานต์มองหน้าก้องเกียรติ
“หายไปแถวนี้หรือ”
“ใช่ สายรายงานว่า มีรถแท็กซี่เลี้ยวเข้ามาในซอยนี้แล้วจอดลงที่หน้าบ้านถัดไป บ้านของคุณชายระพี”
กานต์นิ่ง
“เพราะมีแท็กซี่ที่มีอาการสะลึมสะลือราวกับถูกวางยา เมื่อพวกเขาได้สติแล้วขับรถเลี้ยวรถออกไปจากซอยนี้ พวกเขาส่งรถผิดเวลา เขาบอกว่าไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมมาอยู่ในซอยนี้จำอะไรไม่ได้”
นายตำรวจท่านหนึ่งบอกกานต์
“นายพอรู้อะไรบ้างไหม บางทีอาจจะมีใครบางคนลักลอบส่งขายผู้หญิงแล้วใช้เส้นทางนี้เพื่ออำพราง”
กานต์ส่ายหน้า มันทำให้เขาหวนนึกถึงเสียงกรีดร้องของผู้หญิงในคืนวันเพ็ญ
“ฉันจะเข้าไปในวังของคุณชายระพี”
“ทางตำรวจสงสัยลุงของฉันหรือ”
“ฉันจำเป็นต้องสืบ แม้จะมั่นใจว่าไม่ใช่ก็ตาม”
“จะเข้าไปแบบนี้หรือ”
“ใช่ เข้าไปแบบเปิดเผย”
กานต์พยักหน้า
“เอาสิ ฉันจะไปด้วย”
เพียงได้ยินเท่านั้นมัชฌิมารีบก้าวตรงมาหาเขาทันที
“ขอฉันไปด้วยคนนะคะ”
ทั้งกานต์และนายตำรวจต่างหันมามองหน้าเธอแทบเป็นตาเดียว
“คือฉันอยากเห็นค่ะ ว่าข้างในจะสวยมากแค่ไหน เพราะดูจากข้างนอกสวยมาก”
กานต์หันไปมองหน้าก้องเกียรติที่ยิ้มกว้าง
“ได้สิครับ ผมจะถือโอกาสเข้าไปทักทายท่านด้วย”
เพียงเท่านั้นมัชฌิมารู้สึกดีใจอย่างมาก เธอจะอาศัยลูกแก้ววิเศษในการเข้าไปช่วยป้าของเธอ
“ไปครับ”
กานต์ลุกขึ้นเดินนำหน้าก้องเกียรติและนายตำรวจ ตรงไปยังคฤหาสน์ของหม่อมราชวงศ์ชายระพีทันทีโดยมีมัชฌิมาที่อธิษฐานจิตให้ลูกแก้วช่วยแล้วก้าวตามเขาไปห่าง ๆ เธอตั้งใจว่าจะหาโอกาสไปช่วยป้าของเธอเมื่อเขาพูดคุยกับลุงของเขา
มัชฌิมาเดินตามร่างของกานต์ไปติด ๆ เธอพยายามสอดส่ายสายตาเพื่อจะหาทางที่จะไปหาป้าของเธอ เพราะเธอมั่นใจว่า ต้องมีทางที่จะหลบไปได้ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ต้องคอยระวังภัยจากภูตมนต์ดำ
“ไม่คิดว่าหลานชายจะมาในเวลานี้”
เสียงที่ดังมานั้นทำให้มัชฌิมารู้สึกขนลุก มันต้องมีอะไรที่ผิดแผกไปอย่างแน่นอน เธอวางมือลงที่ลูกแก้วด้วยหัวใจที่สั่นระรัวพร้อมกับมองตรงไปยังเบื้องหน้า เมื่อมองเห็นชายร่างสูงกำยำที่ดูสง่างามก้าวลงมาจากบันไดวน
