ตอนที่ 7
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
อาการของนางวรรณาดีขึ้นพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องอยู่โรงพยาบาลในการดูแลของแพทย์ต่อไป ทำให้เกษราจำต้องอยู่ที่บ้านไอยสุวรรณต่อไปอีกเช่นกัน
คุณนวลเป็นธุระประสานกับคณะแพทย์เรื่องการดูแลให้คนป่วยกลับมาเป็นเหมือนเดิม สร้างความซาบซึ้งใจให้กับสองป้าหลานอย่างยิ่ง
“ขอบคุณท่านมากนะคะ”
“บอกแล้วไงอย่าคิดมาก เราคนกันเอง” คุณนวลมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนให้เกษราเสมอ
“หายไวๆ นะวรรณา ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น เชื่อหมอแล้วทุกอย่างจะดีเอง” นางหันมาให้กำลังใจคนป่วยนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง
จากคำบอกเล่าของแพทย์เจ้าของไข้แจ้งว่าแม้คนไข้จะปลอดภัยจากการผ่าตัด แต่เนื่องจากอายุมากและมีโรคประจำตัวทำให้การฟื้นตัวอาจต้องใช้เวลา
ดังนั้นการที่ต้องอยู่โรงพยาบาลต่อเกี่ยวข้องกับเรื่องการฟื้นฟูร่างกายและรักษาโรคที่พบในเวลาต่อมานั่นเอง
นางวรรณารู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่อีกครั้ง ยิ่งรู้จากหลานสาวว่าคนที่ให้ความช่วยเหลือเป็นคุณนวลผู้มากด้วยน้ำใจแล้ว ก็ทำให้นางถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่และตัดสินใจตอบแทนความเมตตาที่ผู้มีพระคุณให้ความช่วยเหลือจนมีวันนี้
“ป้า” เกษราผวาเข้าหาเมื่อเห็นนางวรรณาทำท่าเหมือนจะพูดอะไร
“กะ กราบ ทะ ท่าน” นางวรรณาเอ่ยเสียงเบา เกษราทำตามที่ป้าบอกนั่งลงที่พื้นแล้วก้มลงกราบคุณนวลอย่างไม่ลังเล
“อะไรกันจ้ะ อย่าทำแบบนี้ วรรณา เธอก็” คุณนวลรีบประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้น
เกษราล้วงกระเป๋าหยิบซองสีขาวข้างในมีเงินเก็บทั้งหมดที่ถอนออกมาจากธนาคารส่งให้คุณนวล หญิงสาวตั้งใจว่าจะคืนค่ารักษาพยาบาลทุกบาททุกสตางค์ให้ครบโดยไม่คิดเอาเปรียบแม้แต่น้อย
“ตอนนี้เกดมีคืนเท่านี้ก่อน ที่เหลือจะรีบหามาคืนให้เร็วที่สุดค่ะ” หญิงสาวส่งซองให้หญิงวัยกลางคนทันที
“ฉันไม่รับเงินนี้หรอกหนูเกดเอาเก็บไว้ใช้เถอะ ยังมีอีกเยอะที่ต้องจ่าย” คุณนวลยื่นซองคืนกลับไปทันที
“แต่...” เจ้าตัวทำท่าขัดขืน
“ไม่ต้องแต่ ฉันไม่รับก็คือไม่รับ” นางเสียงแข็งและไม่แตะต้องซองนั้นอีกเลย
“ถ้างั้นท่านมีอะไรให้เกดทำเพื่อตอบแทนบุญคุณท่านบ้าง ท่านต้องให้เกดทำนะคะ” เกษราร้อนใจเหลือเกิน
คุณนวลทำแบบนี้เท่ากับสองป้าหลานเป็นหนี้ชีวิตไปจนวันตาย แต่หญิงสาวไม่อยากติดหนี้บุญคุณใครโดยเฉพาะคนที่ไม่ได้เกี่ยวดองทางสายเลือด
“หนูอยากตอบแทนฉันจริงๆ เหรอ” หญิงวัยกลางคนหันมาสบตากับคนพูด
เกษราไม่รู้ว่าความหมายของคุณนวลคืออะไร แต่เธอก็พยักหน้ารับในสิ่งที่นางถามมา เมื่อไม่รับเงินคืนกลับก็ต้องให้ช่วยอะไรที่พอจะทำให้ได้ อย่างน้อยก็ให้สองป้าหลานได้ทำอะไรชดเชยกลับไปให้บ้าง
“ถ้างั้นหนูมาเป็นคนในครอบครัวฉันเถอะ มาเป็นลูกสะใภ้ให้ฉันชื่นใจได้ไหม หนูเกด”
เกษราอึ้ง พูดอะไรไม่ออกแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นนางวรรณาพยักหน้าเพื่อให้เธอตอบรับคำขอของคุณนวลก็ยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดมากขึ้น
แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่ได้รับก็ทำให้ต้องคิดหนัก ตอบแทนด้วยการเอาตนเองไปเป็นคนในครอบครัว ไปเป็นลูกสะใภ้เป็นภรรยาของผู้ชายที่ตนไม่ถูกชะตาด้วย
งานนี้ถ้าปฎิเสธก็กลายเป็นคนอกตัญญู แต่ถ้าตกลงก็ต้องทำในสิ่งที่ฝืนใจไปทั้งชีวิต แล้วควรจะตัดสินใจอย่างไรดี
ดึกแล้วเกษรานอนไม่หลับไม่ใช่เพราะแปลกที่ แต่เพราะพรุ่งนี้ต้องให้คำตอบเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตกับคุณนวลต่างหาก หญิงสาวตัดสินใจลงไปเดินเล่นที่สนามหน้าบ้านเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในจิตใจ
"ยังไม่นอนเหรอครับ น้องเกด" เสียงคมกริชดังขึ้น ทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวหันมามองตามเสียง
"กำลังจะขึ้นไปนอนค่ะ คุณกริชถืออะไรเยอะแยะคะ มา เกดช่วย"
กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่คมกริชจะหอบขึ้นไปบนห้องนอนเพื่อเตรียมจัดของเดินทางในไม่กี่วันนี้ เกษราช่วยลากใบย่อมเดินตามชายหนุ่มเข้าไปในห้องนอนอย่างมีน้ำใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่วัชระกลับออกมาจากห้องคุณนวลพอดี
"เข้าไปทำอะไรในห้องนั้น" เสียงวัชระดังขึ้นเมื่อเกษรากลับออกมาจากห้องของคมกริช
"ช่วยคุณกริชลากกระเป๋าค่ะ"
"กระเป๋าอะไร นายกริชทำเองไม่ได้หรือไงถึงต้องใช้คนอื่นด้วย" ชายหนุ่มจงใจเน้นคำว่า คนอื่น ชัดเจน
"แล้วนั้นถืออะไรไว้"
เกษราถอยหลังติดกำแพงทันทีเมื่อวัชระก้าวเข้ามาหา หนังสือแปลสองเล่มที่คมกริชให้มาไว้อ่านแก้เหงาถูกดึงไปจากมือโดยที่เจ้าตัวห้ามไม่ทัน
"ฉันยืมคุณกริชมาอ่านค่ะ" เกษรารีบบอกแล้วดึงหนังสือคืนจากมือชายหนุ่ม ก่อนจะตัดสินใจเดินหนีกลับห้องไปทันที
"เป็นสาวเป็นนางเข้าห้องผู้ชายดึกๆ ดื่นๆ มันคงไม่ดีสักเท่าไร โดยเฉพาะผู้ชายคนนั้นเป็นน้องของคนที่จะต้องแต่งงานด้วย"
เกษราชะงักฝีเท้าทันที หญิงสาวหันหน้ามาสบสายตากับวัชระอย่างไม่พอใจ ในขณะที่อีกฝ่ายค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาอย่างไม่หวั่นเกรงใดๆ ทั้งสิ้นเช่นกัน
"ทำอะไร อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้ทัน" วัชระใช้สายตามองไปทั่วร่างของเกษราอย่างตั้งใจ
"พระยาเทครัวใช้กับผู้ชายเท่านั้น ถ้าผู้หญิงจะเรียกว่าอะไร"
"คุณ..." เกษราไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะถูกกล่าวหาด้วยถ้อยคำที่ดูถูกเช่นนี้
ปกติเขาเป็นคนไม่ค่อยพูดเพราะมัวแต่ทำหน้าเก๊กหล่อตลอดเวลา แต่พอพูดมาแต่ละทีเกษราอยากจะเอาน้ำยาล้างห้องน้ำราดใส่ปากคนพูดเสียเหลือเกิน
หน้าตาดีแต่พูดจาไม่เพราะ ไม่ให้เกียรติคนที่ร่วมสนทนาด้วย ต่อให้หล่อปานเทพบุตรเธอก็ไม่สน
"ทำไม ฉันพูดอะไรผิด" ยิ่งเห็นเธอทำท่าทางเหมือนโกรธ ก็ยิ่งคิดว่าเจ้าหล่อนกำลังเต้นที่ถูกคนจับได้
แบบนี้วัชระยิ่งต้องใช้วิธีฟาดฟันด้วยคำพูด ซึ่งเป็นวิธีที่ตั้งใจเอาไว้เล่นงานเกษราตั้งแต่ต้น
"ไม่ทราบค่ะผิดไหม พูดอะไรควรใช้ความคิดมากกว่าสักแต่ว่าพูด ไม่อย่างนั้นคนพูดจะกลายเป็นคนไม่มีสมองนะคะ" คนพูดสะบัดหน้าเดินหนี
"เธอว่าใครไม่มีสมอง" คนฟังเดือดดาลขึ้นมาทันที
