บทที่1 คนงานใหม่ (5)
ความโกรธทำให้เธอหลุดปากออกไปโดยไม่ทันได้คิด นี่เองที่รอยยิ้มบนใบหน้าสีทองแดงของลูกน้องหนุ่มเปลี่ยนไปจนดูน่ากลัว
“ไหน ๆ คุณคนสวยสั่งให้ถอยไปตายแล้ว งั้นผมถอยหน้าก็แล้วกัน” ไม่บอกอย่างเดียว ร่างสูงใหญ่บึกบึนอย่างผู้มีสุขภาพดีจึงขยับตัวเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเก่า คนถูกท้าทายจึงกัดฟันกรอด ๆ ที่อีกฝ่ายจงใจขัดคำสั่งและแกล้งยั่วให้เธออารมณ์เสียเล่น
“ถอยไป!” เธอออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม
ทว่าร่างสูงซึ่งถือดียังปฏิบัติเช่นเดิม เขาสาวเท้าเข้ามาใกล้กว่าเดิม เรียกว่าใกล้จนได้กลิ่นกายของกันและกันเลยทีเดียว
กลิ่นเหงื่อของบุรุษเพศที่เกาะตามร่างกายชายหนุ่มไม่เหม็นสาบเหมือนที่สุชีราเคยได้กลิ่นมา ซ้ำยังสร้างความรู้สึกแปลก ๆ ให้เธอไม่น้อย อำนาจและแรงดึงดูดระหว่างเพศทำให้เธอทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
“สั่งให้ผมถอยอีกมั้ยครับคนงาม?” ไม่ถามอย่างเดียวชนินทร์ยังสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ซึ่งกลิ่นกายหอม ๆ ของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกสดชื่นและมีความสุขเหลือเกิน
ทว่าเพียงอึดใจเดียว ร่างสูงที่ขยับเข้ามาใกล้จนเกือบประชิดกายนุ่มต้องถอยออกห่างโดยอัตโนมัติเมื่อปลายร่มซึ่งเป็นเหล็กจี้เข้าที่แผงอกของเขา แล้วออกแรงกดจนรู้สึกเจ็บ
“หลบไป! ถ้านายคิดจะทำงานอยู่ที่นี่ต่อ”
พอทำอะไรไม่ได้เพราะคนงานรายนี้ดื้อยิ่งกว่าเคยเจอมา สุชีราจึงดึงเอาอำนาจหน้าที่การงานมาต่อรอง ซึ่งมันก็ใช้ได้ผลเป็นอย่างดี ชนินทร์ยกมือขึ้นในท่ายอมแพ้ พอนางพญาเสือเชิดหน้าขึ้นและเดินผ่านหน้าไปแล้วนั่นล่ะ ชายหนุ่มก็ไม่วายแกล้งเย้าให้อีกฝ่ายหัวเสียเล่นอีก
“ว้า รถเครื่องถูกปล่อยยางลมซะหมดเลย ถ้าคนงามไม่รังเกียจพวกขี้คุก จะขึ้นขี่หลังผมก็ได้นะครับ ไอ้รหัสคนนี้ยินดีรับใช้ให้เจ้านายคนสวย ‘ขี่’ ฟรี ๆ โดยไม่คิดค่าตัวเลยเอ้า“
คำพูดสองแง่สองง่ามนั่นทำให้คนถูกจี้ใจดำตรงจุดที่ก้าวไปได้เพียงสองสามก้าวหยุดเท้าลง แล้วหันกลับมาถลึงตาใส่ลูกน้องจอมยียวนนั่นอีก แต่ด้วยไม่อยากมีเรื่องเธอจึงพยายามระงับโทสะด้วยการนับเลขในใจต่อ
“อย่าให้รู้ละกันว่าเป็นฝีมือนาย” วงหน้าหวานที่โกรธจนแดงจัดทำท่าปาดคอก่อนสะบัดหน้าเดินหนี
พอแม่เสือสาวแสนสวยไปจากถ้ำแล้วนั่นล่ะ เสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจจากชนินทร์จึงดังขึ้น
“วู้ ถ้าเป็นฝีมือผมจริง คุณขมคนสวยจะทำอะไรผมได้ครับ หึหึ” ชายหนุ่มยิ้มให้ตัวเองอย่างพึงพอใจ แล้วบอกตัวเองว่าได้เจอ ‘คนที่ใช่แล้ว’ ดวงตาคมคายผสมแววขี้เล่นพราวระยับ และปณิธานหนึ่งก็ดังก้องเข้ามาในหัว
“สักวันเถอะคุณขม… ผมจะปราบพยศและสอยคุณมานอนกอดให้สาสมใจให้จงได้!” ชนินทร์บอกตัวเองด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนปรายตามองรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าที่เจ้าของจอดทิ้งไว้แล้วจากไปเงียบ ๆ
##### บทที่ 2
แอบรัก
หลังจากผ่านลูกน้องจอมอวดดีและฝ่าเปลวแดดในยามเที่ยงมาได้แล้ว ใบหน้าหวานจัดจึงแดงปลั่งและจับไปด้วยเม็ดเหงื่อ พอก้าวขึ้นบันไดบ้านมาทุกสายตาของผู้นั่งอยู่บนโซฟาสีชาจึงกวาดสายตามาที่เธอเป็นสายตาเดียว
“อ้าว ทำไมถึงเดินมาล่ะพี่ขม?” สุปราณีถามขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะปกติเวลาไปไหนมาไหนพี่สาวของเธอจะใช้รถมอเตอร์ไซค์คันเก่าคู่ใจตลอดเวลา
“โดนคนงานของเตี่ยปล่อยยางลมจนแบนแต๊ดแต๋น่ะสิยัยหวาน” สุชีราตอบอย่างระอา พลางถอดหมวกปีกกว้างออกมาโบกลมไปมาแล้วมาทิ้งสะโพกกลมบนโซฟาสีชาตัวเดียวกันกับน้องสาว ดวงตาคมเฉี่ยวละจากใบหน้าสุปราณีที่ดูสดใสกว่าทุกวันมาหยุดที่ผู้มาเยือน
“สวัสดีค่ะคุณทศ” หญิงสาวกล่าวทักทายเสียงเรียบ
“สะ... สวัสดีครับ” ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อยืดโปโลกางเกงขายาวสีดำสวมถุงเท้าดูสุภาพกล่าวทักทายตะกุกตะกัก “รถมอเตอร์ไซค์เสียเหรอครับ” เพราะไม่รู้จะชวนหญิงสาวคุยเรื่องอะไรทศพลจึงถามออกไปอย่างนั้น สุชีราพยักหน้าไม่เปิดปากพูดอะไรคล้ายไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องที่ทำให้เธอหงุดหงิดอีก
“คุณขมงานเยอะเหรอครับ?”
สุชีราสบตาสีนิลที่ชอบหลบสายตาเธอบ่อย ๆ และมักจะแอบมองเวลาที่เธอเผลอ
“ทั้งเยอะ และยุ่งเลยล่ะค่ะ”
ทศพลเพียงพยักหน้าพลางถูมือไปมาเพราะไม่รู้จะเปิดประเด็นอะไรคุยกับหญิงสาว ด้วยว่าพื้นฐานของเขาเป็นคนคุยไม่เก่ง พอมาเจอคนคุยไม่เก่งด้วยกัน เรื่องที่เตรียมมาคุยด้วยจึงถูกตัดออกไปปริยาย พอชายหนุ่มเงียบไปสุชีราจึงหันมาสนใจน้องสาวที่ทำหน้าที่ต้อนรับ ‘แขกประจำ’ ของบ้านแทนบิดา
“แล้วเตี่ยไปไหนล่ะ?”
“เสี่ยสิญจน์รับตัวไปส่องพระน่ะพี่ขม”
คำตอบของน้องสาวทำเอาสุชีราเครียดหนักกว่าเดิม เธอไม่อยากให้พ่อไปสุงสิงกับเสี่ยสิญจน์ เพราะคนพวกนั้นมีประวัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่สำคัญคนในตำบลต่างยกย่องให้ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวนักเลงจึงไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย
แต่นั่นล่ะในเมื่อห้ามไม่ได้ สุชีราจึงได้แต่หงุดหงิด และสีหน้าของเธอในตอนนี้เองที่ทำให้ทศพลรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
“เตี่ยนะเตี่ย” หญิงสาวส่ายหน้าอย่างเอือมระอา แล้วตวัดสายตาคมเฉี่ยวที่แฝงแววดุดันมายังใบหน้าขาวสะอาดของชายหนุ่มที่มีเชื้อสายจีนและนั่งเจี๋ยมเจี้ยมปิดปากเงียบมานาน
“คุณทศมีอะไรจะคุยกับฉันคะ?”
“เอ่อ... ผมเอาเอกสารคำร้องยื่นขอทะเบียนเรือลำใหม่มาให้ครับ”
สุชีราพยักหน้า “ไม่เห็นต้องลำบากเลยนี่คะ ยื่นคราวหน้าฉันค่อยไปรับเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรครับคุณขม พอดีผมมีธุระกับอู่ต่อเรือในละแวกนี้ด้วย ก็เลยถือโอกาสนี้แวะมาเยี่ยมช่างทวีไปในตัว”
สุชีรายกคิ้วขึ้นสูงกับคำอธิบายของชายหนุ่ม “ธุระไกลจังเลยนะคะ”
ทั้งสายตาและน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่จริงจังของหญิงสาวพลอยให้ทศพลพูดอะไรไม่ออก สุปราณีที่อยู่รับแขกแทนพ่อมาพักใหญ่จึงแทรกขึ้น
“พี่ขมก็ พูดอย่างนี้สงสารคุณทศแย่ คุณทศอุตส่าห์ขับรถมาตั้งไกลนะคะ”
สุชีราไม่สนใจคำน้องสาวเท่าไหร่นัก นอกจากมองหน้าแขกผู้มาเยือนที่มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี “หมดธุระของคุณแล้วใช่ไหมคะ?”
“เอ่อ... ครับ” พอถูกถามตรง ๆ ทศพลจึงตอบไปตรง ๆ เช่นกัน
