เสน่หาจำแลง

154.0K · จบแล้ว
อาคาเซีย/แวววิวาห์/สลิลโรส/ผิงอัง
116
บท
2.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"นายเป็นใครกันแน่ ?"ชายหนุ่มยิ้มเย็นยกมุมปากขึ้น ในขณะที่ดวงตาเป็นประกายด้วยความปรารถนา"รหัสครับ... รหัสที่แปลว่าความลับ" บอกจบใบหน้ายียวนกวดประสาทของชายหนุ่มจึงยื่นเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจเมื่อสาวสวยหยาดเยิ้มแต่มีอุปนิสัยขัดกับใบหน้าอย่าง ‘สุชีรา’ มารับหน้าที่ดูแลอู่ต่อเรือ และต้องคอยคุมเหล่าคนงานจอมทโมนที่เพิ่งออกมาจากคุกจากตารางซึ่งมีนิสัยทะลึ่งตึงตัง อีกทั้งยังกักขฬะ เจ้าชู้กลุ้มกริ่ม หญิงสาวจึงต้องสวมบทโหดหากลวิธีต่าง ๆ มารับมือกับ ‘พวกขี้คุก’ ที่เธอแสนเกลียดชังปัญหาใหญ่ที่มาพร้อมกับ ‘นายรหัส’ คนงานหนุ่มมาดเซอร์ แสนอวดดี จอมยียวนกวนประสาทที่มิกลัวเกรงต่อการถูกลงโทษ ซึ่งแฝงตัวเข้ามาปฏิบัติภารกิจบางอย่างในอยู่ต่อเรือ ซ้ำยังชอบกระตุกหนวดแม่เสือสาวอย่างสุชีราเป็นว่าเล่นได้ทุกวัน เรื่องวุ่น ๆ จึงเกิดขึ้นและสร้างความปวดหัวให้สุชีราได้มิหยุดหย่อน ยิ่งนับวันเธอก็ยิ่งสงสัยในตัว ‘นายรหัส’ มากขึ้นจึงทำการสืบค้นหาประวัติของชายผู้นี้แต่สิ่งที่พบก็ทำให้หญิงสาวปวดหัวเป็นเท่าทวี ดังนั้นเธอจึงต้องค้นหาความจริงด้วยตนเอง กระนั้นยิ่งค้นหาก็ยิ่งถลำตัวลึกเพราะเสน่ห์หาอันร้ายกาจชนิดหาตัวจับได้ยากในตัวชายหนุ่มมาดเซอร์ผู้นี้กลับสร้างความหวั่นไหวให้นายสาวผู้นี้มากนัก...

นิยายรักโรแมนติกตลกสายลับรักหวานๆตำรวจรักแรกพบโรแมนติกพระเอกเก่ง

บทนำ เสน่หาจำแลง

เสียงเลื่อยไฟฟ้าซึ่งทำหน้าที่แบ่งไม้กระดานแผ่นโตออกจากกัน ก่อนนำขึ้นประกอบเป็นโครงสร้างคละเคล้าเสียงตอกตะปูโป๊กป๊าก กับฝุ่นขี้เลื่อยตลบอบอวลไปทั่วบริเวณอู่ต่อเรือ ยังเงียบสงบมากกว่าออฟฟิศติดแอร์ ซึ่งเป็นฐานบัญชาการที่ถูกสร้างให้ห่างออกไป

เหล่าคนงานใหม่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างขะมักเขม้นยังก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองไป ขณะเดียวกันยังมีคนงานเก่าอีกหลายคนที่ให้ความสนใจกับการถูกเรียกตัวเข้าพบของ ‘หัวหน้าช่าง’ อยู่ห่าง ๆ

ปึ้ง!

แฟ้มเอกสารแบบแปลนเรือถูกเจ้าของใบหน้าสวยจัด แต่ขัดกับบุคลิกกวาดลงจากโต๊ะทำงานด้วยความไม่พอใจ ก่อนตามมาด้วยเสียงวางที่ทับกระดาษ

“บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าไม่ให้รับแรงงานต่างด้าวและพวกขี้คุกเข้าทำงาน!”

เสียงตวาดของ ‘สุชีรา บรรณสาร’ ทำเอาผู้ถูกเรียกตัวเข้าพบอย่าง ‘นายชื่น’ หัวหน้าคนงานที่ยืนเอามือผสานกันในกิริยานอบน้อมถึงกับสะดุ้งเฮือก แต่ไม่วายอ้อมแอ้มออกมา

“เถ้าแก่เป็นคนอนุมัติ ผมเลย…”

“ผมเลยขัดไม่ได้!” หญิงสาวเค้นเสียงเย็นดักคออย่างรู้ทันแล้วกลอกตามองฝ้าเพดานสีชมพูอ่อนอย่างเหนื่อยใจที่ลูกน้องใต้บังคับบัญชาชอบขัดคำสั่งอยู่เนือง ๆ

“ครับ” นายชื่นพยักหน้ารับอยู่ในกิริยาสำรวมเหมือนเคย

“เฮ้อ… นายชื่นนะนายชื่น ฉันบอกปากเปียกปากแฉะไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ทำไมไม่รู้จักจำสักที”

คนหงุดหงิดหน้านิ่วคิ้วขมวดบอกบุญไม่รับเดินกอดอกมาทิ้งสะโพกกลมไว้บนขอบโต๊ะทำงาน ขณะที่สายตาดุยังไม่ละไปจากใบหน้าคล้ำแดดคล้ำลมของหัวหน้าคนงาน

“ผมบอกเถ้าแก่แล้วครับ แต่เถ้าแก่บอกว่าจะเคลียร์เรื่องนี้กับคุณขมเอง”

“หึ” หญิงสาวทำปากยื่น ดวงตาคมเฉี่ยวดุดันยังไม่ละไปจากใบหน้าของนายชื่น

“เถ้าแก่จะเคลียร์เอง แล้วเถ้าแก่ของนายชื่นเคยอยู่สำนักงานไหมล่ะ วัน ๆ ขลุกตัวอยู่กับวงพระเครื่อง เคยรับรู้อะไรบ้างล่ะ”

พอกล่าวถึงบิดาตัวเองสุชีราจึงหน้าหงิกงอบอกบุญไม่รับยิ่งกว่าเก่า เธอจึงล้วงโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตแล้วต่อสายหาเถ้าแก่ใหญ่ของอู่ต่อเรือ ‘พรทวีพาณิชย์’ ทันที

“เตี่ยอยู่ไหนคะ?”

คำถามแรกจากนายสาวทำเอานายชื่นหูผึ่ง

พอนายสาวหันหลังแล้วเดินกอดอกไปหยุดที่ตู้เลี้ยงปลาทองข้างกรอบหน้าต่างที่แขวนมู่ลี่กันแดดเอาไว้ หัวหน้าช่างจึงลอบปาดเหงื่อออกจากใบหน้าซึ่งมีริ้วรอยแห่งกาลเวลาพร้อมอุทานเบา ๆ

“บรรลัยแล้วกู”

“วงพระอีกแล้ว!”

เสียงเอะอะจากนายสาวทำเอานายชื่นถึงกับผ่อนหายใจออกมาโล่ง ค่อยหายใจได้ทั่วท้องกว่าเก่าหน่อยที่มีประเด็นใหม่ทำให้ลูกสาวเจ้านายเปลี่ยนความสนใจไปจากเรื่องคนงานชุดใหม่ได้

“เตี่ยจะส่องอะไรกันนักหนา!! พระเครื่องที่บ้านเราก็มีเป็นกรุแล้ว”

เถ้าแก่ใหญ่ของอู่ต่อเรือพูดอะไรมาบ้างนายชื่นไม่ได้ยิน เขารู้แค่ว่าตอนนี้วงหน้าสวยของนายสาวเป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่าแม่เสือนัก

“เดี๋ยวเสี่ยสิญจน์ก็ต้มเตี่ยจนเปื่อยอีกหรอก!!”

สุชีราของขึ้นทันทีที่รู้ว่า ‘พรทวี’ บิดาของเธอกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน และความโกรธที่พุ่งขึ้นกะทันหันนี้เองจึงทำให้ สุชีราลืมถามเรื่องสำคัญไปเลย พอวางสายจากเถ้าแก่ใหญ่แล้ว เธอจึงหันกลับมาพบหัวหน้าคนงานซึ่งยังยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่

หญิงสาวจึงถลึงตาดุใส่“เอ้า ยังไม่กลับไปทำงานอีก”

โดนดุเข้าอีก นายชื่นจึงผงกศีรษะให้แล้วกลับออกไปจากออฟฟิศโดยดี แต่พอพ้นจากห้องทำงานติดแอร์มาได้ นายชื่นก็ไม่วายบ่นกระปอดกระแปดไปตลอดทาง

ความเงียบสงบกลับเข้ามาอีกครั้งเมื่อในห้องเหลือเธอเพียงผู้เดียว หญิงสาวเดินเอื่อย ๆ มาทิ้งตัวนั่งเหยียดกายบนเก้าอี้ตัวนุ่มซึ่งบุหนังอย่างดีเอาไว้ มือเรียวขาวสะอาดผสานไว้ที่หน้าท้องแบนราบ

ทว่าสายตาวาววับดุจนางเสือยังเต็มไปด้วยความเครียดอัดแน่น ระหว่างคิดไม่ตกกับเรื่อง ‘คนงานชุดใหม่’ ความคิดหนึ่งจึงแทรกเข้ามา หญิงสาวดีดตัวขึ้นในกิริยากระฉับกระเฉงแล้วเปิดประตูออกกว้างพร้อมกวาดสายตาหาใครคนเดิมที่เพิ่งถูก ‘ตะเพิด’ ออกจากห้อง

“นายชื่น”

น้ำเสียงเล็กหากทรงอำนาจมีผลให้นายชื่นซึ่งกำลังสั่งงานลูกน้องกระวีกระวาดเข้ามาหานายสาวทันที

“ครับ! มีอะไรให้รับใช้ครับคุณขม?” หัวหน้าคนงานเอามือผสานกันไว้อย่างนอบน้อมขณะถาม

“พรุ่งนี้เช้าตอนแปดโมงตรงช่วยเรียกคนงานมาประชุมด้วย”

“ครับ” ผู้รับคำสั่งผงกศีรษะ

“อ้อ แล้วอย่าลืม ‘ลอกคราบ’ พวกขี้คุกออกด้วยนะ ฉันไม่ชอบ” ในน้ำเสียงนั้นเผยความดูหมิ่นออกมาชัดเจน

“ครับคุณขม” นายชื่นรับคำสั่งอีกเช่นเคยและยืนอยู่ตรงนั้น รอให้นางพญาเสือกลับเข้าถ้ำไปแล้วนั่นล่ะจึงผ่อนลมหายใจออกมายาวแล้วเกาศีรษะที่ล้านเตียนของตัวเองแกก ๆ

“เฮ้ย… งานเข้าอีกแล้วไงกู”