บทที่ 3 จบตอน
เธอเกาะแขนแข็งแรงนั้นอย่างออดอ้อนช้อนดวงตากลมโตหวานโศกมองเขาอย่างหวานซึ้งทำให้คนที่ตัวโตกว่ามองด้วยสายตารักใคร่เต็มเปี่ยมอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงจูบหน้าผากมนเบาๆ
“อ้อนอย่าไปทำท่าแบบนี้กับใครนะรู้ไหมมันทำให้ผู้ชายแทบคลั่งเพราะสายตาแบบนี้” เขาพูดเสียงหวาน
“นนท์บ้าพูดอะไรน่าเกลียดเชียวไม่เอาแล้วไม่พูดด้วยแล้ว กลับบ้านดีกว่า”
สาวน้อยหน้าหวานกระเง้ากระงอดอย่างน่ารัก แต่ภาพที่ทั้งสองหยอกเย้ากันโดยไม่สนใจเพื่อนที่อยู่ในงานโดยเฉพาะสาวสวยรวยเสน่ห์อย่าง ภูริตา และ มิรันตี ซึ่งเคยเป็นน้องสามีและอดีตพี่สะใภ้กันมาแล้วกลายมาเป็นเพื่อนซี้กันนั้นเกิดอาการไม่พอใจอย่างยิ่ง
“ดูสิคะพี่มิรัน นังนั่นมันออดอ้อนนนท์จนนนท์ไม่มีเวลามาสนใจเราเลย มันมีดีอะไรนักนะกระจอกก็กระจอก ยาจกก็ไม่ปานนนท์ยังหลงมันอยู่ได้”
สาวน้อยหน้าตาสะสวยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ราคาแพงนั้นบิดเบ้อย่างขุ่นเคืองแววตาเกรี้ยวกราดมองภาพสองหนุ่มสาวที่หยอกเย้ากันอย่าไม่พอใจ
“เห็นสิคะน้องริต้า ฮึนี่มันคงทุ่มหมดตัวงัดลีลาเด็ดมาใช้สิคะน้องนนท์ถึงได้หลงขนาดนี้”
มิรันตีสาวสวยรุ่นพี่อดีตพี่สะใภ้ยุส่งอย่างเห็นช่องทางที่จะทำให้อโนมาเจ็บปวดและสูญเสีย มิรันตีมองไปที่อโนมาขุ่นแค้นในใจและพยายามเก็บซ่อนไว้อย่างมิดชิด
อโนมาเหนือเธอทั้งแฟนที่รูปหล่อเพียบพร้อมอย่างรัชชานนท์ และได้เรียนในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อ ได้รับการยอมรับจากคุณเสาวลักษณ์ที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าระเบียบเจ้ายศเจ้าอย่างได้ ทั้งๆ ที่อโนมาเป็นแค่ลูกสาวข้าราชการบ้านนอกกระจอกๆ อย่างที่ภูริตาว่า แต่มันช่างแตกต่างกับเธอนักเพราะว่าเธอเป็นคนบ้านเดียวกับอโนมา ครอบครัวของเธอทำการค้า และมีโรงสีประจำตำบลใครๆ ก็นับหน้าถือตาเถ้าแก่หยงกันทั้งบางเพราะความที่เถ้าแก่หยงเป็นคนดีมีน้ำใจ ไม่เคยเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน และลูกสาวคนเดียวอย่างมิรันตีก็ได้รับความสนใจไปด้วยแต่ด้วยความที่หลงตัวเองและใฝ่สูงทะเยอทะยานทำให้เธอพลาดตกลงไปในวังวนสวาทตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมปีที่สามทำให้ตั้งท้องก่อนวัยอันควรและแอบไปทำแท้งจนตกเลือดและความก็แตกไปถึงหูเถ้าแก่หยง ซึ่งนั่นคือจุดเปลี่ยนชีวิตของเธอ
เมื่อเถ้าแก่หยงตัดเป็นตัดตายกับเธอทำให้เธอต้องประชดโดยการทำตัวแหลกเหลวให้คนเป็นพ่อได้อับอายแต่มันกลับทำให้เถ้าแก่หยงยิ่งระอา และแสนเสียใจ แม้จะเสียเรื่องลูก แต่เถ้าแก่หยงซึ่งเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารีก็ยังทำความดี ทำบุญทำทานอยู่เสมอ เขายังทำบุญสร้างวัดวา สร้างโรงเรียน ให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนนั่นก็รวมถึงเด็กหญิงอโนมาในตอนนั้นด้วย หนำซ้ำเถ้าแก่หยงยังชอบเปรียบเธอกับอโนมาอยู่บ่อยๆ ว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว
อโนมานั้นรักดีน่าชื่นชมยกย่องผิดกับตนที่ไม่เอาไหนแล้วยังทำให้ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งนั่นยิ่งเป็นการฝังรอยริษยาให้หยั่งลึกในใจที่มืดบอดของมิรันตีเรื่อยมาและนานวันมันยิ่งฝังลึกเกินเยียวยา
“นังนี่น่ะมันช่างออดอ้อนสมชื่อมันค่ะน้องริต้าพี่มิรันรู้จักมันดีเพราะถ้ามันไม่ได้พ่อพี่ส่งเสียให้ทุนเรียนน้ำหน้าอย่างมันคงไม่ได้เรียนโรงเรียนดีประจำจังหวัดและสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของเมืองไทยได้หรอกค่ะ นังนี่น่ะมันร้าย” มิรันตีรีบใส่ไฟ
“พี่มิรันบอกว่ารู้จักมันจริงๆ ใช่ไหมคะ”
“จริงสิคะมันเป็นคนเชียงรายบ้านเดียวกับพี่มิรัน แต่พี่ไม่ค่อยอยากบอกใครว่ารู้จักมันหรอกค่ะน้องริต้า พี่อายเพราะถ้าใครรู้ว่าพี่รู้จักนังเด็กบ้านนอกกระจอกๆ ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแล้วยังทำตัวเหลวแหลกอีกนะคะ พี่ล่ะไม่กล้าบอกใครเลยล่ะค่ะว่ารู้จักมัน”
มิรันตีใส่ไฟคนที่เกลียดชนิดว่าไม่มีมูลความจริงเลยสักนิดไอ้ที่ว่าเหลวแหลกน่าจะเป็นตัวเองเสียมากกว่า
“จริงเหรอคะพี่มิรันที่ว่ามันเคยเหลวแหลกมาก่อน...ต๊าย แล้วมันยังกล้ามาตีหน้าซื่อแอ๊บแบ๊วอีกเหรอคะเนี่ย ไม่ได้การแล้วเราต้องช่วยกันทำให้นนท์เห็นธาตุแท้ของมันนะคะไม่อย่างนั้นนนท์ต้องโดนหลอกไปอีกนานเลยล่ะค่ะ”
สาวสวยลูกเจ้าของร้านเพชรร้อนรนจนลืมสังเกตสีหน้าสะใจของรุ่นพี่สุดแสบ
“ใช่ๆ จริงด้วยค่ะ และพี่ก็มีวิธีคะน้องริต้า”
มิรันตีได้ทีรีบเสนอแผนอันร้ายกาจของตัวเองโดยที่เธอเองก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่ามันจะส่งผลให้ชีวิตที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาของสาวน้อยคนหนึ่งต้องแปดเปื้อนแต่ถึงรู้เธอก็คงจะไม่สนใจว่ามันจะเป็นอย่างไรเพราะถึงอย่างไรเธอคิดเสมอว่าอโนมาต้องได้รับบทเรียนบ้าง
“ยังไงคะ”
“มาใกล้ๆ พี่มิรันสิคะ...”
