เล่ห์เดียงสา

19.0K · จบแล้ว
พันสิงห์
17
บท
10.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาจำต้องรับเธอเป็นภรรยาเพราะความสงสาร แต่เมื่ออยู่ด้วยกันเขาก็บังเกิดความรักขึ้นมาอย่างหักห้ามใจไม่ไหว

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันนิยายรักเศรษฐีดราม่า

1

เสียงจากวงเหล้าที่ตั้งวงตั้งแต่หัวค่ำจนดึกดื่น ทำให้สาวน้อยนอนไม่หลับเอาเสียเลย เธอเป็นเด็กสาวลูกคนงานก่อสร้างที่บิดามารดาเร่ร่อนรับจ้างทำงานไปเรื่อย เมื่อก่อนเธออยู่กับยาย แต่พอยายเสียก็ต้องมาอยู่กับบิดามารดาผู้ให้กำเนิด เธอเรียนจบแค่มัธยมหกก็ไม่ได้เรียนอีกเลย เพราะบิดามารดาไม่มีเงินส่งเสีย

เด็กสาววัย 19 ถอนใจเฮือกใหญ่ บิดามารดาทำท่าจะยกเธอให้คนโน่นคนนี่วุ่นวายไปหมด แต่เธอก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง เผลอหลับไปเพราะยาแก้แพ้ ตื่นขึ้นมารู้สึกอ่อนเปลี้ยแถมยังง่วงงุนเสียอีก แต่ประสาทสัมผัสยังได้ยินเสียงวงเหล้าด้านนอกที่ยังไม่เลิกรา

นีรนุชพลิกกายไปอีกฝั่งหนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงกุกๆ กักๆ เธอพลิกกลับมาก็ต้องสะดุ้งสุดตัว สุรเชษฐ์นั่นเอง เขาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และคุมคนงานก่อสร้าง ที่นี่ บิดามารดาของเธอเคยทำอยู่อีกเจ้า แต่ย้ายมาอยู่กับสุรเชษฐ์ และอนาคตอาจจะย้ายไปอยู่กับคนอื่น แล้วแต่เขาจะจ้าง

“คุณเชษฐ์...” กลิ่นเหล้าฉุนกึกทำให้เธอต้องเบือนหน้าหนี แคมป์ที่ที่พักคนงาน มันไม่ค่อยปลอดภัยนักหรอก ทุกวันเธอต้องคอยหลบสายตาคนงานหื่นๆ ที่แอบมองเธออาบน้ำบ้าง อะไรบ้าง บิดามารดาก็ไม่ใคร่จะสนใจนักหรอก ตกเย็นก็ตั้งวงกินเหล้า เธอเองก็ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของพวกท่าน

“อื้อ...” เธอหลบไม่พ้นริมฝีปากร้อนรุ่มก็จุมพิตลงมาอย่างหนักหน่วง มือหนาของเขาเคล้นคลึงไปทั่วเรือนร่างบอบบางของวัยสาว พยายามเบี่ยงหลบ แต่หลบไม่พ้น

สุรเชษฐ์ไม่อยากทำแบบนี้ แต่ความกำหนัดที่เกิดขึ้นทำให้เขากดร่างเด็กสาวล็อกเอาไว้อย่างเหนี่ยวแน่น

นั่งดื่มไปจนดึก ก่อนจะเกิดอารมณ์ทางเพศที่รุนแรง ร่างกายร้อนผ่าว เขาโดนวางยาเข้าให้แล้ว และโดนบิดามารดาของนีรนุขชวนนอนค้างในแคมป์ของตัวเองที่แบ่งเป็นห้องๆ กั้นด้วยสังกะสี เขาอยากรีบกลับที่พักแต่ร่างเล็กหอมกรุ่นที่นอนอยู่บนฟูกนอนเก่าๆ ทำให้เขายื่นมือไปปิดประตูอย่างเบามือ

แท่งกายร้อนผ่าวแทบปริแตก รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แม้จะเมาแต่สติเขายังพอมี และเป็นคนคอแข็ง พ่อแม่ของนีรนุชอยากยัดเยียดลูกสาวให้เขาแทบประเคนใส่ถาดให้ เขารู้ดี

เขาเป็นหนุ่มโสดอายุ 33 ปี รับเหมาก่อสร้างไปเรื่อย มีคนงานผลัดเปลี่ยนมาให้จ้างตลอด บางทีก็ต้องจ้างแรงงานต่างด้าว ทำงานไม่เป็นหลักแหล่งจึงไม่เคยคิดจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน

“อื้อ... ปล่อยหนูเถอะค่ะ” เธอกำจิกคอเสื้อของเขา กลิ่นเหล้าคละคลุ้งทำให้เธอรู้สึกมึนเมาตามไปด้วย

“ปล่อยไม่ได้” เสียงของเขาแหบพร่า

เรื่องรับผิดชอบคงไม่ เขาคิดอย่างพร่าเลือนเต็มที พ่อแม่เด็กคงร้อนเงิน เสร็จกิจค่อยจ่ายเงินให้เป็นค่าทำขวัญแล้วกัน หลังจากนี้เขาต้องไปทำงานที่จังหวัดอื่นอีก

“อื้อ... อย่าทำหนูเลยค่ะ”

เธออ้อนวอนเขา เนื้อตัวถูกปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากตัวอย่างง่ายดาย ตอนหัวค่ำกินยาแก้แพ้เข้าไปเนื่องจากรู้สึกเหมือนจะเป็นหวัด เธอเลยมึนงงอยู่มาก ตื่นขึ้นมาเพราะนอนหลับไปเต็มอิ่ม และได้ยินว่าบิดามารดายังตั้งวงเหล้ากันอยู่ข้างนอก

“ไม่ทำไม่ได้หรอก ฉันปวดไปหมดแล้ว ตัวก็ร้อนเป็นไฟ ทำท่าว่าจะตายอยู่คาอกเธออยู่นี่แหละ” เสียงของสุรเชษฐ์แหบพร่าเกินเยียวยา เขาดึงรั้งเสื้อผ้าตัวหลวมของเธอออกจากกาย เธอดิ้นหนีอึกอักอยู่ใต้ร่างเขา แต่กลับดิ้นหนีไม่รอด สมองมึนเบลอกับรสจูบซาบซ่านของเขา สุดท้ายเขาก็แนบชิดเนื้อกายร้อนผ่าวเปล่าเปลือยเข้ามาหา ลิ้นหนากดูดเม้มยอดอก เขาแทบจะกลืนกินร่างหอมหวานของเด็กสาว

“อื้อ... ตรงนั้นไม่ได้นะคะ” เธอดันศีรษะของเขาออกห่าง แต่มันแทบไม่เป็นผลเมื่อเขาลามเลียกลีบกายสาวของเธอ

ลิ้นร้อนผ่าวสากระคายของเขาทำให้เธอหัวหมุนติ้วๆ เหมือนลูกข่าง

“อ่า... ตรงนั้นไม่ได้นะคะ”

ตรงไหนที่เขาแตะต้องเธอก็บอกว่าไม่ได้ไปเสียหมด แต่ในเวลานี้เขาไม่ได้สนใจคำปฏิเสธของเธอเลยแม้แต่น้อย มือหนากดมือน้อยลงกับฟูกนอนเก่าๆ เขานาบเธอเอาไว้ทั้งร่าง ไม่ให้เธอดิ้นหนีไปไหนได้