เล่ห์วิวาห์

62.0K · จบแล้ว
ทีปสิขา
31
บท
764
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

พิธีแต่งงานใหญ่โตท่ามกลางความยินดีของแขกเหรื่อ ที่พากันอวยพรให้คู่บ่าวสาวครองรักกันยาวนานตราบฟ้าดินสลาย เป็นเพียงฉากละครที่เจ้าบ่าวเล่นตามความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

นิยายรักประธานพระเอกเก่งแต่งงานแทนพาลูกกหนี

บทที่ 1 เป็นเพียงลูกสาวคนขับรถ

ภายในโรงพยาบาลหรู ขนาดใหญ่ใจกลางเมือง คุณหญิงทองฤดี ทรัพย์รัตนะ หญิงชราอายุราวเจ็ดสิบปี นอนป่วยด้วยโรคหัวใจ และโรคอื่น ๆ หลายอย่าง รอบเตียงเวลานี้มีเพียงคนในครอบครัว ยืนรายล้อมด้วยความเป็นห่วง ก่อนหญิงชราจะเลื่อนสายตามายังสะใภ้คนโตของเธอ ด้วยสายตามีความหมาย พลันเอ่ยขึ้น

“รดา”

“คะคุณแม่” หญิงกลางคนขานรับด้วยกิริยานอบน้อม รดาวรรณ ทรัพย์รัตนะ เป็นสะใภ้ที่คุณหญิงทองฤดีไม่ยอมรับตั้งแต่แรก ทว่าไม่อาจขัดขวางลูกชายได้ จึงจำใจรับเธอเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลทรัพย์รัตนะอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง จวบจนเมื่อลูกชายอย่าง ทวีศักดิ์ สิ้นอายุขัยด้วยโรคหัวใจ ฐานะของรดาวรรณ ก็ถูกลดทอนลงอย่างเห็นได้ชัด

ทว่าเธอยังมีลูกชายอย่าง วเรณย์ ทรัพย์รัตนะ หลานชายหัวแก้วหัวแหวนของทองฤดี ที่มั่นหมายให้เขาสืบทอดธุรกิจหลายพันล้านบาทต่อจากเธอ

“เมื่อวานได้พา เรณย์ ไปพบครอบครัวของ เชษฐา หรือยัง” คำถามของคุณหญิงทองฤดี ทำให้รดาวรรณอึกอัก แล้วหันไปมองหน้าลูกชายครู่หนึ่ง ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแล้วพูดขึ้น

“พอดีว่าเรณย์ติดงานประชุมลูกค้า ที่นัดกับครอบครัวของเชษฐาไว้ จึงเลื่อนออกไปก่อนค่ะ” หญิงชรานิ่งเงียบ แล้วเลื่อนสายตาไปยังหลานรักของตัวเองด้วยความผิดหวัง วเรณย์ บ่ายเบี่ยงเรื่องการดูตัวกับ ไรยา มาหลายครั้ง ทุกครั้งมักหาข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อไม่ไปพบตามนัดหมาย

“ย่ากำชับแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าให้ไปพบกับหนูไรยาให้ได้ แต่ทำไมยังบ่ายเบี่ยง ต้องให้ย่าตายก่อนใช่ไหมถึงจะยอมทำตาม”

“อาจเพราะหนูไรยาเป็นเพียงลูกสาวคนขับรถของทวีสินหรือเปล่าคะ หลานเรณย์ถึงไม่อยากผูกไมตรีด้วย” โสรยาสะใภ้คนเล็กเอ่ยขึ้นลอย ๆ ก่อนคุณหญิงทองฤดีจะแผดขึ้น

“ฉันไม่ได้ถามหล่อน ไม่ต้องเสนอความคิดเห็น” โสรยาบึ้งหน้าแล้วเงียบปากในทันที

“จริงอยู่ที่เชษฐาเคยเป็นคนขับรถของครอบครัวเธอ แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว ด้วยความดีความชอบของเขา ฉันส่งเสริมครอบครัวเขา จนตอนนี้มีบริษัทเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ใหญ่โตเท่าของเรา แต่ถ้าให้นับเรื่องนิสัยใจคอละก็ ไม่มีใครแสนดีเท่าครอบครัวนี้แล้ว ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานธุรกิจของเขาจะต้องเจริญก้าวหน้าไม่แพ้เราอย่างแน่นอน” โสรยาแอบยิ้ม พลันเลื่อนสายตาเย้ยหยันไปยังรดาวรรณ

“ตอนนี้ย่าป่วยเต็มที จะมีลมหายใจได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ให้ย่าได้เห็นงานแต่งของเรณย์ก่อนตายจะได้ไหม” คุณหญิงทองฤดีพูดกับวเรณย์ ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ชายหนุ่มได้แต่นิ่งเงียบไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เพราะเขามีแฟนที่คบหากันมานานนับสิบปีอยู่แล้ว

“ว่าไงเรณย์” หญิงชราเอ่ยทวง

“ผมว่าคุณย่าอย่าเพิ่งคิดมากเลยนะครับ คุณย่ายังต้องอยู่กับพวกเราไปอีกนาน” เขาบ่ายเบี่ยงเช่นเดิม และในกลางดึกคืนวันนั้น ขณะที่รดาวรรณกำลังบีบนวดให้กับทองฤดี อยู่ ๆ หญิงชราก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง

“ถ้าเธอบังคับให้เรณย์แต่งงานกับหนูไรยาไม่ได้ ฉันก็จำเป็นต้องยกทรัพย์สินที่เหลืออยู่ให้เป็นของ นวพล”

“แต่ว่าพลยังเด็กอยู่เลยนะคะ ยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำ”

“แต่นวพลเป็นหลานเหมือนกัน เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของทวีสิน เป็นทายาทของทรัพย์รัตนะเช่นกัน” สายตาของร­ดาวรรณสัดส่ายไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนหญิงชราจะเอ่ยขึ้น

“เรื่องทรัพย์สินต่าง ๆ จริงอยู่ที่ฉันแบ่งไว้ตามสัดส่วนเท่า ๆ กัน แต่ทรัพย์สินของบริษัทยังเป็นส่วนกลาง ฉันจะยกให้ใครก็เป็นสิทธิ์ของฉัน เดิมทีฉันตั้งใจไว้ให้กับทวีศักดิ์ แต่ว่าเขาอายุสั้นไปก่อน ก็ควรตกเป็นของวเรณย์” รดาวรรณตั้งใจฟังอย่างเงียบ ๆ ก่อนหญิงชราจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“มันอยู่ที่ความสามารถของเธอว่าจะทำให้วเรณย์แต่งงานกับหนูไรยาได้ไหม แต่ถ้ามันลำบากเธอมากนัก ฉันจะแนะนำหนูไรยาให้กับนวพลแทนก็ได้” สายตาตั้งมั่นของทองฤดี ทำให้หญิงกลางคนหวาดหวั่นขึ้นมา

“พรุ่งนี้รดาจะไปคุยกับวเรณย์ให้ค่ะ” รดาวรรณรีบค้าน ด้วยกลัวทรัพย์สินชิ้นสุดท้ายจะตกไปอยู่ในมือของโสรยา

ภายในบ้านหลังใหญ่ของเชษฐา ขณะที่ทุกคนกำลังกินอาหารมื้อเย็นอยู่นั้น ชายกลางคนสังเกตเห็นลูกสาวนิ่งเงียบ เอาแต่เขี่ยข้าวในจานไปมาคล้ายครุ่นคิดบางอย่าง

“ไรยา คิดอะไรอยู่เหรอลูก” คำถามของบิดาทำให้หญิงสาวส่ายศีรษะปฏิเสธ

“เปล่าค่ะ”

“คิดเรื่องเมื่อวานใช่ไหม” ไรยาชะงักนิ่ง ก่อนชายกลางคนจะเอื้อมมาจับมือเธอไว้แน่น

“ความจริงพ่อไม่ได้เห็นด้วยกับคุณหญิงทองฤดีเท่าไหร่ จริงอยู่ที่พ่อเคยช่วยชีวิตคุณหญิงท่านไว้ หากท่านจะตอบแทนให้เราสองครอบครัวเกี่ยวดองกันพอจะเข้าใจได้ แต่ว่าท่าทางของคุณเรณย์ที่บ่ายเบี่ยงมาตลอด แสดงให้พ่อเห็นว่าเราควรถอย”

หญิงสาวได้ยินดังนั้นรู้สึกผิดหวังขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ความจริงแล้วเธอแอบชอบเขามาตั้งแต่เด็ก พยายามเข้าหาและทำความคุ้นเคยกับวเรณย์ทุกครั้งที่มีโอกาส ทว่าเป็นเขาเองที่ไม่เคยลดตัวลงมาเหลียวแลเธอเลยสักครั้ง หญิงสาวปั้นหน้าพูดกับบิดาพร้อมรอยยิ้ม

“ถ้าหากว่าหนูได้แต่งงานกับคุณเรณย์จริง ๆ ครอบครัวเราก็จะมีเครือข่ายลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก ไม่ดีเหรอคะ” ชายกลางคนยกยิ้ม

“ส่วนนั้นก็ถูก แต่เขาไม่ได้รักลูกนะ” สายตาของบิดาเอ่ยเตือนด้วยความจริงใจ ก่อนหญิงสาวจะปล่อยยิ้มแล้วตักอาหารขึ้นมาทาน ไม่ฟังคำเอ่ยห้ามของบิดาที่เป็นห่วงตลอดเวลา