บทที่ 1 แรกพบเจอ
ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติค่อนข้างสงบมีความเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การนั่งคุยเรื่องสำคัญ และเพลิดเพลินไปด้วยหลากหลายเมนูสุดพิเศษของทางร้าน
แก้มหวานนั่งก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า ใจดวงน้อยเต้นกระสับกระส่าย ขณะนี้สำหรับเธอค่อนข้างอึดอัดเหลือเกินจนแทบอยากลุกขึ้นหนีเสียประเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจหญิงวัยกลางคนที่นั่งข้างชายหนุ่ม
‘ทำไมต้องเป็นเขาด้วย’ มือเล็กจับชายกระโปรงด้วยอาการประหม่า
เธอไม่นึกเลยผู้ชายนัดดูตัววันนี้จะเป็นคนเดียวกันซึ่งเคยเจอเมื่อห้าปีก่อน
“หนูหวานจ๊ะ”
“คะ” เสียงของหญิงวัยกลางคนปลุกร่างอรชรสะดุ้งตื่นจากภวังค์ แก้มหวานชำเลืองมองชายหนุ่มเบื้องหน้าแวบหนึ่งก่อนหันไปมองขอบฟ้ามารดาของเขา
“หนูอยู่กับพี่เขาไปก่อนนะ ป้าจะไปเข้าห้องน้ำ”
“หวานไปเป็นเพื่อนค่ะ” แก้มหวานตั้งท่าจะลุกขึ้นตามหลังขอบฟ้าแต่ถูกปฏิเสธ จำใจนั่งกลับเหมือนเดิมและยังคงไม่มองหน้าเขา กระทั่งเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
“นี่เธอ บอกแม่ฉันไปสิว่าไม่อยากแต่งงานกับฉัน ไม่ต้องห่วงฉันมีค่าตอบแทนให้ถ้าเธอยอมตกลง”
ควินตันหนุ่มลูกครึ่งไทย – อิตาลี เชื้อสายจีนยื่นข้อเสนอแก่แก้มหวานลูกสาวเพื่อนสนิทของแม่ เขาไม่ได้อยากแต่งงานด้วยซ้ำแต่ถูกแม่บังคับ ฉะนั้นนี่จะเป็นวิธีเดียวสามารถสลัดผู้หญิงตรงหน้าไปพ้นคือการเอาเงินมาล่อ
“หวานไม่กล้าค่ะ” ตอบเสียงแผ่ว เธอไม่อยากทำให้ผู้มีพระคุณเสียใจ เนื่องจากขอบฟ้าเป็นฝ่ายขอร้องให้เธอแต่งงานกับเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง
“แสดงว่าเธออยากแต่งงานกับฉัน” ควินตันเลิกคิ้วเข้มมองคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างจับผิด
“ไม่ใช่ค่ะ” ปฏิเสธทันขวับ
“แล้วยังไง”
“เฮียควินคะ หวานบอกไม่ได้ค่ะ” เธอส่ายหัวไปมาเล็กน้อย หลุบตาต่ำมองพื้นกลัวจะโดนล้วงความลับ
“อย่าเรียกฉันด้วยสรรพนามแบบนั้น เราไม่ได้สนิทกัน” ควินตันยกยิ้มมุมปากอย่างเหยียดคนตรงหน้า ผู้หญิงอย่างเธอนี่ยังไงกันแน่เขาอุตส่าห์เสนอเงินให้แล้วยังไม่ยอมรับอีก สงสัยหวังมรดกก้อนโต
“ขอโทษค่ะ” แก้มหวานหน้าเจื่อน คาดไม่ถึงผู้ชายตรงหน้าท่าทางสุภาพและอ่อนโยนจะทำให้เธอรู้สึกชาวาบกับคำพูดเมื่อสักครู่
“ถ้าเธอยืนยันจะแต่งงานกับฉันให้ได้ เตรียมตัวไว้เลยเพราะฉันจะไม่ใจดีกับเธอหรอกและอย่าหวังว่าจะมีความสุขด้วย” เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกทำคนฟังหนาวสะท้านทั้งกาย
“คุยอะไรกันท่าทางเคร่งเครียดเชียว” ไม่ทันทั้งคู่จะสนทนามากมาย เสียงหญิงวัยกลางคนแทรกขึ้น
“เปล่าครับคุณแม่”
“เหรอ” ขอบฟ้ามองลูกชายก่อนชำเลืองมองแก้มหวานนั่งหน้าซีด
“ครับ”
“งั้นตอนนี้ควินกับหนูหวานได้เจอกันแล้ว เอาเป็นว่าแม่จะรีบหาฤกษ์แต่งงานให้เร็วที่สุดดีไหม”
“ตามใจคุณแม่เลยครับ ผมขอตัวก่อนละกัน”
“เดี๋ยวสิ จะไปแล้วเหรอ” ขอบฟ้ามองตามแผ่นหลังกว้างของลูกชายจนลับหาย ส่ายหัวไปมาเล็กน้อยและพ่นลมหายใจเฮือกหนึ่ง
“พี่เขาก็เป็นแบบนี้แหละหนูหวาน อย่าสนใจเลย”
“ค่ะ”
“ป้าขอบใจหนูหวานมากนะ ยอมตกลงแต่งงานกับลูกชายป้า” ขอบฟ้าเอื้อมมือไปกุมมือเล็กของลูกสาวเพื่อนสนิท เธอรักและเอ็นดูแก้มหวานมากดั่งบุตรคนหนึ่ง
“ค่ะ”
หลังจากแก้มหวานพูดคุยกับหญิงวัยกลางคนสักพักก็พากันแยกย้าย เธอรีบมุ่งหน้ากลับบ้านที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง ซึ่งไร้บุพการีและญาติพี่น้อง
หญิงสาวแบกร่างเล็กทรุดกายกับโซฟาตัวเก่ากลางบ้านด้วยความรู้สึกว้าเหว่ กวาดสายตามองรอบห้องก่อนหลับตาพริ้มอย่างเหนื่อยล้า
เธอเพิ่งสูญเสียมารดาเมื่อสองเดือนด้วยโรคหัวใจ ส่วนบิดาก็เสียชีวิตตั้งแต่สองปีก่อนเพราะอุบัติเหตุ ตอนนี้เธอไม่ต่างจากหัวเดียวกระเทียมลีบ โชคดีหน่อยที่มีขอบฟ้าเพื่อนสนิทแม่คอยดูแล
ฉะนั้นเธอไม่อยากทำให้ท่านเสียใจจึงไม่สามารถปฏิเสธการแต่งงานกับควินตันได้ตามคำสั่งชายหนุ่ม ย่อมทราบดีเขาไม่ชอบตัวเองแต่เธอไม่มีทางเลือกเพราะเป็นคำขอร้องผู้มีพระคุณ
“หวานขอโทษนะคะคุณควินตัน แต่หวานไม่อยากทำให้คุณป้าเสียใจ” ชีวิตเธอไม่มีทางเลือกมากนัก โชคชะตามักเล่นตลกกับเธอเสมอ ดังนั้นทำได้เพียงแค่ยอมรับและเดินหน้าต่อไป
สิ่งหนึ่งที่เธอคาดไม่ถึงเกี่ยวกับควินตัน คือไม่คิดเลยเขาจะเป็นผู้ชายคนนั้นเมื่อห้าปีก่อน แถมเธอดันมีความลับบางอย่างให้เขาล่วงรู้ไม่ได้ไม่อย่างนั้นคงโดนเกลียดแน่นอน
“ทำไมต้องเป็นคุณด้วย” เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความหนักใจปนความรู้สึกผิด
สุดท้ายแก้มหวานสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว เดินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้านตรงไปห้องนอน เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำและเข้านอน เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนเทอมสุดท้ายของปีการศึกษา อีกไม่นานเธอจะเรียนจบแต่น่าเสียดายแม่ด่วนจากไปเสียก่อน ทำให้ไม่ทันเห็นความสำเร็จของตัวเอง
“แม่คะ หวานคิดถึงแม่จังเลย” เธอนำกรอบรูปมารดามากอดแนบอกก่อนปิดตาสนิทพลางครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
