ตอนที่ 5 (5.2)
นิโคลัสพาอีวานมาส่งที่บ้าน พุดแก้วมองเขาด้วยสายตาตำหนิและไม่พอใจ แต่ไม่แสดงความรู้สึกต่อหน้าหลานชาย สองน้าหลานกอดหอมแก้มกันตามปกติ
“เข้าบ้านไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีกว่า อีวาน” หญิงสาวพูดกับหลานชายเบาๆ
“ครับ” อีวานรับคำเดินเข้าบ้านอย่างว่าง่าย
“ใครให้คุณพาหลานไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ไม่ทราบ” พุดแก้วเปิดฉากทันทีที่อีวานเดินเข้าไปในบ้านแล้ว
“ผมมีสิทธิ์จะพาหลานไปไหนมาไหนเหมือนกัน เพราะผมเป็นลุง” นิโคลัสอ้างสิทธิ์หน้าตาเฉย
“คุณ” พุดแก้วพูดไม่ออก ไม่คิดว่าเขาจะมาไม้นี้
“ทำไม เถียงไม่ออกล่ะสิ อย่าลืมว่าผมก็เป็นลุงมีสิทธิ์ใกล้ชิดกับหลานเหมือนคุณ” นิโคลัสยิ้มยั่ว
“แต่ฉันเป็นผู้ปกครอง เป็นคนดูแลอีวานมาตั้งแต่เกิด คุณจะทำอะไรควรจะบอกฉันก่อน” พุดแก้วเริ่มรู้สึกกลัวเล็กน้อย เพราะเชื่อแล้วว่านิโคลัสทำอะไรไม่สนใจใครจริงๆ
“ผมไม่ได้ทำอะไรผิด แค่พาหลานไปกินไอศกรีมเท่านั้น”
“มันไม่ผิดก็จริง แต่คุณต้องบอกฉันก่อน”
“ผมเหมือนคนไม่น่าไว้ใจมากนักหรือไง” เขาย้อนถามเพราะเริ่มรู้สึกว่าพุดแก้วเรื่องมากกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้
“ใช่ เพราะคุณมีเจตนาไม่ดี” เธอตอบทันทีอย่างไม่ลังเล
“ถามหน่อย คุณเคยไว้ใจใครบ้างไหมนอกจากตัวเอง” ชายหนุ่มถามอย่างเหลืออด
“ฉันไว้ใจคนที่ควรไว้ใจส่วนคุณไม่ใช่ เพราะเจตนาของคุณคือต้องการเอาตัวอีวานไปจากฉัน และฉันไม่มีวันยอมแน่ๆ ถ้าคุณยังไม่เลิกล้มความคิดนี้ แต่ถ้าคุณจะมาทำหน้าที่ลุง เยี่ยมและดูแลหลานอย่างที่คนอื่นทำกัน ฉันจะไม่ว่าเลยสักคำ แต่เจตนาของคุณฉันรับไม่ได้ และเราคงไม่มีทางพูดกันรู้เรื่อง” พุดแก้วพูดอย่างตรงไปตรงมา
“ก็ได้ ถ้าคุณยังไม่ยอมเปลี่ยนใจ ผมก็บอกเลยว่าจะไม่เปลี่ยนใจเช่นกัน สงครามนี้คงยาวนานแน่ คุณเตรียมตัวรับมือให้ดีเถอะ และผมจะบอกให้รู้เลยว่าจะทำทุกทางให้อีวานไปกับผมให้ได้” นิโคลัสประกาศชัดเจน
“นี่แค่เริ่มต้นบทสรุปยังไม่ควรพูดตอนนี้ เพราะว่ามันอาจไม่ใช่อย่างที่คุณต้องการก็ได้” พุดแก้วเอ่ยเสียงกร้าว ต่างฝ่ายต่างสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใครแม้แต่น้อย สงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
นิโคลัสยิ่งเครียดขึ้นไปอีกเมื่อฟังสิ่งที่วูฟล์กำลังรายงาน การฟ้องร้องขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูก็คงไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะพุดแก้วได้เปรียบตรงที่ดูแลอีวานมาตั้งแต่แรกเกิด อีกทั้งฐานะก็สามารถเลี้ยงดูหลานได้อย่างไม่มีปัญหา ที่สำคัญนิโคลัสเป็นผู้ชายเรื่องการดูแลเด็กอาจทำไม่ดีเท่าพุดแก้วที่เป็นผู้หญิง
“ฉันอยากจะรู้ว่าใครมันเป็นคนคิดและบอกว่า ผู้ชายจะเลี้ยงเด็กสู้ผู้หญิงไม่ได้ ผู้ชายก็อ่อนโยนเป็นนะ อยากจะเห็นหน้าไอ้คนเสนอแนวคิดนี้นัก” นิโคลัสพูดด้วยความเจ็บใจ
“ท่านจะเอาอย่างไรต่อไปครับ เมื่อเราเสียเปรียบ” วูฟล์ถามต่อ
“ใช้วิธีไหนก็ได้ให้อีวานไปอยู่กับเรา” นิโคลัสยืนยันหนักแน่นในเจตนาเดิม แล้วเอ่ยต่อไปว่า
“ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือทำให้อีวานไว้ใจ พอมีโอกาสเราก็พาอีวานไปจากที่นี่ ส่วนพุดแก้วตอนนี้ต้องทำให้เธอเชื่อใจว่าเรายอม ทุกอย่างจะง่ายขึ้นแน่”
“ถ้าเราใช้วิธีนั้นคุณพุดแก้วจะยอมเหรอครับ เธอรักคุณอีวานมาก” บอดี้การ์ดหนุ่มหวั่นใจ
“ก็ปล่อยให้อาละวาดไปสิ” ถึงตอนนั้นที่หลานไปอยู่กับเขาแล้ว พุดแก้วจะทำอะไรได้นอกจากอาละวาดฟาดหัวฟาดหางอยู่ที่นี่
“ท่านครับ” วูฟล์อ้าปากจะพูดต่อแต่นิโคลัสขัดขึ้น
“ฟังนะวูฟล์ เรื่องบางเรื่องถ้าทำอย่างตรงไปตรงมาแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เราก็ต้องมีแผนสำรอง และแผนสำรองควรมีหลายๆ แผน เพื่อให้เรามีตัวเลือกและทางหนีทีไล่ และทำให้สิ่งที่ต้องการสำเร็จ” วูฟล์เงียบในขณะที่นิโคลัสแววตาเป็นประกายชัดเจน
“พูดจบแล้วใช่ไหม นาเดีย” นิโคลัสถามกังสดาล หรือนาเดียน้องสาวฝาแฝดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ทำอะไรทำไมไม่ปรึกษากันก่อน” กังสดาลต่อว่าพี่ชายอย่างหงุดหงิด
“ก็ติดธุระที่เมืองไทยอยู่”
“ธุระอะไร”
“เอาเป็นว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก กลับไปจะเล่าให้ฟัง” นิโคลัสตัดบทสั้นๆ
“แล้วจะกลับเมื่อไหร่”
“พอจัดการเรื่องทางนี้เรียบร้อยจะรีบกลับ”
“ก็ได้ แต่คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ” หญิงสาวยังคงต่อว่าไม่หยุด
“รู้แล้ว ตั้งใจทำงานให้ดีอย่าให้พลาดเข้าใจไหม” เขากำชับน้องสาวกลับไปเช่นกัน
“รู้แล้วน่า กลับมาก็มีของฝากติดไม้ติดมือมาบ้างนะ ให้คุ้มกับที่ต้องมาประชุมแทนโดยไม่รู้ตัวล่ะ”
“ตกลง” นิโคลัสวางสายแล้วถอนหายใจเบาๆ ต้องรีบจัดการธุระที่เมืองไทยให้เสร็จโดยไว เขามีงานมากมายรออยู่ให้ต้องกลับไปจัดการ
