ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
“ใครพามาหาน้าที่นี่คะ อีวาน” พุดแก้วถามหลานชายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน เธออ้าแขนรับกอดของเด็กชายวัยสี่ขวบด้วยความรักเหมือนเช่นทุกครั้ง
“ลุงเดฟครับ” เด็กชายตอบและชี้ไปหาชายต่างชาติรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาคมคายที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
พุดแก้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาใกล้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำขอบคุณ เดฟคือสามีของเพื่อนรัก อีกทั้งเขายังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของมิคาเอลอีกด้วย
ชายหนุ่มคอยช่วยเหลือดูแลสองน้าหลานมาตลอด เดฟชื่นชมพุดแก้วมากเพราะเป็นผู้หญิงที่สู้ชีวิตและไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ อาจเพราะพุดแก้วสูญเสียบิดามารดาไปตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมัธยม แถมญาติคนเดียวที่เหลืออยู่อย่างพุดกรองก็ต้องมาจากไปก่อนวัยอันควร แถมทิ้งลูกน้อยไว้ให้ดูแลทำให้ต้องเข้มแข็งมากกว่าคนอื่น
โชคดีที่พุดแก้วมีสวนผลไม้หลายร้อยไร่ และมีอาชีพเป็นครูสอนศิลปะการป้องกันตัวอย่างเทควันโด แต่การที่ผู้หญิงคนเดียวต้องรับผิดชอบภาระต่างๆ มากมายขนาดนี้ก็น่าเป็นห่วง ดังนั้นเดฟและภรรยาจึงเข้ามาช่วยบ้างในบางโอกาสถึงแม้ว่าพุดแก้วจะไม่เคยเอ่ยปากก็ตาม
“ขอบคุณมากนะคะ พี่เดฟ” พุดแก้วทักทายอย่างสนิทสนม
“ด้วยความยินดีแก้ว วันนี้ทำไมเลิกสอนเร็วจัง”
“วันนี้สอนก่อนเวลาค่ะ ทางโรงเรียนมีกิจกรรม”
“แล้วแก้วต้องร่วมกิจกรรมไหม”
“ไม่ต้องค่ะ”
“พรุ่งนี้พี่จะเข้ากรุงเทพอยากได้อะไรหรือเปล่า” เดฟเอ่ยถาม
“ไม่ค่ะ ขอบคุณพี่เดฟมากนะคะ” พุดแก้วหันมาเล่นกับหลานชายตัวน้อยต่อ
นิโคลัสมาถึงเมืองไทยได้เกือบสามชั่วโมงแล้ว แต่คนที่บอกว่าจะมารับยังมาไม่ถึงเสียที เขามองนาฬิกาข้อมือเรือนหรูก่อนที่จะหันมามองหน้าบอดี้การ์ดอย่างเบื่อหน่าย วูฟล์มองสบตาคมของผู้เป็นนายรู้ดีว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร นิโคลัสไม่ชอบอะไรที่ผิดเวลา เขาเป็นคนตรงต่อเวลามาตลอด ไม่ชอบการรอคอย และไม่ชอบคนที่ไม่รักษาเวลาด้วย
ทั้งสองเดินลากกระเป๋ามายังร้านอาหารภายในสนามบิน พร้อมทั้งสั่งอาหารมารองท้องเนื่องจากเลยเวลามาสักพักแล้ว
“อยู่ที่ร้านอาหาร” นิโคลัสรับสายโทรศัพท์ที่ดังขึ้นแล้วตอบเพียงสั้นๆ ไม่ช้าคนที่บอกว่าจะมารับก็ปรากฏตัวขึ้น
“ขอโทษนะนิค รถติด” เดฟเอ่ยคำขอโทษด้วยความเกรงใจ
“ไม่เป็นไร” นิโคลัสตัดความหงุดหงิดทิ้งไปในทันที
“เสร็จแล้วเราไปกันเลยไหม กว่าจะถึงก็อีกหลายชั่วโมง” นิโคลัสพยักหน้าแทนคำตอบแล้วลุกขึ้น ทั้งสามออกจากร้านอาหารไปโดยเร็ว
“กิจการของนายเป็นอย่างไรบ้าง” นิโคลัสเอ่ยถามหลังจากที่ออกมาจากสนามบินได้สักพักใหญ่
“ก็ดี โรงแรมอยู่ตัวแล้ว ช่วงท่องเที่ยวคนมากต้องโทรมาจองก่อน ส่วนรีสอร์ตที่อยู่ใกล้กัน ตอนนี้ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” เดฟเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ
“อย่างนั้นเหรอ”
“เดี๋ยวนายกับวูฟล์พักที่รีสอร์ตดีกว่านะ ฉันให้คนงานจัดห้องไว้ให้แล้ว”
“แล้วฉันจะได้เจอหลานเมื่อไหร่” นิโคลัสวกเข้าเรื่องสำคัญ
“คงจะต้องเป็นพรุ่งนี้เพราะกว่าจะถึงก็คงค่ำแล้ว นายเดินทางมาเหนื่อยๆ น่าจะพักผ่อนก่อน”
“คนที่เลี้ยงหลานฉัน เธอเป็นคนอย่างไร” นิโคลัสถามต่อ
“พุดแก้วเหรอ เธอเป็นผู้หญิงเก่งคนหนึ่งเลยแหละ ทั้งสวย เก่ง ฉลาด” เดฟชื่นชม
“ท่าทางนายจะชื่นชมผู้หญิงคนนั้นมากนะ” คนฟังประชดในที
“ใช่ ฉันเห็นพุดกรองมาตั้งแต่เป็นเด็กเรียนมัธยมปลายเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ตอนมิคาเอลตัดสินใจมาช่วยพุดกรองทำงานในไร่ ฉันก็เข้าไปช่วยอีกแรงเลยทำให้สนิทกัน พุดแก้วเป็นเหมือนน้องสาวอีกคน ที่สำคัญเมียฉันกับพุดแก้วเป็นเพื่อนรักกัน” เดฟอธิบายยาวเหยียด
“ฉันชักอยากจะเห็นหน้าแม่คนเก่งของนายเสียแล้ว” น้ำเสียงนิโคลัสคล้ายกับประชดเล็กน้อย
“นายได้พบแน่ ฉันยังไม่ได้บอกกับแก้วกับอีวานเลยว่านายจะมา”
“ไม่เป็นไร ให้รู้ตอนเจอกันเลยดีกว่า หลานฉันชื่ออีวานใช่ไหม” คราวนี้น้ำเสียงเขาดูสดใสขึ้น
“ใช่ อายุสี่ขวบกว่าแล้ว ตอนมิคาเอลจากไปพุดกรองท้องได้ห้าเดือนพอดี” เดฟหวนคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
“อย่างนั้นเหรอ” น้ำเสียงนิโคลัสเบาลงเล็กน้อย
“หลานชายนายคนนี้น่ารักที่สุด นายจะหลงรักเขาแน่ๆ พูดก็พูดนะพุดแก้วสอนหลานได้ดีมาก ใครที่ได้รู้จักต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่ารักทุกคน” เดฟยิ้มเมื่อพูดถึงเด็กน้อยแสนฉลาด
“นายช่วยเล่าเรื่องของมิคาเอลกับคนที่นี่ให้ฟังหน่อยว่าเป็นมาอย่างไร ทำไมน้องชายฉันถึงได้คิดปักหลักที่นี่จนตาย” นิโคลัสพูดขึ้นมาเบาๆ
“ได้” เดฟเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ชายเพื่อนรักฟังอย่างหมดเปลือก
มิคาเอลกับพุดกรองพบกันเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่มิคาเอลมาเที่ยวเมืองไทยและได้รู้จักพุดกรองในฐานะไกด์ ความน่ารักอ่อนหวานอ่อนโยนและมองโลกในแง่ดีของเธอทำให้มิคาเอลหลงรัก
ต่อมาครอบครัวของพุดกรองและพุดแก้วขาดเสาหลักไปกะทันหัน ภาระทั้งหมดในไร่ต้องตกมาอยู่ที่มือของสองพี่น้อง พุดกรองต้องลาออกจากงานและเข้ามาดูแลกิจการของทางบ้าน ต้องลงมาทำสวนและดูแลพุดแก้วที่เพิ่งจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีสอง พอมิคาเอลรู้ก็เข้ามาช่วยเต็มที่และขอพุดกรองแต่งงาน ทั้งสองเลยจดทะเบียนสมรสและจัดงานเล็กๆ โดยมีแขกไม่ถึงสิบคน
“ต่อมามิคาเอลมีความคิดว่าจะขยายไร่ เลยขอซื้อที่ดินจากชาวบ้านแถวนั้นเพิ่มมาอีกห้าสิบกว่าไร่ ตอนนี้พุดแก้วก็ดูแลทุกอย่าง” เดฟเล่ามาจนถึงปัจจุบัน
“แสดงว่าที่ดินบางส่วนในไร่นั้น น้องชายฉันซื้อไว้ด้วยเหรอ” นิโคลัสถามอย่างสนใจ
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่ที่ไร่นั้นเหมือนกัน” ในหัวของนิโคลัสเริ่มมีแผนการบางอย่าง
“นายจะไปอยู่ที่ไร่อุ่นรักเหรอ” เดฟถามด้วยความตกใจ
“ถ้าแม่คนนั้นไม่ยอมให้หลานไปกับฉันง่ายๆ ฉันก็คงต้องอยู่ที่เมืองไทยต่ออีกสักระยะ”
“นายจะพาหลานกลับไปเหรอ” เดฟเพิ่งรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงในการมาของนิโคลัส
“แก้วไม่ยอมแน่ อีวานเองก็รักน้ามาก รับรองว่าไม่มีทางห่างจากพุดแก้วแน่ ถ้านายคิดจะพาเด็กกลับไป ฉันว่าไม่น่าจะง่ายหรอก ไม่มีทางเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ”
“มันคงไม่มีอะไรที่ยากมากหรอกมั้ง แค่ให้เงินก้อนใหญ่สักก้อน ผู้หญิงคนนั้นคงรีบคว้าเงินแล้วปล่อยหลานมาแบบง่ายๆ” ปลายเสียงนิโคลัสเยาะเย้ยเล็กน้อย
“ฉันจะคอยดูก็แล้วกัน แต่ขอเตือนพุดแก้วไม่ใช่ผู้หญิงที่เห็นแก่เงินอย่างที่คิด ผู้หญิงคนนี้หยิ่งทะนงมากกว่าที่นายคิดไว้มาก” เดฟเตือนด้วยความหวังดี
“จะหยิ่งสักแค่ไหนเชียว ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าในโลกนี้จะมีอะไรที่เงินซื้อไม่ได้ บางทีฉันอาจจะยังไม่ต้องพูดอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็อาจจะยื่นข้อเสนอออกมาเองก็ได้”
เดฟได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอา นิโคลัสยังคงเหมือนเดิมถนัดใช้เงินซื้อทุกอย่างที่ต้องการ
นิโคลัสมองที่พักของตัวเองเงียบๆ รู้สึกพอใจพอสมควร ถึงจะไม่ได้หรูหรามากแต่มันก็ค่อนข้างสงบไม่มีความวุ่นวาย ส่วนบอดี้การ์ดคนสนิทนั้นพักอยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่มมองดูทิวทัศน์รอบตัวมันสวยงามกว่าที่คิดไว้มาก แสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับทิวเขาช่างน่าประทับใจ
“ถ้านายมีอะไรโทรหาฉันได้เลย หรือไม่ก็เดินไปที่บ้านฉันได้” เดฟเอ่ยเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
“บ้านนายอยู่แถวนี้เหรอ” นิโคลัสถาม
“เห็นรั้วที่มีต้นไม้นั่นไหม และเห็นประตูไม้บานใหญ่ตรงนั้นใช่ไหม” เดฟชี้ไปที่รั้วบ้านซึ่งมีต้นไม้พุ่มสูงประมาณระดับอกเป็นรั้วอีกชั้น
“นั่นคือบ้านฉัน นายมีปัญหาหรือต้องการอะไรสามารถไปหาได้เลย”
“ตกลง” นิโคลัสพยักหน้ารับ
“ว่าแต่มีโครงการจะมาอยู่ที่นี่กี่วัน” เดฟถามอย่างสนใจ
“คิดว่าคงไม่เกินสองอาทิตย์ แต่ถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คิดก็คงจะต้องอยู่นานหน่อย”
“ตั้งใจมาเรื่องหลานอย่างเดียวเลยใช่ไหม”
“ใช่ ตั้งใจจะมาพาลูกของมิคาเอลกลับไปด้วยกัน” นิโคลัสย้ำถึงความต้องการของตนเองอีกครั้ง
“ความตั้งใจสูง ความมั่นใจก็คงสูงมากเช่นกัน” เดฟพูดอย่างรู้ทัน
เขารู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ร้ายกาจขนาดไหน และอะไรที่ต้องการนิโคลัสไม่เคยผิดหวัง ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองสมความปรารถนา พอคิดถึงเรื่องนี้ก็อดที่จะเป็นห่วงพุดแก้วขึ้นมาไม่ได้
“เอาเถอะ เอาไว้ให้เจอกับพุดแก้วก่อนแล้วจะรู้ว่าสิ่งที่นายต้องการจะเป็นไปได้ไหม”
“ฉันต้องการเจอผู้หญิงคนนั้นและหลานชายของฉันให้เร็วที่สุด”
“พรุ่งนี้แน่นอน” เดฟยืนยันหนักแน่น
“ดี” นิโคลัสไม่อยากให้เสียเวลาไปมากกว่านี้แล้ว ตอนนี้เขาต้องการจัดการเรื่องต่างๆ ให้มันเรียบร้อยเสียที
พุดแก้วหอมแก้มหลานชายที่กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนโยน เด็กน้อยคนนี้คือแก้วตาดวงใจ อีวานเปรียบเสมือนตัวแทนของพี่สาวที่จากไป คือคนที่เธอต้องปกป้อง หญิงสาวห่มผ้าให้หลานอย่างเบามือก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง
“น้าแก้วจะไปไหนครับ” เด็กน้อยถามพร้อมทั้งจับมือของผู้เป็นน้าไว้ พุดแก้วอมยิ้มแล้วโน้มตัวลงไปหาหลานชายตัวน้อยของเธออีกครั้ง
“น้าจะออกไปทำงานต่ออีกนิดหน่อยจ้ะ” พุดแก้วตอบ เด็กน้อยพยักหน้ารับหลับตาลงอีกครั้ง พุดแก้วยิ้มมองหน้าหลานด้วยความรัก อีวานไม่เคยดื้อหรืองอแงให้รู้สึกลำบากใจเลยสักครั้ง
“น้าแก้วอย่านอนดึกนะครับ” เด็กน้อยพูดทั้งที่ยังหลับตา
“จ้า นอนไปก่อนนะ เดี๋ยวน้ามานอนด้วยนะตัวแสบ” หญิงสาวก้มลงหอมแก้มหลานชายอีกครั้ง
