บท
ตั้งค่า

บทที่ 2.2 ของเล่นชิ้นใหม่

สามเดือนแล้วสินะที่สาวเฉิ่มๆ คนหนึ่งเดินออกหางานตามที่ต่างๆที่เธอคิดว่าเหมาะสมกับตัวเอง แต่ทุกครั้งเมื่อเธอเริ่มก็ต้องพบกับความต่ำทรามของนายจ้างที่เห็นเธอเป็นของบำเรอร่างกาย

“ว๊าย เอามือของแกออกจากก้นฉันนะ” เสียงร้องโวยวายของหญิงสาวทำเอานายจ้างร่างอ้วนไม่พอใจ เขาพยายามจะลวนลามเธอให้ได้

“อย่าเล่นตัวหน่อยเลยนะ...งานดีๆ สบายๆ หายาก แค่ยอมทำตามที่ฉันสั่งเธอก็จะมีเงินใช้ไปตลอด” คนพูดเอื้อมแขนมาโอบไหล่เล็กแต่ก็โดนปัดสุดแรง หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกได้แต่วิ่งหน้าตาตื่นออกจากห้องเจ้านายหื่น

“ไอ้เวรเอ๊ย...ไอ้แก่ตัณหากลับ ฉันไม่ทำงานที่นี่ก็ได้ ฮือๆ” ปัณนารีปาดป้ายน้ำตาพร้อมกับเก็บข้าวของบนโต๊ะทำงาน หลังที่เธอได้ปะทะคารมเจ้าเถ้าแก่จอมหื่น

“ฮือๆ มันอะไรกันนักเนี่ย...เจอแต่พวกโรคจิต” หญิงสาวหอบหิวข้าวของต่างๆเดินลงบันไดอย่างทุลักทุเล แว่นหนาที่สวมใส่เปื้อนน้ำตาเสียจนแทบมองอะไรไม่เห็น ซ้ำร้ายพอออกมาจากอาคารสายฝนยังซ้ำเติมให้เจ็บใจ

“โอ๊ยๆไอ้ฝนบ้านี่ จะมาตกอะไรกันตอนนี้” คนตัวเล็กยืนสะอื้นอยู่ที่ป้ายรถเมล์พักใหญ่เพื่อรอให้สายฝนนั้นหยุดลง ใบหน้าเปื้อนน้ำตามองซ้ายขวาแล้วก็ปล่อยโฮอีกรอบสายฝนยังคงโปรยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่าย หญิงสาวจึงตัดสินใจเดินกลับบ้าน ตลอดเส้นทางเธอยังคงร้องไห้ให้กับโชคชะตาที่เล่นตลก ความเหนื่อยล้ายิ่งทำให้คนสาวหมดเรี่ยวแรง กว่าสองชั่วโมงที่ต้องเดินฝ่าสายฝน ประตูไม้เก่าเปิดออก เผยให้เห็นคนนั่งรอด้วยความห่วงใย

“ยัยแป้ง...เกิดอะไรขึ้นทำไมเปียกปอนขนาดนี้ล่ะลูก” ปัณนารีรีบวางสิ่งข้าวแล้วโอบกอดหญิงชราที่ร้องทักเธอ

“ฮือๆ ยายจ๋า แป้งเหนื่อยจังเลย...ฮือ แป้งเจอไอ้เฒ่าแก่ลามกนั่นมันจะรังแกแป้ง”ใบหน้าเปื้อนน้ำตาซบอกคนสูงวัย เนื้อตัวสั่นจากความเหน็บหนาวและสะอื้น

“โถ่ หลานยาย นี่หนูเป็นอะไรบ้างหรือเปล่า มันทำอะไรหนูไหม๊”

“ฮือๆ เปล่าค่ะ แป้งหนีออกมาก่อน มันเลยไล่แป้งออกจากงาน”

“เวรกรรมลูกเอ๊ย...ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ได้งานใหม่นะ” คนสูงวัยกอดปลอบประโลมหญิงสาวอยู่พักใหญ่ กว่าเธอจะตั้งสติได้

“ยายจ๋า...พรุ่งนี้แป้งไปช่วยงานพี่ปั้นดีไหม๊”

“เอาสิลูก เจ้าปั้นมันบ่นๆว่างานยุ่งทุกวัน จะได้ช่วยกันทำงานนะ” หลานคนเล็กพยายามยิ้มตอบให้ แต่ในใจก็ยังคงเศร้าเช่นเดิม

“นั่นไงพูดถึงก็มาพอดี”

“แอบว่าอะไรผมเหรอครับยาย”

“ใครจะว่าอะไรเราได้ล่ะ...วันๆไม่เคยมาให้เห็นหน้า แล้วไงวันนี้กลับบ้านได้ล่ะ”

“โถ่ยายครับ งานมันเยอะ ลูกค้าก็เร่งผมทำจนแทบไม่มีเวลานอนเลย”

“งั้นเดี๋ยวจะส่งผู้ช่วยมือดีไปให้ซักคน” กัมปนาทขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะหันมองคนข้างๆที่สภาพตอนนี้เหมือนสุนัขตกน้ำก็ไม่ปาน

“เฮ้ยยัยแป้ง นี่แกไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ย สภาพตอนนี้ขอบอกว่าน่ากลัวสุดๆ”

“ไม่ต้องพูดเลยพี่ปั้น ตอกย้ำเสียจริงๆ” เมื่อพิจารณาสถานการณ์ ชายหนุ่มก็ยิ้มขึ้นมาทันที

“นี่แสดงว่าแกตกลงจะไปทำงานกับพี่แล้วใช่ไหม๊” ไม่มีเสียงตอบจากคนน้อง เธอพยักหน้ารับอย่างจำยอมในโชคชะตา

“ดีเลย แบบนี้พี่ค่อยโล่งใจหน่อย”

“ดูแลน้องด้วยนะปั้น...น้องยังเด็ก มีอะไรก็สอนก็บอกน้องดีๆ”

“ครับยายผมรับปากว่าจะดูแลยัยแป้งอย่างดี” ประโยคหลังชายหนุ่มเน้นเสียงหนักจนคนฟังแสยะยิ้มออกมาอย่างกับรู้

ความเจ้าเล่ห์ของพี่ชายตัวเอง

เมื่อตบปากรับคำพี่ชายไปแล้วว่าจะช่วยทำงาน ปัณนารีก็เตรียมตัวออกมาเผชิญกับความโหดของพี่ชายตามที่เธอนอนคิดมาทั้งคืน

“เอาเร็วหน่อยสิยัยแป้ง...ให้ยกของแค่นี้ก็ไม่ไหว”

“โฮ อะไรกัน นี่มันไม้อัดทั้งลังเลยนะ จะให้ยกอย่างกับนุ่นได้ยังไง”

“มาๆ พี่ช่วย เดี๋ยวงานไม่เสร็จจะหักเงินเดือน”

“อ้าวเฮ้ยพูดงี้ได้ไง นี่น้องนะ จะใจร้ายเชียวเหรอ” บ่นไปหัวเราะไป กัมปนาทมักชอบแกล้งแหย่น้องสาวเล่นเสมอ ตอนนี้ได้เธอมาเป็นผู้ช่วยแล้วเขาก็เบาแรงเยอะ

“นี่ เอาไม้มาเรียงเป็นสามเหลี่ยมตรงนั้น เดี๋ยวพี่จะตอกทำที่กั้นห้อง”

“งานหนักจริงๆ ตอนแรกคิดว่างานเยอะจนหนัก ไม่คิดเลยว่าที่ว่าหนักจะเป็นแบกหาม”

“บ่นอีก...โน่นเสร็จแล้วไปทาสีฉากกั้นอันข้างใน สีขาวนะ พี่ผสมไว้แล้ว” กัมปนาทร่วมกับเพื่อนอีกคนบริษัทรับตกแต่งภายในเล็กๆ แต่ตอนนี้เพื่อนต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเขาเลยต้องลุยงานคนเดียวอยู่หลายวัน งานส่วนใหญ่จะเป็นตกแต่งร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร หรือเวทีออแกไนซ์ต่างๆ

“หิวแล้วอะพี่ปั้น”

“อะไรกันเพิ่งทำไปแป๊บเดียวเอง” พูดจบเขาก็หันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง

“เฮ้ยนี่มันจะเย็นแล้วเหรอ”

“เพิ่งรู้หรือไง แป้งหิวจนไส้จะขาดแล้วเนี่ย”

“เออๆ เดี๋ยวพี่ไปหาบะหมี่ให้กิน”

“ก็ยังดีที่มีให้กิน” ชายหนุ่มชี้หน้าคาดโทษน้องสาวปากดีก่อนจะหยิบเสื้อแจ๊คเก็ตมาใส่แล้วเดินออกไปหาซื้ออาหารมาให้น้องสาว

“ดูสิพี่ชายเราบ้างานขนาดนี้นี่เองถึงไม่มีแฟนซักที” ปัณนารีส่ายหน้าก่อนจะเอามากดท้องตัวเองที่มันส่งเสียงร้องด้วยความหิวเสียงดัง แต่หญิงสาวก็แอบยิ้มกับผลงานของพี่ชาย ทุกอย่างดูสวยงามสมกับที่เขาตั้งใจทำ

“ฮัลโหลเบบี้”

“ยัยรดา...ไปไหนมาเนี่ยหายไปเลยนะแก”

“ทำงานสิจ๊ะ...ฉันแวะไปหาที่บ้าน ยายบอกว่าแกยอมมาทำงานกับพี่ปั้นฉันเลยตามมาดู” หญิงสาวเบ้หน้าทันทีที่เพื่อนพูดจบ

“ทำไมล่ะ...ไม่ชอบเหรอ”

“เปล่า งานที่พี่ปั้นทำสวยทุกชิ้นเลย”

“แล้วทำไมแกทำหน้าแบบนั้นล่ะ”

“ฮือๆ ฉะ ฉัน หิวข้าว”

“ห๊า หะ หิวข้าว ยัยแป้งบ้าเอ๊ย ทำเอาฉันตกอกตกใจหมดคิดว่าแกโดนใครเตะก้นมา”

“จะบ้าเหรอใครจะกล้า”

“เออใช่ๆแค่เห็นแว่นหนาๆกับผมฟูๆของแกเค้าก็หนีกับหมดแล้วล่ะ” มธุรดาจับปอยผมเพื่อนด้วยสองนิ้วแล้วเบ้ปาก

“นี่รดา แกเพื่อนฉันหรือเปล่า ไม่เคยให้กำลังใจ นิสัยเหมือนพี่ปั้นไม่มีผิด”

“อย่าเปรียบเทียบแบบนั้นฉันไม่ชอบ...เอานี่ข้าวมันไก่ฉันซื้อมาฝาก”

“ฮือๆ เพื่อนรักเธอรู้ใจฉันเสียจริงๆ” ปัณนารีรีบกระโดดกอดเพื่อนทันที

“แหวะ เวอร์ กินซะ...แล้วคุณผู้จัดการหายไปไหนล่ะเนี่ย”

“ออกไปซื้อของกิน เออ จริงสิ แกซื้อมาแล้วนี่นา” ประตูกระจกใสบานเล็กเปิดออกพร้อมกับคนหนุ่มชะโงกหน้าเข้ามามองคนภายใน

“มาแล้วแป้งบะหมี่หมูแดง...อ้าวรดา”

“แป้งกินข้าวมันไก่ที่รดาซื้อมาอยู่...เอาวางไว้ก่อนนะ” น้องสาวเอ่ยพร้อมกับตักข้าวใส่ปากคำใหญ่ด้วยความหิว

“กินข้าวแล้วคงไม่อยากกินบะหมี่ที่พี่ชายซื้อมาให้หรอก” คนเป็นพี่ทำหน้าสลดเล็กน้อย

“พี่ปั้นก็...รดาไม่รู้ว่าพี่ออกไปซื้อแล้วเลยแวะเอามาให้ มีของพี่ด้วยนะคะ”

“อย่าเสียใจเลยพี่ปั้น แป้งรับรองว่าทุกอย่างจะเกลี้ยงไม่มีเหลือ” แล้วทั้งสามก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมากับความน่าเอ็นดูของหญิงสาวแว่นหนาๆ ที่เอาแต่กินไม่สนใจคนรอบข้างเธอใช้เวลาไม่นานจัดการกับอาหารตรงหน้า จนคนนั่งข้างๆมองกันตาค้าง พี่ชายคนเก่งต้องกลืนน้ำลายไปหลายอึก

“เอิ๊ก...อิ่มแปร่เลย”

“มันก็สมควรนะแกกินจนหมดเกลี้ยงไม่มีอะไรเหลือขนาดนี้”

“อ้าว กินเหลือเสียของนะรดา...กินน้อยแบบพี่ปั้นก็ไม่มีแรงทำงานกันพอดี”

“เห็นแกตัดสินใจทำงานแบบนี้ฉันก็หมดห่วงนะ...เดี๋ยวต้องไปแล้วฉันมีธุระ” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มเจื้อนให้ชายหนุ่ม

“งานเยอะขนาดนั้นเลยเหรอรดา”

“ค่ะพี่ปั้น ช่วงนี้ต้องเรียนรู้เยอะๆ คุณพ่อท่านเดินทางบ่อย รดาอยู่ดูแลทางนี้ ถ้าไม่เป็นงานมีหวัง โดนไล่ออกแน่”

“ยังไงก็พักผ่อนบ้างนะ...พี่เป็นห่วง” ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับ เขามองร่างอรชรเดินออกไปจนลับสายตา ก่อนจะหันมาทางคนน้องที่เริ่มจะอู้งาน

“อิ่มแล้วก็เริ่มงานต่อได้”

“แต่นี่มันเย็นแล้วนะพี่ปั้น”

“งานต้องส่งพรุ่งนี้เว้ย...มันยังไม่เสร็จเลย”

“พักเดี๋ยวไม่ได้เหรอ...สิบนาที ไม่สิ ห้านาทีก็ได้”

“ไม่ได้ เมื่อกี้ระหว่างกินก็ถือว่าพักไปแล้ว ลุกเลย ยัยจอมอู้”

“ฮือๆ งานหนักจริงๆ ด้วย” หญิงสาวแกล้งสะอื้นเรียกความเห็นใจจากพี่ชาย แต่ดูเหมือนจะไร้ผล เธอจึงต้องก้มหน้าทาสีฉากกั้นต่อไปแต่ก็ยังแอบชำเลืองมองหน้าพี่ชายแววตาที่เศร้าอย่างเห็นได้ชัดเจน เหตุผลก็คงจะเป็นมธุรดาที่เธอรีบร้อนออกไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel