ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น
คอนโดใจกลางเมือง
“พาย...แกจะกลับไปหาอากี่วัน”
“น่าจะอาทิตย์หนึ่งมั้ง คงอยู่ได้ไม่นาน เดี๋ยวต้องกลับมาเตรียมตัวทำงาน”
“ถ้าฉันไม่ติดรายงานตัวคงได้ไปกับแกด้วย เรียนจบยังไม่ได้เที่ยวเลย”
เพื่อนสาวอย่างปลายฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ ก่อนจะโน้มตัวลงนั่งเอนไปด้านหลังพนักโซฟาโดยข้าง ๆ มีพรพระพายนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“โอ้ ไม่งอแงนะเพื่อนจ๋า” มือบางจึงเอื้อมไปบีบทั้งสองแก้มของเพื่อนด้วยความมันเขี้ยว
ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักที่รู้จักกันตั้งแต่มัธยมต้น ตั้งแต่พรพระพายเริ่มย้ายมาเรียนกรุงเทพฯ ก็ได้ปลายฟ้านี่แหละคอยให้คำปรึกษาเด็กต่างจังหวัดอย่างเธอ จนทั้งคู่สนิทเป็นเพื่อนซี้กัน
และการกลับไปเยี่ยมคุณอาครั้งนี้เพราะเธอตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์ที่สามารถคว้าใบปริญญาพร้อมเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาได้ อยากกลับไปฉลองความสำเร็จเพราะชัยวัฒน์คือครอบครัวของเธอที่เหลือเพียงคนเดียว หลังจากที่พ่อแท้ ๆ เสียด้วยโรคร้าย ชัยวัฒน์จึงรับหลานสาววัยสิบสองขวบมาเลี้ยงดูในตอนที่ชัยวัฒน์เองก็เพิ่งจะแตกเนื้อหนุ่ม
ชัยวัฒน์ทำงานหาเงินส่งเสียพรพระพายเรียนหนังสือบวกกับทรัพย์สินของพ่อที่เหลือเอาไว้พอจะเลี้ยงดูเธอและชัยวัฒน์ได้อย่างสบาย จนกระทั่งพรพระพายเข้าเรียนมัธยมต้น ชัยวัฒน์จึงส่งเธอไปเรียนโรงเรียนเอกชนที่มีหอประจำในโรงเรียนที่กรุงเทพ ส่งเสียค่าใช้จ่าย นาน ๆ ครั้งถึงจะมาเจอกัน ส่วนมากแล้วเป็นชัยวัฒน์มากกว่าที่ขึ้นไปหาเธอที่กรุงเทพเพราะไม่อยากให้หลานสาวต้องนั่งรถกลับตามลำพัง
และภายในสามปีชัยวัฒน์เริ่มมีปัญหาเรื่องเงินทอง จากทรัพย์สินก้อนใหญ่ก็หายไปในพริบตา
เมื่อจบมัธยมต้นพรพระพายจึงย้ายออกจากโรงเรียนเอกชน สอบชิงทุนในโรงเรียนรัฐในระดับมัธยมปลายใช้ทุนเรียนจนจบปริญญาตรี ส่วนค่าใช้จ่ายประจำวันชัยวัฒน์ยังคงส่งเสียเธอเหมือนเดิมทุกอย่าง อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยสักครั้ง
ส่วนปลายฟ้าเป็นลูกสาวคนเดียวของรัฐมนตรีการคลัง เธอยังคงเรียนต่อมัธยมปลายโรงเรียนเดิม ถึงทั้งคู่จะแยกจากกันแต่ก็ไม่เคยเลิกติดต่อและยังเป็นเพื่อนสนิทกันจนถึงทุกวันนี้
“หรือฉันไปกับแกด้วยดี ไปสักสองสามวันแล้วค่อยกลับ” จู่ ๆ ปลายฟ้าก็หันไปเอ่ยอย่างจริงจัง
“ห่างฉันไม่ได้ขนาดนั้นเชียว” พรพระพายจึงพูดล้อเลียนเพราะเห็นท่าทีจริงจังของคนข้าง ๆ
“ฉันเนี่ยนะ ห่างกับแกไม่ได้ ฉันแค่หาเรื่องไปเที่ยวต่างหากย่ะ”
“เหรอ!?”
“อือ” ปลายฟ้าผลักหน้าพรพระพายขณะที่เธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ
“หึ เชื่อก็ได้”
“ฉันก็แค่อยากเป็นสะพานคอยจับตาดูแกต่างหากล่ะ”
“จับตาดูฉัน” นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวอย่างงุนงง
“จับตาดูแทนพี่กรไงหรือจะให้ดีให้พี่กรไปส่งแกถึงบ้านคุณอาก็ได้ เอาไหม เดี๋ยวฉันโทรบอกให้เลย” ไม่ได้เอ่ยเปล่าแต่ปลายฟ้าเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือหมายจะทำอย่างที่พูด
ทว่าก็โดนมือบางแย่งโทรศัพท์มือถือซะก่อน
“จะไปรบกวนพี่เขาทำไมกัน ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นสักหน่อย”
“แกสิไม่อยากสนิท แต่พี่เขาอยากจะสนิทกับแกจะตายไป” นึกถึงหน้าธนากรที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเธอทีไรก็อดสงสารไม่ได้ แอบปลื้ม แอบชอบพรพระพายทั้งนานแต่ก็ไม่ยอมเดินหน้าใช้เกมส์ลุกสักที
“เลิกพูดถึงคนอื่นดีกว่าเนอะ ฉันว่าฉันกลับหอก่อน อยากกลับไปเช็กดูว่าลืมอะไรอีกบ้าง พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องกังวล” พรพระพายจึงลุกขึ้นหนีบทสนทนานั้นทันที
“แกไม่ชอบพี่เขาจริง ๆ เหรอ” ไม่วายปลายฟ้ายังคงเดินตามมาหน้าประตูห้อง เอ่ยถามย้ำอีกครั้ง
“ฉันยังไม่คิดเรื่องนี้ ขอทำงานเก็บเงินก่อน ฉันยังต้องหาที่อยู่ให้มั่นคงจะได้รับอาชัยมาอยู่ด้วยกัน”
“แกนี่ อะไร ๆ ก็อานะ”
“ก็อาชัยมีพระคุณกับฉันนี่และอีกอย่างฉันเหลือญาติแค่คนเดียวแล้ว”
“แต่แกยังมีเพื่อนรักอย่างฉันทั้งคน อย่าลืมสิ”
“มันเหมือนกันที่ไหน”
“อนาคตอาจจะเป็นญาติกันก็ได้ จริงไหม”
“พอเลย งั้นฉันกลับก่อนนะ”
“พรุ่งนี้เดี๋ยวฉันไปส่งที่สนามบิน”
“โอเค เจอกันพรุ่งนี้” เมื่อเอ่ยลาปลายฟ้าเรียบร้อย พรพระพายจึงกลับที่พักตัวเองทันที
หลังจากกลับมาถึงห้องพักเธอก็จัดกระเป๋า เช็กความพร้อมสำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้
ครืดดด ครืดดด
“คุณอา”
เธอก้มมองรายโชว์ที่ปรากฏบนหน้าจอด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ อาชัย”
(หนูพาย!)
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงปลายสาย สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างจึงทำให้พรพระพายเอ่ยถามออกไป “อาชัย เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
(เปล่า อาจะเป็นอะไรล่ะ)
“ก็พายรู้สึกว่า...”
(ไม่มีอะไร อาแค่จะโทรมาถามว่าเงินที่อาส่งไปพอใช้ไหม)
“พอค่ะ ความจริงอาชัยไม่ต้องส่งแล้วก็ได้นะคะ พายดูแลตัวเองได้แล้ว”
(ไม่ได้ หนูพายเป็นหลานอา ยังไงอาจะต้องดูแลเราให้ดีที่สุด ว่าแต่หนูพายใกล้จะจบแล้วใช่ไหม)
“ค่ะ” พรพระพายไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดเพราะตั้งใจจะกลับไปเซอร์ไพรส์ในวันพรุ่งนี้แทน
(เรียนจบแล้ว หนูพายหางานทำที่นั้นไปก่อนนะลูก ช่วงนี้งานที่ฟอร์มยุ่งมาก อายังหาเวลาไปหาหนูพายไม่ได้ ไว้อาเคลียร์งานเสร็จจะรีบไปหาแล้วเราค่อยฉลองเรียบจบกัน) น้ำเสียงรีบร้อนไล่ยาวเพื่อบอกหลานสาว
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ คุณอาตั้งใจทำงาน ไม่ต้องห่วงพายนะคะ”
(อืม ได้ยินอย่างนี้ อาก็สบายใจหน่อย งั้นแค่นี้ก่อนนะลูก)
“ค่ะ”
(รออาที่นั้น ไม่ต้องกลับมาหาอา เสร็จงานอาจะขึ้นไปหาเราเอง เข้าใจที่อาพูดนะหนูพาย)
“ค่ะคุณอา”
พรพระพายก้มมองหน้าจอเมื่อปลายสายกดวางไปเรียบร้อยแล้ว เกิดอาการงุนงงกับคำพูดเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นห่วงเหมือนกับที่ผ่าน ๆ มา
อีกด้าน...
“เตรียมของพร้อมแล้วใช่ไหม” ชัยวัฒน์เดินกลับจากจุดที่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือแล้วหันไปถามลูกน้องอีกสองคนที่กำลังเตรียมเรือไว้ท้ายเกาะ
“ครับลูกพี่”
“ดี พรุ่งนี้จะต้องไม่พลาด”
เขาก้มมองสำรวจข้าวของที่จำเป็นภายในเรือพร้อมกับอาวุธที่ซ่อนไว้ป้องกันตัว ทุกอย่างต้องไม่ผิดพลาด เพราะนั้นหมายถึงชีวิตความเป็นความตาย ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีกว่านายหัวแห่งเกาะกระเช้าไข่มุกป่าเถื่อนแค่ไหน
แต่การลองเสี่ยงถือว่าคุ้มค่ากับมูลค่าในครั้งนี้
“แน่ใจนะลูกพี่ว่าเราจะหนีออกจากเกาะได้” ลูกน้องร่วมแผนการเกิดอาการหวั่น ๆ แค่นึกถึงความโหดเหี้ยมและไม่เคยปราณีใครมาก่อนทำเอาเสียวสันหลังขึ้นมา
“ทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผน” เขาบอกลูกน้องตามที่คิดไว้
ชัยวัฒน์มั่นใจกับแผนการครั้งนี้มากเพราะได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และพรุ่งนี้ทุกอย่างที่คิดไว้จะต้องตกเป็นของเขา
เขาจะต้องมีชีวิตรอดออกจากเกาะกระเช้าไข่มุกแห่งนี้ให้ได้