บท
ตั้งค่า

บทที่ 1.ต่อ

เมื่องานมงคลสมรสระหว่างเมริสากับวายุผ่านไปด้วยดี แต่สำหรับคุณ มาลินี มารดาของเมริสาแล้วนั้นกลับไม่ได้รู้สึกปลาบปลื้มยินดีกับการแต่งงานครั้งนี้ของบุตรสาวเลยสักนิด นางรู้สึกไม่ไว้ใจผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นเขยสักเท่าไหร่ ลักษณะท่าทางของวายุนั้นหลุกหลิกไม่น่าเชื่อถือและแววตาของชายหนุ่มไม่มีความจริงใจ สิ่งที่นางเห็นมีแต่ความละโมบเท่านั้น หากแต่นางกลับนิ่งเฉยเพราะความรักที่มีต่อบุตรสาวคนเดียวต่างหากและรู้ดีว่าหากขัดขวางเมริสาจะยิ่งดึงดันจนทุกอย่างอาจจะเลวร้าย จนนางเองก็นึกเสียใจที่เลี้ยงดูเมริสาอย่างตามใจจนเกินไป

“จะบินกลับมาดริดเลยหรือแมท...”

คุณมาลินีถามชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มได้รูป จมูกโด่งสวยรับกับริมฝีปากหยักและคางบึกบึนที่มีรอยผ่าบุ๋มอยู่ตรงกลาง ผิวสีน้ำตาลเข้มสม่ำเสมอทำให้เขาดูแข็งแกร่งมีเสน่ห์น่าค้นหา ดวงตาคมยาวใหญ่สีมรกตนั้นทอประกายกล้าอยู่เสมอมอง มารดาเลี้ยง อย่างอ่อนโยน รอยยิ้มบางๆ แต่งแต้มอยู่บนใบหน้าเฉยกระด้างทำให้ แมทธิว โรดิเกรซ มาเวลล์ ดูเป็นชายหนุ่มอ่อนโยนน่าเข้าใกล้มากกว่าที่เขาทำหน้าเฉยชาไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใดของหนุ่มลูกครึ่งสเปน ฝรั่งเศสวัยสามสิบสองปีคนนี้ แต่บุคลิกของเขากลับทำให้สาวๆ หลงใหลไปครึ่งค่อนโลกเลยทีเดียวเมื่อครั้งหนึ่งแมทธิวเคยได้ถ่ายแบบหนังสือแฟชั่นชายร่วมกับเพื่อนรักของเขาซึ่งเป็นนายแบบหนุ่มชื่อดังมาแล้วในสมัยที่เขาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสุดท้ายซึ่งแมทธิวการถ่ายแบบครั้งนั้นทำให้ชื่อของแมทธิว ติดอันดับผู้ชายที่หล่อเหลามีเสน่ห์ที่สุดในสเปนเลยก็ว่าได้

“ครับ งานที่นั่นยุ่งมาก ผมคงต้องกลับคืนนี้เลยครับคุณแม่...” ชายหนุ่มตอบด้วยภาษาไทยชัดเจนไม่มีแปร่งหูสักนิดจนผู้ที่พร่ำสอนมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยมองเขาด้วยความชื่นชมภูมิใจ

“น่าจะอยู่พักผ่อนก่อนสักวันค่อยกลับไป แมทนี่ล่ะก็ทำตัวยุ่งอยู่เสมอ จนเห็นงานสำคัญกว่าแม่แล้วสิ”

“โธ่ ใครจะเห็นอะไรสำคัญไปกว่าคุณมาลินีล่ะครับ”

ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ แล้วเดินมาโอบกอดร่างอวบอิ่มเปล่งปลั่งอย่างคนที่มีสุขภาพดีของคุณมาลินีไว้ด้วยท่าทางอ่อนโยน ร่างสูงถึง188 เซนติเมตรดูเก้งก้างเมื่อค้อมตัวโอบร่างของคุณมาลินีไว้

“ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ต่ออีกสักวันสิลูก”

“ไม่ได้หรอกครับผมมีงานสำคัญมากรออยู่ แต่สัญญาว่าหากงานเสร็จเรียบร้อยผมจะกลับมาพักยาวๆ ที่เมืองไทยสักสามสี่เดือน อยู่จนคุณแม่เบื่อขี้หน้าไปเลย”

“ไม่มีทางที่แม่จะเบื่อหรอกลูก แม่อยากเห็นลูกๆ มาอยู่กันพร้อมหน้า” คุณมาลินีกล่าวเสียงแผ่วเหมือนมีอะไรในใจซึ่งแมทธิวก็พอจะดูออก

“คุณแม่กังวลเรื่องสามีของน้องใช่มั้ยครับ...”

“เขาดูไม่จริงใจ” นางเอ่ยสั้นๆ แต่แฝงไว้ด้วยความหมายที่ทำให้คนฟังรู้สึกกังวลไปด้วย

“ผมจะไม่มีวันยอมให้เขาทำร้ายเมรี่ได้หรอกครับ หากเขาคิดจะหลอกลวงเรา เขาเจอผมแน่”

“จ้ะ แม่รู้ว่าแมทน่ะทำได้ แต่ตอนนี้หากเราขัดน้องไปก็เหมือนน้ำเชี่ยวที่จะพัดพาเรือให้จม ไร้ประโยชน์...” คุณมาลินีถอนหายใจ

“ผมว่าน้องก็ควรได้รับบทเรียนบ้างหากเราคิดถูกจริงๆ เรื่องแบบนี้เรายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุครับ เรารอดูดีกว่าบางทีผู้ชายคนนั้นมันอาจจะคิดได้และเป็นสามีที่ดีของน้องก็ได้ เพราะถ้าไม่ ผมเอามันตายแน่...”

แมทธิวบอกเสียงเข้มดวงตาคมฉายแววจริงจังซึ่งคุณมาลินีรู้ดีว่าแมทธิว สามารถทำได้ตามที่พูดไว้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง...

“เอาเถอะๆ แม่ว่าเรื่องนี้ปล่อยให้มันผ่านไปก่อน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ แมทเดินทางดีๆ นะลูก ขอให้ลูกแม่ปลอดภัยเสมอ”

นางกล่าวอย่างอ่อนโยน แมทธิวกราบลงอกนุ่มของมารดาอีกแล้วกอดร่างบอบบางของนางอีกครั้งก่อนจะเดินไปขึ้นรถที่ติดเครื่องยนต์รอ

“ไอ้เสือกลับไปแล้วสินะคุณ...”

คุณมาร์ค โรดิเกรซ สามีคู่ยากในวัยหกเศษเดินเข้ามาโอบเอวของภรรยาคู่ชีวิตไว้อย่างแสนรักแล้วก้มลงหอมแก้มนุ่มแม้เหี่ยวย่นไปตามวัยด้วยความรักไม่เสื่อมคลาย

“ค่ะ น้องอยากให้ตาแมทอยู่กับเรานานๆ จัง แต่ก็เข้าใจว่าลูกงานยุ่ง”

“เคลียร์งานคราวนี้เสร็จผมก็ว่าจะให้แมทพักบ้าง รู้สึกจะบ้างานเกินไปแล้วดูสิ ยังไม่มีเวลาหาเมียเลย เมื่อไหร่เราจะได้อุ้มหลานกันเสียทีล่ะคุณ”

“นั่นสิคะ น้องมีลูกสาวเพื่อนๆ หลายคนเลยค่ะ ที่อยากจะแนะนำให้ตาแมทได้รู้จัก เผื่อจะถูกใจใครสักคนบ้าง แต่น้องก็ไม่ได้บังคับหรอกนะคะว่าเขาจะต้องรักต้องชอบลูกสาวเพื่อนของน้อง ขอแค่ลูกรักเราก็พร้อมจะรักด้วยแค่นั้นเอง”

“แต่บางคนคุณก็ไม่อยากรักใช่มั้ยล่ะ”

คุณมาร์คเย้าภรรยายิ้มๆ เพราะรู้ดีว่าภรรยานั้นรู้สึกอย่างไรกับลูกเขยหมาดๆ ที่ชื่อวายุคนนั้น เขาเองก็ยังรู้สึกไม่ถูกชะตากับชายหนุ่มผู้ได้ชื่อว่าลูกเขยนัก แต่ก็เพราะรักลูกสาวของตนจึงยอมให้มีงานแต่งงานนี้เกิดขึ้น คุณมาลินีซบหน้าลงกับอกกว้างของสามีอย่างอ่อนล้าดวงตาของผู้ที่ผ่านโลกมามากเหม่อมองไปยังท้องฟ้าที่ทะมึนดำด้วยเมฆฝนอย่างรู้สึกหนักอึ้งในใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel