Ep.4
‘ไม่มีทางให้อภัยเด็ดขาด’ มือเรียวยกขึ้นเช็ดริมฝีปากสีพีชไปมาหลายครั้งเหมือนกับว่าการกระทำนั้นมันจะลบรอยจุมพิตบ้าๆ นั่นได้ ร่างเพรียวบางสมส่วนเดินไปล็อกประตูก่อนจะเดินมาทิ้งน้ำหนักตัวลงบนที่นอนแรงๆ ก่อนที่จะตวัดสายตาคมสวยไปยังตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เริ่มขยับตัวอย่างใช้ความคิด
“พิซซ่า เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่า” เรฮายะห์ที่ยังอยู่ในชุดหมีแพนด้าตัวใหญ่ขยับตัวเข้ามาใกล้ แล้วถามเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง
“เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร” พิชญาดาราตอบเสียงเย็น แต่ทว่าในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลับสวนทางกันกับคำตอบโดยสิ้นเชิง เรฮายะห์ไม่เชื่อหรอกว่าพิชญาดาราจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรที่ถูกพี่ชายของเธอจูบอย่างร้อนแรงแบบนั้น
“เธอกำลังคิดอะไรอยู่หรือพิซซ่า ดูเธอเหม่อๆ นะ คิดเรื่องพี่ชายของฉันอยู่หรือเปล่า” เรฮายะห์รู้ว่าพิชญาดาราจะต้องโกรธเกลียดพี่ชายของเธอแน่ เพราะรู้ว่าเพื่อนสาวชาวไทยคนนี้มีอคติกับผู้ชายมากขนาดไหน แล้วยิ่งมาถูกพี่ชายที่แสนเจ้าเล่ห์ป่าเถื่อนของเธอจูบเข้าแบบนี้ โอ้...ไม่อยากจะคิดเลยว่าพิชญาดาราจะแค้นมากแค่ไหน
‘ใช่ ฉันกำลังคิดแก้แค้นเอาคืนพี่ชายของเธอไง’ แต่คนที่ที่กำลังคิดอย่างโกรธแค้นในใจก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากดวงตากลมโตที่วาวโรจน์ขึ้น จนสาวน้อยข้างๆ เริ่มรู้สึกหวั่นใจ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ทั้งกับเธอ กับเพื่อนสาวชาวไทยของเธอของคนนี้ และกับพี่ชายจอมเผด็จการของเธอ
สองอาทิตย์ผ่านไป นกยักษ์จากประเทศแซนเธียร่าทะยานขึ้นสู่น่านฟ้าผ่านผืนทรายอาหรับที่แสนกว้างใหญ่ไพศาลมุ่งสู่ประเทศไทย ดินแดนศิวิไลหรือสยามเมืองยิ้ม ที่ชีคเรฮานย์ เอิร์ธราอิด อันโอมาน เดินทางมาเพื่อร่วมงานฉลองพิธีมงคลสมรสของลูกสาวของลูกน้องคนสำคัญคนหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ ‘สิงห์แห่งทะเลทรายอาหรับ’ เดินทางมาเมืองไทย และชีคหนุ่มมิได้มาเพื่อจุดประสงค์เดียว เขายังมีจุดประสงค์หลักที่สำคัญมากต้องรีบจัดการโดยด่วนที่สุด
ร่างสูงเกินหกฟุตในชุดสูทสีทรายสีเดียวกับดวงตาของเขา เดินเข้ามาในห้องแกรนด์บอลรูมของโรงแรมห้าดาวชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร พร้อมกับบอดี้การ์ดในชุดสูทสีน้ำตาลเข้มสองนายเดินตามมาอารักขาเจ้านายเป็นเงาตามตัว
ใบหน้าคมคร้ามหล่อเข้มที่มีแว่นตาสีชากรอบหนาพรางสายตาคู่คมสีทราย บวกกับบุคลิกที่โดดเด่นดูดีมีสง่า พร้อมกับที่บิดาของเจ้าสาวที่เดินเข้ามาทักทายอย่างให้เกียรติ ทำให้แขกเหรื่อเกือบทุกคนในงานหันมามองหนุ่มนิรนามที่เพิ่งก้าวเข้ามาจับมือทักทายนายเรืองเดชซึ่งเป็นบิดาของเจ้าสาวเป็นจุดเดียว
“สวัสดีครับท่าน กระผมดีใจมากครับที่ท่านให้เกียรติมาในงานเลี้ยงฉลองงานแต่งงานของลูกสาวของกระผม ยัยรินคงดีใจมากถ้ารู้ว่าท่านมาในงานคืนนี้” นายเรืองเดชค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเมื่อจับมือทักทายผู้เป็นนายจ้าง เรฮานย์ยื่นมามาจับทักทายลูกจ้างคนสนิทพร้อมกับคลี่ยิ้มเล็กน้อยตามแบบฉบับท่านชีคแห่งแซนเธียร่า
“ไหนล่ะลูกสาวของคุณ” เสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยถามบิดาของเจ้าของงานคืนนี้ยิ้มๆ ก่อนสายตาคมสีทรายจะไปสะดุดเข้ากับร่างระหงของเจ้าสาวแสนสวยที่เดินมาทางที่บิดาของเธอยืนอยู่ ก่อนจะค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเช่นเดียวกับบิดาเมื่อยื่นมือออกไปทักทายแขกคนพิเศษ โดยที่นายเรืองเดชยังไม่ทันที่จะตอบคำถามของชีคหนุ่ม
“สวัสดีค่ะท่าน ดิฉันรู้สึกดีใจมากค่ะที่ท่านมาในงานเลี้ยงฉลองของดิฉันกับพี่โจ้ในคืนนี้” รินลดาปล่อยมือออกจากแขกคนพิเศษของบิดา ก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้ร่างสูงสง่าตามแบบฉบับหนุ่มเชื้อสาวอาหรับตรงหน้า พอมองใบหน้าคมคร้ามของเจ้าของร่างสูงซึ่งเป็นถึงเจ้านายของบิดาในระยะใกล้ๆ รินลดาก็ยอมรับว่า เรฮานย์นายจ้างของบิดาเธอช่างหล่อเหลานัก ดูโดดเด่นและน่าเกรงขามจริงๆ เขาดูดีมีเสน่ห์และโดดเด่นสง่างามกว่าเจ้าบ่าวของเธอด้วยซ้ำไป
“ผมขอแสดงความยินดีกับคุณและคนรักของคุณด้วยนะ ขอให้ครองรักกันไปนานๆ” ร่างสูงกล่าวเสียงทุ้มพร้อมกับยิ้มรับเจ้าสาวแสนสวย
“ขอบคุณมากๆ ค่ะท่าน” รินลดากล่าวยิ้มๆ อย่างให้เกียรติ พลันสายตาคู่คมแสนเสน่ห์สีทรายก็สะดุดเข้ากับสร้อยเพชรที่มีดีไซน์เก่ไก๋งดงามแปลกตา เรฮานย์จึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมของสวยๆ งามๆ ตรงหน้า ตามประสาคนที่เป็นพ่อค้าอัญมณีรายใหญ่แห่งรัฐดูไบ
“สร้อยเพชรของคุณสวยงามมาก”
รินลดายิ้มก่อนตอบว่า “ขอบคุณมากค่ะท่าน และต้องขอบคุณแทนพิซซ่าด้วยนะคะ ถ้าเพื่อนของดิฉันได้ยินที่ท่านชมผลงานการเธอ พิซซ่าคงจะดีใจมาก” คิ้วเข้มใต้แว่นตาสีชากรอบหนาย่นคิ้วดกดำเข้าหากันก่อนถาม
“พิซซ่า เป็นคนออกแบบสร้อยเพชรเส้นที่คุณสวมใส่นี้หรือ ใช่คนเดียวกับพิชญาดาราหรือเปล่า”
“ใช่ค่ะท่าน นั่นไงคะยัยพิซซ่า เพื่อนรักของดิฉันค่ะ” ร่างระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์หันไปบุ้ยใบ้สายตาคู่สวยไปยังร่างเพรียวระหงของเพื่อนรักในชุดราตรีสีเขียวอมฟ้าคล้ายกับสีน้ำทะเลพลิ้วแนบลำตัวแต่ยาวกรอมเท้าดูสวยราวกับเทพธิดา ซึ่งกำลังยืนสนทนากับเพื่อนในงานอย่างเพลิดเพลินที่อยู่ห่างออกไปประมาณสิบกว่าก้าว
เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเรฮานย์สืบรู้จนแน่ใจว่า พิชญาดาราแอบพาน้องสาวของเขามาหลบตัวซ่อนอยู่ในเมืองไทย แต่เพราะงานของเขายุ่งมากต้องรีบจัดการโดยด่วน แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาชายหนุ่มก็ถูกเชิญให้มางานเลี้ยงฉลองการแต่งงานในค่ำคืนนี้ ชีคหนุ่มจึงตกปากรับคำลูกจ้างฝีมือดีของเขาทันที
เพราะตอนนี้งานของเขาไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ที่สำคัญเขาต้องการมาตามตัวน้องสาวกลับวังตามคำสั่งของพระบิดาพระมารดา และเพื่อตามมาลงโทษนักโทษสาวจอมหยิ่งที่บังอาจพาน้องสาวสุดที่รักของเขามาซ่อนตัวถึงต่างถิ่นในที่ที่แสนไกลหูไกลตาแบบนี้ หล่อนไม่รู้หรือไงว่า น้องสาวของเขาเป็นถึงเจ้าหญิงเป็นถึงเชื้อพระวงศ์
พิชญาดารา หรือ พิซซ่า ผู้หญิงที่เขาต้องการจะตามหาตัวหล่อนให้พบในเร็วๆ นี้ แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอหญิงสาวได้รวดเกินคาดขนาดนี้ ช่างโชคดีจริงๆ ร่างสูงสง่ามองตามไปยังดีไซเนอร์สาวสวยในชุดราตรีสีน้ำฟ้าอมเขียวคล้ายสีของน้ำทะเลสุดเซ็กซี่นิ่งด้วยความรู้สึกยากที่จะเดาใจได้ เพราะแว่นตาอันใหญ่สีชาที่พรางดวงตาทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าชายหนุ่มรู้สึกเช่นไร
“ท่านครับ เชิญท่านทางนี้ดีกว่าครับ เดี๋ยวกระผมจะนำไป เชิญครับ”
นายเรืองเดชเอ่ยเชื้อเชิญแขกวีไอพี พร้อมกับเดินนำชีคหนุ่มไปยังโต๊ะสำหรับแขกคนพิเศษโดยเฉพาะ และขณะที่เดินตามเจ้าภาพเข้าไปยังด้านในงาน สายตาสีทรายก็หันไปมองใบหน้าสวยยั่วใจชายของสาวน้อยนัยน์ตาคมผมยาวสีดำสนิทที่ดกหนาเป็นเงาดุจแพรไหมอย่างไม่วางตา เขายังจดจำเธอได้ดี โดยเฉพาะรอยจุมพิตแสนหวานที่เขาเคยสัมผัสนั้นก็ไม่เคยลืม และรสชาติของมันยังติดอยู่ที่ริมฝีปากของเขาอยู่จนถึงวินาทีนี้
หล่อนดูสวยยั่วยวนใจเขาจริงๆ เรฮานย์คิดตามประสาชายโสดที่มักจะเป็นที่หมายปองของสาวสวยอยู่เสมอ ชีวิตหนุ่มที่ไม่เคยขาดผู้หญิงแนบข้าง ชีวิตท่านชีคที่ต้องการหญิงใดก็มักจะสมปรารถนา ปรายตาไปมองร่างเพรียวระหงโดดเด่นนั้นด้วยความรู้สึกพึงพอใจ เขาทั้งเจ็บใจทั้งปรารถนาอยากจะสั่งสอนหล่อน ที่บังอาจท้าทายอำนาจของเรฮานย์ คิดเหรอว่าเขาจะยอมปล่อยให้หล่อนทำผิดโดยไม่คิดลงโทษ
คอยดูนะ...มีโอกาสเหมาะๆ เมื่อไหร่ จะจับเหวี่ยงลงบนที่นอน แล้วสั่งสอนด้วยพิศวาสแทบขาดใจให้กับหล่อนสามวันสามคืนเอาแบบไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันกันเลยทีเดียว หากหล่อนยังคิดที่จะอวดเก่งกับเขาอีก
