1. หนุ่มหล่อ ทายาทชีค

สัญญาณเรียกเข้ามือถือของคนที่อยู่ภายในรถโฟร์วีลทำให้ซาร์กาซึ่งนั่งอยู่ข้างคนขับรีบรายงานให้แก่ คาลิฟา ซาเอด อัลมาร์ซี ที่กำลังขับรถอยู่ให้ทราบทันที

“สายจากตุรเกียครับ”

“ใครโทรมา”

คาลิฟา ซาเอด อัลมาร์ซี ถามซาร์กา อย่างไม่สนใจนัก สายตาของเขามุ่งอยู่ถนนเบื้องหน้าที่ท้าทายคนขับเป็นอย่างยิ่งกับเส้นทางของทะเลทรายที่มีความลาดชัน มียอดเนินทรายตั้งฉากเป็นคลื่นให้ต้องใช้สมาธิในการขับตลอดเวลา

“คุณเลปโป เลขาของท่านชีคซายิดครับ..”

ซาร์กา ตอบเจ้านายหนุ่มมหาเศรษฐีแห่งตระกูลซาเอด อัลมาร์ซี ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติในตระกูลเดียวกับซาร์กาด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าคาลิฟา กำลังใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับการขับรถโต้คลื่นทรายที่เป็นลอนเรียงรายอยู่เบื้องหน้า มากกว่าที่จะสนใจกับคำตอบของซาร์การ์ แรงขับเคลื่อนของรถทำให้ทั้งคนขับ และคนนั่งคู่ ต่างก็ตัวคลอนโยกเยกไปตามความแรงของรถ กระทั่งผ่านเส้นทางความยากลำบากนั้นเข้าสู่ถนนทรายที่ราบเรียบลงกว่าเดิม คาลิฟาจึงหันมาให้ความสนใจกับสิ่งที่พูดค้างไว้

“กดรับได้เลยซาร์กา”

พอเจ้านายหนุ่มสั่งเช่นนั้น ซาร์กา ก็รีบกดรับสัญญาน ภาพและเสียงทันที ภาพจากจอคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ตรงคอนโซลรถตรงหน้าก็ปรากฏภาพของชายอาหรับวัยกลางคนขึ้นที่จอ

“สวัสดีครับท่านคาลิฟา..”

ชายในจอภาพโค้งศีรษะอย่างนอบน้อมให้กับคาลิฟา เขาสามารถมองเห็นภาพของคาลิฟา กับ ซาร์กา ในรถได้อย่างชัดเจนจากจอรับภาพทางโน้นเช่นเดียวกัน

“คุณเลปโปมีอะไรหรือเปล่า” คาลิฟา เป็นคนเอ่ยถาม

“ท่านชีคซายิด มีบัญชาให้กระผมมาเรียนให้ท่านกลับตุรเกียด่วนครับ”

เลปโป บอกแก่คาลิฟาอย่างสุภาพท่าทีเกรงใจ

“ท่านชีค คงลืมไปกระมังว่าผมมีโปรแกรมเดินทางท่องเที่ยวหนึ่งเดือน คุณเองก็รู้ไม่ใช่หรือเลปโป ตอนนี้เพิ่งจะผ่านไปสิบห้าวันเท่านั้นเองนะ” คาลิฟาทักท้วงขึ้น

“กระผมทราบดีครับ และท่านชีคซายิด ก็ทราบเช่นกัน แต่ว่ามีเรื่องด่วนและสำคัญมากที่ท่านชีคซายิด อยากจะให้ท่านคาลิฟา มารับทราบด้วยตัวเอง” เลปโปตอบ

“เรื่องสำคัญอะไรหรือ” คาลิฟาถามกลับไป

“กระผมไม่ทราบครับ..แต่ตอนนี้กระผมว่าท่านคาลิฟารีบเข้ามาพบท่านชีคซายิดดีกว่าครับจะได้รู้รายละเอียด”

“แล้วตอนนี้ท่านชีคกำลังยุ่งอยู่หรือเปล่า..ช่วยต่อสายไปให้ผมที”

คาลิฟา ใจร้อนอยากจะทราบในเวลานี้เลย

“ตอนนี้ท่านชีคซายิด พักผ่อนอยู่ที่บ้านคุณนวลปรางค์ครับ..เดี๋ยวกระผมจะลิงค์สายต่อให้นะครับ”

เลปโป โค้งศีรษะให้คาลิฟา อย่างนอบน้อมก่อนที่ภาพใบหน้าของเลปโป บนจอรับภาพจะหายไปเปลี่ยนเป็นลายเส้นพร้อมเสียงสัญญานโทรออกแทน และเพียงไม่นานนัก คาลิฟา ก็ได้พูดสายกับท่านชีคซายิด โดยที่ฝ่ายนั้นไม่ได้เปิดภาพให้เห็นหน้าจึงคุยกันด้วยเสียงเพียงอย่างเดียว

การสนทนาระหว่างชีคซายิด ซาเอด อัลมาร์ซี กับคาลิฟา ซาเอด อัลมาร์ซี ใช้เวลาเพียงสองนาทีก็สิ้นสุดลง โดยที่ชีคซายิด ไม่ได้บอกรายละเอียดถึงเรื่องที่ให้เขากลับด่วน

คาลิฟา ซาเอด อัลมาร์ซี จอดรถกลางทางพลางถอนหายใจยาวหลังจากที่ได้พูดคุยกับท่านชีคซายิดแล้ว

“ซาร์กา..นายมาขับรถแทนฉันได้แล้ว..กลับตุรเกียตอนนี้เลย”

คาลิฟา บอกพร้อมกับเปิดประตูรถออกไปเพื่อให้ซาร์กาได้มาทำหน้าที่คนขับรถแทน ซาร์กา ไม่ได้เปิดปากถามถึงเหตุผลที่ญาติหนุ่มออกคำสั่งให้พากลับยังรัฐตุรเกีย เพราะจากการที่ได้ใกล้ชิดทำงานร่วมกับคาลิฟา มาได้สองปีทำให้ซาร์กา รู้ว่าเวลาไหนที่เขาควรจะถามหรือพูด

คาลิฟา ซาเอด อัลมาร์ซี เอนหลังลงเบาะนุ่มหลับตานิ่งเงียบเหมือนคนที่กำลังทำใจอยู่ เขารู้สึกเสียดายที่จะต้องหยุดการเดินทางท่องเที่ยวในเขตทะเลทรายนอกเมืองตุรเกียเอาไว้เพียงแค่นี้ ทั้งที่เขาวางแผนในการท่องเที่ยวครั้งนี้เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยมีซาร์กา ที่เป็นทั้งญาติ และเลขาส่วนตัวร่วมเดินทางด้วย ทั้งคู่ใช้ชีวิตแบบนักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทายตื่นเต้นค่ำไหนนอนนั่น

บางคืนก็ตั้งแค้มป์กระโจมเป็นที่พักกลางผืนทราย บางคืนก็พักอาศัยกับชาวบ้านและบางครั้งก็นอนในรถ หากสถานที่ใดรถยนต์ไม่สามารถจะผ่านเข้าไปได้ก็จะเช่าอูฐจากฟาร์มอูฐเป็นพาหนะในการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศความเป็นชาวทะเลทรายพื้นเมืองอย่างแท้จริง

นอกจากความชอบส่วนตัวในการท่องเที่ยวแล้ว คาลิฟา หวังว่าเขาจะนำสิ่งที่พบเห็นจากการท่องเที่ยวครั้งนี้ นำไปเป็นข้อมูลให้กับท่านชีคซายิด ซาเอด อัลมาร์ซี ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของตระกูลซาเอ็ด อัลมาร์ซี ที่มีตำแหน่งเป็นถึงชีคผู้ครองรัฐตุรเกียของประเทศดามัสเซีย นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐและประเทศชาติ แต่เมื่อได้รับคำสั่งจากท่านชีคผู้เป็นพี่ชายให้กลับอย่างกะทันหันเช่นนี้ คาลิฟาจำต้องทำตามในทันที

“เอาไว้นายกลับมาแล้วพี่จะบอก เรื่องนี้มันจะเกี่ยวกับชีวิตและอนาคตของนายอย่างมาก”

คำพูดของท่านชีคซายิด ผู้เป็นทั้งชีคผู้ครองรัฐ และเป็นพี่ชายของคาลิฟา สร้างความหนักใจให้กับคาลิฟาไม่น้อย

ชีคซายิด ซาเอด อัลมาร์ซี เป็นพี่ชายคนโตของตระกูลซาเอด อัลมาร์ซี ที่เกิดจากภรรยาคนแรกของชีคฟาฮัด ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากชนเผ่าเร่ร่อนกลางทะเลทรายอันแห้งแล้งเมื่อหลายร้อยปีก่อน

โดยเริ่มต้นจากชีคมูหะดิน เป็นหัวหน้าชนเผ่าตุรเกียที่สามารถรวบรวมผู้คนในทะเลทรายให้รวมกันเป็นกลุ่มก้อน พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนเรื่อยมา จนได้รับความเคารพไว้วางใจให้ทายาทรุ่นต่อ ๆ มาของท่านชีคมูหะดิน สืบทอดความเป็นผู้นำมาอย่างไม่ขาดสาย กระทั่งมาถึงยุคของชีคซายิด ซาเอด อัลมาร์ซี ได้เป็นผู้นำแห่งรัฐตุรเกีย ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 รัฐของประเทศดามัสเซีย ที่มีชีคฮัชไมต์แห่งดามัสเซีย เป็นประธานาธิบดีของประเทศ

โดยผู้ปกครองรัฐทั้ง 5 รัฐ จะมีการประชุมร่วมกันปีละ 4 ครั้ง ทุกรัฐมีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกคนที่จะเป็นประธานาธิบดี ส่วนการปกครองในแต่ละรัฐเป็นอำนาจแบบสืบทอดกันมาตามประเพณีขึ้นอยู่กับตระกูลของผู้ปกครองรัฐนั้น ๆ

รัฐตุรเกีย เป็นเพียงรัฐเดียวที่มีพื้นที่ในส่วนที่เป็นทะเลทราย และยังมีพื้นที่ส่วนที่เป็นทะเลที่มีท่าเรือขนส่งสินค้าด้วย โดยชีคซายิดมีโครงการใหญ่ใช้ทรายถมทะเล เพื่อสร้างเมืองใหม่ให้เป็นเหมือนหมู่เกาะกลางทะเลเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น โครงการนี้ ชีคซายิด ทุ่มงบจำนวนมหาศาล เพื่อสร้างชื่อให้รัฐตุรเกีย เป็นเมืองที่ทันสมัยไฮเทคที่สุด และกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

นอกจากนี้รัฐตุรเกีย ยังเป็นแหล่งผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก กิจการหลักของตระกูลซาเอด อัลมาร์ซี เป็นธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทั้งหมด นำความร่ำรวยมาให้กับตระกูลอย่างมากจนติดอันดับของมหาเศรษฐีโลก แต่น่าเสียดายที่ชีคซายิดกลับไม่มีบุตรธิดาแม้แต่คนเดียวจากภรรยาแต่งทั้งสี่คนนั้นเลย