เล่ห์รักนายวายร้าย

116.0K · จบแล้ว
บีน่าเลดี้
54
บท
43.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาจองเธอมาตั้งแต่เด็ก แต่เธอกลับให้สถานะเขาแค่ 'พี่ชาย' แต่มีหรือว่าคนอยากเขาจะยอมให้เธอเป็นแค่น้องสาว เพราะสถานะเดียวที่เหมาะกับเธอนั่นก็คือ 'สถานะเมีย' เท่านั้น “หนูไม่ได้รู้สึกอะไรกับเฮียเลยสักนิด นอกจากคิดว่าเฮียเป็นแค่พี่ชาย..” “แต่เท่าฉันจำได้ ฉันไม่เคยมีน้องสาวหน้าตาแบบเธอ” “ถึงตอนนี้เฮียจะไม่ยอมรับหนูเป็นน้องสาว แต่หนูนี่แหละจะยัดเยียดตัวหนูเป็นน้องสาวของเฮียเอง” “อย่ามาพูดจาเพ้อเจ้อ แล้วก็เตรียมตัวไว้ให้ดี เพราะฉันอาจจะยัดเยียดความเป็นผัวให้เธอซะก่อน..” -------------------------------- คำเตือน! นิยายเรื่องนี้มีฉาก NC เรท 18+ และพฤติกรรมไม่ค่อยเหมาะสม เหมาะสำหรับบุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป [ตัวละคร สถานที่ ในนิยายเรื่องนี้ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงจินตนาการที่แต่งขึ้นของนักเขียนเพียงเท่านั้น ผู้แต่งไม่ได้มีเจตนายุยงส่งเสริมให้ลอกเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตัวละครในเรื่องนี้แต่อย่างใด กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน] *ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 *ห้ามคัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง เนื้อหาโดยเด็ดขาด แคปเนื้อหา

นิยายรักรักหวานๆรักวัยรุ่นโตมาด้วยเศรษฐีโรแมนติกพระเอกเก่งนักศึกษา18+

Chapter 1

@คฤหาสน์ของตระกูลพยัคญาดา

21.30 น.

หนุ่มหล่อทายาทบริษัทยักษ์ใหญ่ยานยนต์ เดินผิวปากลงมาจากห้องส่วนตัว เขาใช้นิ้วเรียวยาวหมุนควงพวงกุญแจรถอย่างอารมณ์ดี และเมื่อร่างสูงกำลังจะเดินไปที่รถสปอร์ตหรูคู่ใจ เพื่อไปท่องราตรียามค่ำคืนตามประสาหนุ่มโสดกับแก๊งเพื่อน เขากลับต้องหยุดชะงักฝีเท้าอยู่กับที่ เมื่อได้ยินบทสนทนาของน้องชายฝาแฝดกำลังคุยโทรศัพท์กับปลายสายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“เจ็ดโมงเช้าวันพรุ่งนี้ เดี๋ยวพี่ไปรับครับ น้องแพรเตรียมตัวได้เลย”

(งั้น...พรุ่งนี้เจอกันนะคะ พี่ชายสุดหล่อของหนู)

“พรุ่งนี้เจอกันครับ น้องสาวคนสวยของพี่...” จากนั้นปลายสายก็กดวางสายไป

“เหอะ!...น้องสาวคนสวยของพี่”

“ก็น้องสาวของกูสวยจริงๆ สวยจนทำให้หนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่จ้องจะงาบและอยากได้เธอเป็นแฟน รวมถึง...” ไรเฟิลโต้กลับเพียงเท่านั้น เขาก็หันไปยักคิ้วให้ชายหนุ่มเส้นผมสีเทาหม่นด้วยท่าทียียวนกวนบาทา และคนคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพี่ชายฝาแฝดของเขาเอง แล้วไรเฟิลก็ยังรู้อีกด้วยว่า ที่พี่ชายฝาแฝดของเขาพูดกระแนะกระแหนกับเขาแบบนี้ มันเป็นเพราะอะไร

“แพรดาวไปมหาลัยเองไม่ได้หรือไง มึงถึงต้องไปรับไปส่งเธอถึงที่บ้าน” รันเวย์เลิกคิ้วถามไรเฟิล

“พรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรก กูก็ต้องไปคุมน้องสาวของกูหน่อยดิวะ พึ่งจะขึ้นปีหนึ่ง เดี๋ยวแม่ง...ก็มีหนุ่มๆ มารุมขายขนมจีบ กูต้องกันไว้ก่อน เพราะน้องสาวของกูต้องได้ผู้ชายดีๆ เท่านั้น” ไรเฟิลตอบกลับรันเวย์

“เหอะ! คำก็น้องสาวของกู สองคำก็น้องสาวของกู มึงไม่กระดากปากตัวเองบ้างหรือไงวะ?” รันเวย์เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“เอ๊า! ก็ลุงวาโยกับป๊าเป็นเพื่อนรักกัน น้องแพรดาวก็ถือว่าเป็นน้องสาวของเราสิวะ หรือว่ามึงไม่ได้คิดว่าเธอเป็นน้องสาวของเรา” ไรเฟิลเอ่ยถามรันเวย์ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ราวกับว่ากำลังคิดอะไรสนุกๆ อยู่ภายในใจ

“ใครอยากจะเป็นพี่ชาย...ยัยเด็กนั่นวะ”

“มึงไม่อยากเป็นพี่ชาย แล้วมึงอยากเป็นอะไรกับน้องแพร” ไรเฟิลเอ่ยถามรันเวย์

“ไม่อยากเป็นพี่ชายก็คือไม่อยากเป็นพี่ชายไงวะ มึงอย่ามาแกล้งโง่หน่อยเลยไอ้เฟิล” รันเวย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดที่ไรเฟิลพยายามจะพูดไล่ต้อนให้เขาจนมุม

“มึงอยากเป็นแฟนน้องแพรว่างั้น?” ไรเฟิลยังคงพูดไล่ต้อนรันเวย์ไม่เลิก เพื่อที่จะให้รันเวย์ยอมรับความรู้สึกตัวเองสักที ว่าหัวใจของรันเวย์ยังคงมีหญิงสาวผู้นี้อยู่ในใจของเขาแต่เพียงคนเดียว

“เหอะ! ใครจะอยากเป็นแฟนยัยเด็กนั่นวะ ไม่มีทาง”

“เหรอวะ?” ไรเฟิลพยักหน้าเออออไปตามคำพูดของรันเวย์ด้วยสีหน้าทะเล้น

“กวนตีนกูแบบนี้ สงสัยอยากกินตีนกูก่อนไปคลับ...” รันเวย์พูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“แล้วนี่มึงจะไปแล้วเหรอ?” ไรเฟิลรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เมื่อเห็นรันเวย์จ้องเขม็งมองเขาอย่างเอาเรื่อง เพราะไรเฟิลก็ไม่อยากที่จะเอาใบหน้าหล่อเหลาของตัวเองไปรับหมัดหนักๆ ของรันเวย์มากนักหรอก ยิ่งรันเวย์เป็นประเภทคนที่คิดจริงทำจริงอยู่ด้วย

“เออ...แล้วมึงล่ะ? จะไปพร้อมกูไหม?” รันเวย์เอ่ยตอบและถามไรเฟิลในประโยคเดียว เพราะคืนนี้เขานัดแฮงเอาต์กับแก๊งเพื่อนที่คลับ

“แล้วขากลับ มึงจะไปนอนที่คอนโดหรือกลับมานอนที่บ้าน” ไรเฟิลเอ่ยถามรันเวย์

“กลับมานอนบ้าน”

“เออ...งั้นกูไปพร้อมมึงก็ได้ เพราะพรุ่งนี้กูต้องตื่นแต่เช้าไปรับน้องแพร ว่าแต่มึงเหอะไอ้เวย์ ชวนกูไปด้วยแบบนี้ มึงคงไม่ทิ้งกูให้หารถกลับบ้านเองใช่ไหม? ” ไรเฟิลเอ่ยถามรันเวย์ เพราะปกติเวลาพวกเขาไปคลับมักจะขับรถกันไปคนละคัน เพราะบางคืนพวกเขาจะมีหญิงสาวที่ถูกใจติดไม้ติดมือกลับมาคอนโดด้วยตามประสาหนุ่มโสด

“คืนนี้...กูไม่ไปกับใครทั้งนั้น เพราะกูต้องตื่นเช้าเหมือนกัน” รันเวย์เอ่ยตอบไรเฟิล

“หึ...” ไรเฟิลแสยะยิ้มมุมปาก เมื่อรู้ว่ารันเวย์กำลังคิดจะทำอะไร

@คลับหรู

“มาช้าจังเลยวะ?” คิมหันต์เอ่ยถามขึ้น เมื่อรันเวย์และไรเฟิลเดินมาถึงโต๊ะโซนวีไอพีภายในคลับ

“รถติดว่ะ” รันเวย์เอ่ยตอบ ก่อนจะหย่อนตัวนั่งบนโซฟาที่อยู่ข้างๆ คิมหันต์

“ไม่หลับไม่นอนวะณิชา” ไรเฟิลเอ่ยทักทายเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่ม ไรเฟิลอุ้มณิชาขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของเขาอย่างรวดเร็วราวกับหยอกล้อเพื่อนสาวของเขา เพราะไรเฟิลมักชอบแกล้งณิชาแบบนี้เป็นประจำ

เพียะ! เพียะ!

“โอ๊ย!! ไอ้บ้าเฟิล ทำไมนายชอบแกล้งฉันแบบนี้อยู่เรื่อยเลยวะ” ณิชาดิ้นขลุกขลักอยู่บนตักแกร่งของไรเฟิลและยกมือบางตีแขนแกร่งของเขาอย่างแรง เมื่อเขากอดเธอไว้แน่น

“โอ๊ย! เจ็บนะโว้ย…ณิชา มือหนักฉิบ” ไรเฟิลทำสีหน้าเหยเกและยกมือสากลูบแขนตัวเองป้อยๆ

“เจ็บก็ปล่อยสิ…นายจะมากอดฉันทำไม? นายแกล้งฉันแบบนี้ ผู้ชายก็ไม่กล้าเข้ามาจีบฉันน่ะสิ...” ณิชาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด และเอามือแกะแขนแกร่งออก ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งข้างๆ ไรเฟิลแทน

“เหอะ! เป็นสาวเป็นแส้ เสือกอยากแรดให้ผู้ชายเข้าหา” ไรเฟิลจ้องใบหน้าสะสวยด้วยความไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมเขาถึงต้องไม่พอใจณิชาด้วย เมื่อรู้ว่าณิชาอยากให้ผู้ชายคนอื่นเข้ามาจีบเธอ

“เสือกเก่ง” ณิชาตวัดสายตามองไรเฟิลด้วยความไม่พอใจกับคำพูดของเขาที่ต่อว่าเธอ ก่อนจะยกน้ำสีอำพันขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว

“เลิกกัดกันสักทีเถอะพวกมึงสองคนน่ะ!” รันเวย์เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ เมื่อเห็นไรเฟิลและณิชาถกเถียงกันไม่หยุด

“กัดกันแบบนี้ ระวังจะตกหลุมรักกันเองนะพวกมึง ฮ่าๆ” คิมหันต์เอ่ยแซวไรเฟิลและณิชาที่มักจะชอบเถียงกันอยู่บ่อยครั้งราวกับเด็กน้อย

“โอ๊ย!! คิม นายก็พูดไปเรื่อย ฉันไม่มีทางหลงรักคนอย่างไอ้เฟิลมันหรอก ฉันยอมตายดีกว่าที่จะไปรักคนอย่างตานี่” ณิชาทำท่าลูบแขนตัวเอง เธอรู้สึกขนลุกขนพองกับคำพูดของคิมหันต์ เพราะต่อให้มีผู้ชายแบบไรเฟิลเหลือเพียงคนเดียวในโลก เธอก็ไม่มีทางเอาผู้ชายอย่าง ‘ไรเฟิล’ เป็นสามีแน่ เพราะเธอคงรับความร้ายกาจของเขาไม่ไหว

“แล้วใครจะหลงรักผู้หญิงอย่างเธอกันล่ะ สวยก็ไม่สวย นมก็แบนอย่างกับกระดานไวต์บอร์ด” ไรเฟิลโต้เถียงณิชาอย่างไม่ยอมแพ้ แล้วใช้สายตาคมจ้องไปที่หน้าอกของเธอ ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

“ชิ! มาว่าฉันนมแบน นายเคยเห็นนมของฉันแล้วหรือไง ฮะ! ไอ้บ้าเฟิล!” ณิชาเอ่ยเถียงไรเฟิลอย่างไม่ยอมแพ้

“ลุกขึ้นไปเถียงกันข้างนอกคลับปะพวกมึง แหกปากอยู่ได้ น่ารำคาญฉิบ” รันเวย์เอ่ยพูดสีหน้าหงุดหงิด จนทำให้ไรเฟิลและณิชาปิดปากเงียบสนิทโดยอัตโนมัติ มิหนำซ้ำไรเฟิลและณิชายังขยับมานั่งชิดกันอีกต่างหาก ทำราวกับว่าเมื่อครู่นี้ไม่ได้เถียงกันมาก่อน เพราะตอนนี้ไรเฟิลและณิชาคิดว่าสามัคคีกันไว้ก่อนดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของทั้งคู่ เมื่อเห็นแววตาดุดันของรันเวย์ที่จ้องเขม็งมองทั้งคู่ด้วยสายตาไม่พอใจ และรันเวย์ก็คงเป็นคนเดียวในกลุ่มที่สามารถห้ามปรามไรเฟิลและณิชาให้เลิกเถียงกันได้

“แล้วเนี่ยไอ้บิ๊กบอสมันหายหัวไปไหน?” รันเวย์หันไปถามคิมหันต์

“กูคิดว่ามันคงตายห่าที่ชักโครกแล้วมั้ง แม่ง! บอกกูกับไอ้ณิว่าไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว นี่ปาไปเป็นชั่วโมงแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาหัว...” คิมหันต์เค้นหัวเราะ เมื่อพูดถึงเพื่อนสนิทอีกคนในแก๊งของพวกเขา

“นินทาอะไรกูไอ้คิม แช่งกูดีนักนะมึงน่ะ กูก็แค่ไปปล่อยน้ำออกจากท่อแป๊บเดียวเองไอ้เวร...” บิ๊กบอสที่พึ่งเดินเข้ามาที่โต๊ะโต้กลับคิมหันต์ทันควัน เมื่อได้ยินคิมหันต์กำลังพูดนินทาเขาให้รันเวย์ฟัง เขาก็แค่เจอหญิงสาวที่ร้อนแรงถูกใจก็เลยไปปล่อยน้ำให้สบายตัวแค่นั้นเอง

“มึงพูดห่าอะไรเกรงใจไอ้ณิมันบ้าง” รันเวย์แสยะยิ้มอย่างร้ายกาจ เมื่อเห็นเพื่อนสนิทผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มนั่งอยู่ด้วย แต่รันเวย์ก็พูดห้ามปรามบิ๊กบอสไปอย่างนั้นเอง เพราะณิชาเธอคงจะชินแล้ว ถ้างั้นเธอคงเป็นเพื่อนและอยู่กับผู้ชายเถื่อนๆ แบบพวกเขาไม่ได้

“นายไม่ต้องมาพูดให้ตัวเองดูดีเลยเวย์ ฉันว่านายหนักกว่าบิ๊กบอสอีก...” ณิชาเค้นหัวเราะออกมา เพราะถ้าเทียบความร้ายกาจของเพื่อนในกลุ่ม คงไม่มีใครเทียบความร้ายกาจของรันเวย์ติดแน่ๆ เพราะถึงแม้ว่าเธอจะถกเถียงกับไรเฟิลบ่อยๆ แต่กับรันเวย์ที่หน้าตาเหมือนกัน เธอก็ไม่ค่อยกล้าต่อปากต่อคำกับรันเวย์เหมือนไรเฟิลมากนักหรอก