ไม่มีเหตุผล
"มึงคงไม่รู้สินะว่าโอลีฟรักกูมากขนาดไหน"
"มึงคงไม่รู้สินะว่าโอลีฟรักกูมากขนาดไหน"
"มึงคงไม่รู้สินะว่าโอลีฟรักกูมากขนาดไหน"
"มึงมันก็แค่ตัวคั่นเวลา เพราะยังไงโอลีฟเขาก็ไม่มีวันเลือกนักมวยกระจอกๆ แบบมึงหรอก!"
"มึงมันก็แค่ตัวคั่นเวลา เพราะยังไงโอลีฟเขาก็ไม่มีวันเลือกนักมวยกระจอกๆ แบบมึงหรอก!"
"มึงมันก็แค่ตัวคั่นเวลา เพราะยังไงโอลีฟเขาก็ไม่มีวันเลือกนักมวยกระจอกๆ แบบมึงหรอก!"
พรึ่บ!! เพล้ง!! ผมฟาดแก้วเหล้าลงพื้นจนแตกละเอียด เมื่อคำพูด สีหน้าของไอ้เคลิ้มมันลอยวนอยู่ในหัวตลอดเวลา
"เป็นอะไร?" ไอ้สงครามถามขึ้น
"ช่วงนี้ก็ไม่ได้ขึ้นชกนี่หว่า แล้วเครียดอะไรอีก?" อันนี้เสียงไอ้ครูซ
"ทะเลาะกับเมีย?" อันนี้ไอ้เพลิง
"...." ผมเงียบไม่ตอบอะไรกลับไป ผมมองหน้าเพื่อนแล้วถอนหายใจออกมา ผมไม่อยากมาคิดมากเรื่องเธอเลยสักนิด ผมไม่ชอบเวลาที่ตัวเองต้องมาร้อนรนจะเป็นจะตายกับเรื่องของคนอื่น ผมไม่เคยรักใครนอกจากตัวเอง แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว ผมรักเธอ
จากคนที่เอาแต่บ้างาน กินเหล้าอยู่แต่กับเพื่อน อยู่แต่กับตัวเอง พอมีโอลีฟเข้ามาทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ดูเปลี่ยนไปหมด ตารางชีวิตผมต้องวุ่นวาย ต้องเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปเพราะเธอคนเดียว
ผมปลีกตัวลุกออกมาจากตรงนั้น ก่อนที่จะเดินออกมาด้านนอกเพื่อสูบบุหรี่ดับความหงุดหงิดภายในใจตอนนี้
OLIVES : ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนาย
OLIVES : รับสายฉันด้วย ฉันอยากเคลียร์ให้มันจบๆ ไปสักที
ผมพ่นควันบุหรี่ออกมาหนักๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมนั่งมองโทรศัพท์ที่ดังขึ้นร่วมเกือบชั่วโมงจากเสียงข้อความไลน์ สายเรียกเขา ผมไม่ยอมรับสายเธอ ผมเลือกที่ตัดสายเธอทิ้งแล้วปิดเครื่อง ผมแค่ยังไม่พร้อมที่จะคุยในตอนนี้ ผมยังไม่พร้อมรับความจริงใน เพราะผมรู้ดีว่าเธอจะพูดอะไร
เธอคงอยากไปจากผมเต็มทน แต่ไม่หรอก ผมยังไม่เบื่อเธอเลย ผมจะไม่ยอมให้เธอไปไหนทั้งนั้นจนกว่าผมจะเป็นคนเบื่อแล้วเป็นคนทิ้งเธอเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะมีวันนั้นมั้ย
ผมรู้ว่าเธอคงโกรธผมมากที่เห็นผมกระทืบมันคาตาขนาดนั้น ผมกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของเธอ แต่จะมีใครรู้บ้าง ว่ามันทำอะไรกับผม ผมถึงต้องกระทืบมันแบบนั้น แต่ช่างมันเถอะ ผมไม่ชอบอธิบาย เดี๋ยวจะหาว่าแก้ตัว ผมจะรอให้ทุกอย่างมันดีขึ้น รอให้ลีฟใจเย็น แล้วผมถึงจะไปคุยกับเธอ
END LOVE TALK
ฉันกลับมารอเลิฟที่คอนโดของเขา เพราะเขาได้หายตัวไปตั้งแต่ก่อเรื่อง ฉันไม่รู้จะทำยังไง เพราะไม่คิดว่าเขาจะทำแบบที่ฉันคิดมาโดยตลอด
งานแต่งต้องมาพังลงเพราะฝีมือของเขาคนเดียว เพราะเจ้าบ่าวไม่สามารถเข้าร่วมพิธีต่อได้ ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรเขาก็ไม่สมควรที่จะทำแบบนี้ คนอื่นจะมองฉันมองเขายังไง ทำไมเขาทำอะไรไม่คิดถึงหน้าฉันบ้าง คนเขาจะตราหน้าฉันขนาดไหนที่แฟนเก่าอย่างฉันพาเขาไปพังงานแต่งจนย่อยยับ
แกร่ก!! เสียงเปิดประตูดังขึ้นในช่วงเวลาของตีสามกว่าๆ เลิฟเดินเข้ามาให้ห้องด้วยอาการที่ทรงตัวแทบไม่ไหวกลิ่นบุหรี่กลิ่นเหล้ามันคละคลุ้งไปหมด แน่นอนว่าฉันยังนั่งอยู่ที่เดิมเพื่อรอคุยกับเขาให้รู้เรื่อง
"ทำไมยังไม่นอนอีกลีฟ" เขาทิ้งมวนบุหรี่ลงพื้นก่อนที่จะเดินมาหาฉันที่นั่งอยู่ แล้วเดินมากอดฉันหอมแก้มฉันจากทางด้านหลัง
"ทำไมโทรไปไม่รับ?" ฉันมองหน้าเขา เขาก็มองหน้าฉัน ก่อนที่เขาจะหันไปเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าของฉันที่วางอยู่ข้างๆ ฉันคิดไว้แล้วถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องหรือถ้าเขาใช้แต่อารมณ์ ฉันจะเลิกยุ่งกับเขา ฉันจะกลับไปอยู่บ้าน
"...." เขาถอนหายใจออกมาแต่ไม่ได้มองหน้าฉัน เขาเอาแต่ก้มหน้าอยู่แบบนั้น ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
"ทำแบบนี้ทำไมเลิฟ?"
"พอเถอะ เราไม่คุยเรื่องนี้กันได้ไหม ฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอเลยนะ" เขาพูดขึ้นแบบไม่ใส่ใจมากนัก
"...." ฉันหยุดชะงัก หยุดนิ่งให้กับท่าทางเย็นชาของเขา นี่เขาไม่รู้ตัวบ้างเลยเหรอว่าทำอะไรลงไป
"ยอมแล้วลีฟ จะให้ฉันทำอะไรทำแบบไหนก็พูดมา" เขาพูดขึ้นเมื่อฉันกำลังจะเอ่ยคำพูดอะไรบางอย่าง
"นายรู้ไหมว่าเมียเขาแจ้งตำรวจมาจับฉัน ข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับนายทำร้ายพี่เคลิ้ม" ฉันมองหน้าเขาแล้วพยายามพูดด้วยเสียงที่เรียบนิ่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พยายามจะไม่ร้องไห้ออกมาต่อหน้าเขา
เมียพี่เคลิ้มเขาแจ้งตำรวจมาจับฉัน เพราะว่าเขาคิดว่าฉันพาเลิฟไปทำร้ายพี่เคลิ้มจนเจ็บหนัก ไหนงานแต่งที่จะต้องล่ม สร้างความเสียหายอีกไม่รู้เท่าไหร่
เขามีท่าทีหยุดชะงักไปพักนึงเมื่อบอกว่าฝ่ายนั้นไปแจ้งตำรวจ นี่มันชีวิตไม่ใช่บนสังเวียนนักมวยของเขา ที่พอจะไปต่อยใครตีใครแล้วเขาจะไม่เอาเรื่อง
"เดี๋ยวฉันเคลียร์เอง เธออยู่เฉยๆ"
"นายจะเคลียร์อะไรได้เลิฟ นายไม่รู้หรือไงว่าเขาเป็นใคร?" ฉันขึ้นเสียงใส่อย่างเหลือทน เมียพี่เคลิ้มเป็นถึงลูกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มีอิทธิพลมากมาย ไหนจะครอบครัวพี่เคลิ้มอีก บอกเลยฉันคงต้องติดคุกหัวโตแน่นอน
"...." เขานั่งก้มหน้าเงียบไม่พูดอะไรออกมา
"ฉันต้องไปโรงพักคนเดียวทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้รู้เรื่องอะไร แต่ดูนายสิ นายทิ้งฉันเพื่อไปเมากลับมาแบบนี้!"
"โทรไปก็ไม่รับ ปิดเครื่องหนี นายคิดว่าทำแบบนี้มันดีแล้วใช่มั้ย?"
"...."
"ถ้าทำแบบนี้แล้วคิดว่ามันดี นายก็ทำไปเลยฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว" ฉันร้องตะโกนขึ้นด้วยความโมโห ฉันตวาดใส่หน้าเขา ฉันนิสัยเสียนิสัยไม่ดี อันนี้ฉันยอมรับ
"แล้วจะขึ้นเสียงทำไม?" เขาพูดเสียงเรียบมองหน้าฉันแล้วกอดแน่นขึ้น แต่ฉันไม่ได้ต้องการอ้อมกอดจากเขา
"งั้นนายก็อยู่คนเดียวไปเลย" ฉันสะบัดตัวออกจากเขาแล้วขึ้นเสียงใส่เขาอีกรอบ ฉันกลายเป็นคนขี้โวยวายเพราะเขาไม่ยอมพูดออกมา ถึงจะพูดหรือแก้ตัวอะไรออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์อีกเเล้ว เรื่องมันเกิดไปแล้ว เขาควรจะสำนึกไม่ใช่มาบอกว่าไม่ให้ฉันขึ้นเสียงโวยวาย
"...." นิ่ง เขายังคงนิ่งเหมือนเคย นิ่งจนมันอึดอัดคุยอะไรต่อไม่ได้ จะเคลียร์ก็ไม่ได้เพราะเขามัวแต่นิ่งแบบนี้ไง
"แล้วที่ฉันบอกว่าจะขอเวลาจากนาย ตอนนี้ไม่ขอแล้ว ฉันไม่เอานายแล้ว"
"...." เขามองหน้าฉัน ฉันก็มองหน้าเขา ฉันเคยขอเวลาศึกษาดูใจกับเขา แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ฉันไม่อยากไปต่อกับเขาแล้ว
ปึ้ง!! ฉันปิดประตูดังลั่นหิ้วกระเป๋าออกจากห้องเพื่อกลับคอนโดตัวเอง ฉันออกมาโดยไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของเขาสักคำ เขาไม่พูดไม่แก้ตัวไม่อะไรทั้งนั้น เขาสมควรที่จะอยู่คนเดียวตั้งแต่แรก ไม่ควรมีฉัน!
เช้าวันรุ่งขึ้น....
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่ฉันกำลังทำงานบ้านอยู่ในห้อง ฉันเดินไปเปิดประตู ปรากฏว่าเป็นฝ้ายกับซอสที่มาหาตั้งแต่เช้า ท่าทางมันดูร้อนรนแปลกๆ
"พวกมึงมีอะไร มากันแต่เช้า?"
"อีอ้อย นี่เป็นมึงใช่มั้ย กูจำมึงได้" ซอสยื่นโทรศัพท์ให้ฉันดู ก่อนที่ฉันจะรับมาแบบงงๆ แล้วก็เห็นข่าวอะไรบางอย่างที่อยู่ในนั้น
ถูกใจโดย mini_hollf และอื่นๆ อีก 7,980 คน
Hugo news
'วิวาห์ล่ม แฟนเก่าบุกพังงานแต่งจนย่อยยับ'
สาวพริตตี้คนดังรับไม่ได้ถูกเจ้าบ่าวที่คบกันมาเกือบสองปีบอกเลิก บุกพาคนพังงานแต่งลูกเจ้าสัวร้อยล้าน เจ้าบ่าวเจ็บหนักถูกหามส่งโรงพยาบาลฝ่ายเจ้าสาวลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด... เพิ่มเติม
ความคิดเห็นทั้งหมด 460 รายการ
mokl.24 นิสัยทรามไปป่ะ เขาไม่เอาก็อย่าไปตอแยเขาดิ
Gigiwith เคยเห็นนางคั่วกับผู้ชายอยู่ที่ผับย่านทองหล่อด้วยเด้อ นางแรงจริงไรจริง
dollars เคยร่วมงานด้วยครั้งนึง นางก็น่ารักนิสัยดีอยู่นะ
airmax ถ้าเขาเลือกเธอเขาคงไม่หนีไปแต่งงานหรอกจ้าาาา ตื่นค่ะอีชะนี
gigi1589 หน้าตาก็ดีแต่จิตใจสกปรก
เมื่อ9ชั่วโมงที่แล้ว...
"มึงไม่ต้องคิดมากนะ พยายามไม่ต้องอ่านเลยยิ่งดี" ฝ้ายเดินมาปลอบฉัน ที่เห็นฉันเอาแต่จ้องหน้าจอโทรศัพท์ที่มีข่าวฉันอยู่ในนั้น ฉันก็พอรู้อยู่แล้วว่าข่าวมันต้องหลุดออกไปแน่นอน เพราะคนเห็นเหตุการณ์ก็เยอะอยู่
"...."
"มีปากก็พูดไป มึงไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย" ซอสเอามือตบบ่าฉันเบาๆ มันคงกลัวฉันคิดมาก
"อืม กูไม่เป็นอะไร" ฉันตอบพวกมันออกไป ก็ฉันไม่ได้เครียดอะไรมากขนาดนั้น ฉันไม่ค่อยแคร์เรื่องในโลกออนไลน์สักเท่าไหร่ แต่ก็อาจจะรู้สึกเฟลบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงกลับแย่อะไร เพราะรูปมันก็ไม่ได้เบลอขนาดที่จะไม่รู้ว่าเป็นฉัน
"แล้วมึงจะเอายังไงต่อ?" ฝ้ายถามขึ้นอีก
"รอตำรวจโทรมานัดไปให้ปากคำอีกที" ฉันถอนหายใจออกมาหนักๆ เพราะไม่รู้ว่าต่อไปจะต้องเจอกับอะไรอีก
