บท
ตั้งค่า

ล้มมวย

หลายวันต่อมา...

ฉันมาหาเลิฟที่คอนโดแต่เช้าเพราะเขากำชับฉันหนักหนาว่าอยากเจอหน้าฉันก่อนขึ้นชกในไฟท์ใหญ่เย็นนี้ ฉันไม่ได้มาอยู่กับเขาตามที่เขาขอร้อง เพราะฉันยังแค่รู้สึกว่ายังรู้จักเขาไม่ดีพอ ไม่ได้คบแต่ก็ไม่ใช่คนแปลกหน้า ฉันแค่ขอเวลาศึกษาดูใจกับเขาไปก่อน เพราะการที่จะมีใครสักคนเข้ามา นั่นก็หมายความว่าฉันต้องพร้อมที่จะเปลี่ยน แต่ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อม ฉันยังทำใจเรื่องพี่เคลิ้มไม่ได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ดีขึ้นมาไม่ร้องไห้หรือคิดมากเหมือนแต่แรกที่เลิกกัน

"แน่ใจนะว่าวันนี้จะไม่ให้ฉันไปหา" ฉันถามเลิฟที่ตอนนี้กำลังออกกำลังกายอยู่ในห้องยิมส่วนตัวภายในคอนโด ก็เย็นนี้เขามีขึ้นชกไฟท์ใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้อยากให้ฉันไปกับเขาสักเท่าไหร่

"ไม่ต้องไป ถ้าเธอไปแล้วฉันเสียสมาธิ" เขาตอบกลับมาแล้วก้มลงยกเวท ซิทอัพ กระโดดเชือก อะไรต่อมิอะไรของเขาต่อโดยที่มีฉันยืนมองอยู่

"อะไรกันแบบนี้ก็มีด้วย" ฉันพูดออกมาอย่างไม่เข้าใจ เขามีแต่อยากให้ไปตามเชียร์ อีตานี่พิลึกคน

"อยู่ที่ห้องแอร์เย็นๆ ก็ดีแล้ว จะไปให้ลำบากทำไม คนเยอะอึดอัดจะตาย" เขาพูดแบบไม่ใส่ใจมากนัก

"แต่ฉันอยากไปดูนาย"

"จะดูตรงไหน จะดูอะไรอีก เธอเห็นของฉันมาหมดแล้วยังไม่พอใจอีกเหรอ?" เขาตอบกลับมาแล้วลุกขึ้นเดินมาทางฉันที่ยืนอยู่

"...." ฉันได้แต่กลอกตามองบนให้กับคำพูดของเขา ฉันรู้สึกว่าเริ่มชินกับคำพูดของเขาแล้วล่ะ

"ถ้าฉันแพ้ เธอจะเสียใจมั้ยโอลีฟ?" จู่ๆ น้ำเสียงเขาก็ดูจริงจังขึ้นมาซะงั้น

"...." ฉันเงียบไม่ตอบอะไรเขาไป ก็เรื่องแพ้ชนะ มันบังคับกันได้ที่ไหน

ในที่สุดฉันก็แอบตามเขามาจนได้โดยที่ไม่ให้เขารู้ ฉันเลือกมุมที่อับๆ คนไม่ค่อยพลุ่กพล่านสักเท่าไหร่ ฉันมองไปรอบๆ วันนี้คนเยอะมากกว่าทุกครั้ง แล้วคนที่มาส่วนมากก็น่าจะเป็นคนมีเงินทั้งนั้นเลย เพราะค่าเข้าชมรอบนี้เหยียบหลักหลายพันอยู่

ฉันมองไปที่ป้ายขนาดใหญ่ที่แขวนรูปของเลิฟกับคู่ชกในวันนี้ ฉันแค่อยากมาดู อยากมาให้กำลังใจเขา ถึงเเม้ว่าเขาไม่อยากจะให้ฉันมาก็ตามที ซึ่งเลิฟจะได้ขึ้นชกในเวลา 19.00 น.

"กูว่ายังไงก็รังสิมันต์ชนะแน่นอน"

"กูก็เชียร์รังสิมันต์"

ฉันยืนยิ้มให้กับผู้คนที่กำลังคุยกันเรื่องเลิฟ คนมาเชียร์ไอ้หลอนก็เยอะเหมือนกันนะเนี่ย แสดงว่าเขาก็มีแฟนคลับเยอะพอตัว เขาคงดีใจถ้ารู้ว่ามีคนคอยให้กำลังใจเขาจะเยอะขนาดนี้

"ศึกนัดล้างตาในวันนี้ ได้แก่รังสิมันต์กับราชันย์" เสียงพิธีกรเอ่ยขึ้นอยู่บนเทวี ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบนอกเริ่มทยอยหลั่งไหลกันเข้าไป สายตาของทุกคนเพ่งเล็งไปบนเวที เพราะอีกไม่กี่นาทีเลิฟก็จะขึ้นชกแล้ว

"รังสิมันต์ รังสิมันต์ รังสิมันต์" เสียงของผู้คนที่มาเชียร์รังสิมันต์ตะโกนดังขึ้นในขณะที่เขากำลังวอร์มร่างกายอยู่หลังเวทีก่อนขึ้นชก

ผั๊วะ! ตุบ! ตุบ! เสียงหมัดหนักของชายหนุ่มกระทบไปที่กระสอบทรายอยู่แบบนั้น สายตาของเขาตอนนี้จับจ้องไปที่เป้าหมายก็จะชกมัน ลมหายใจเหนื่อยหอบ เหงื่อที่เริ่มผุดออกมาตามใบหน้าและร่างกายบ่งบอกว่าเขาเพิ่งผ่านการซ้อมมาอย่างหนัก

"อย่าลืมที่ตกลงกันไว้" ผู้เป็นนายเดินมากำชับอีกครั้ง

"...." ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ตอบแล้วก้มลงพันเชือกที่มือแทน

"ถ้าแกทำสำเร็จ รับรองว่าพวกเราต้องสบายไปทั้งชาติ" ผู้เป็นนายย้ำขึ้นอีกครั้งเพื่อเตือนสติชายหนุ่ม ไม่ว่าเขาจะแพ้หรือชนะ ยังไงเขาก็ได้เงินนั่นมาอยู่แล้ว แค่จำนวนอาจจะต่างกันมากลิบ

"ขอบุหรี่ให้หน่อย" รังสิมันต์หันไปบอกพี่เลี้ยงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนที่พี่เลี้ยงจะหยิบสิ่งของให้เขาตามที่ต้องการ

ควันบุหรี่สีเทาพวยพุ่งออกทางปากและจมูกของชายหนุ่มอยู่แบบนั้น เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะล้มมวยในครั้งนี้เพื่อเงินจำนวนมากที่เขาต้องการ ที่เขามาชกมวยก็เพราะว่าเขาต้องการเงิน ไม่ได้ต้องการศักดิ์ศรีบ้าบออะไรนั่น

"อีกสองนาทีสแตนบาย" สต๊าฟในงานเดินมาเขา ก่อนที่เขาและพี่เลี้ยงจะทำหน้ารับรู้

รังสิมันต์ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูพร้อมทำสมาธิให้แนวแน่ ตอนนี้จิตใจของเขาจดจ่อไปที่บนเวทีเท่านั้น การล้มมวยไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าเขาโดนจับได้ ตัวเขาอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตเพราะการเดิมพันครั้งนี้เป็นเม็ดเงินมหาศาลมาก

"เปิดตัวแชมป์เก่ารังสิมันต์" เสียงพิธีกรดังขึ้นก่อนที่ชายหนุ่มจะก้าวขาเดินออกไปยังบนเวทีท่ามกลางสายตานับพันคู่กับแสงสปอร์ตไลท์ที่ส่องกระทบมายังตัวเขา เสียงโห่ร้อง เสียงเชียร์ตะโกนดังลั่นไปทั่วห้องส่ง แต่แปลกที่ความรู้สึกเขามันกับเงียบงั้น

สายตาของชายหนุ่มมองจ้องปะทะกับราชันย์ฝ่ายตรงข้าม ราชันย์กดยิ้มที่มุมปากให้ราชันย์ก่อนที่รังสิมันต์จะส่งสายตาเรียบนิ่งไม่สะทกสะท้านกลับไป

"เข้ามาสิ ยืนนิ่งทำเหี้ยอะไร?" รังสิมันต์บอกฝ่ายตรงข้ามที่ยืนนิ่งรอให้เขาเปิด ราชันย์เป็นฝ่ายอยากชนะแต่ดันยืนอยู่กับที่ กระจกฉิบ! ซึ่งแน่นอนว่าจะมีเพียงเขาและราชันย์เท่านั้นที่จะได้ยินบทสทนาที่คุยกัน

ผั๊วะ! ตุบ! ตุบ! เสียงหมัดหนักของราชันย์กระทบลงที่ใบหน้าของรังสิมันต์อย่างแรง ก่อนที่รังสิมันต์จะสวนหมัดคืนกลับไปด้วยชั้นเชิงฝีมือที่สูสีพอกัน เพียงแต่ว่าการชกครั้งนี้ รังสิมันต์ออกแรงเพียงครึ่งเท่านั้น ถ้ายืนนิ่งหรือไม่สู้เลย เขาอาจจะตกเป็นเป้าสายตาได้

ผั๊วะ! ตุบ! ตุบ! เสียงหมัดของราชันย์กระทบที่ลำตัวของรังสิมันต์อีกครั้ง ก่อนที่ราชันย์จะฟาดลำแข้งมาที่ลำตัวของรังสิมันต์อย่างแรงจนล้มลง แต่ครั้งนี้เขาเลือกที่จะนอนนิ่งแล้วขยับเพียงเล็กน้อย เพราะความจุกมันเริ่มแล่นเข้ามาตามร่างกาย

เลือดของรังสิมันต์ไหลออกทางปากและจมูก ก่อนที่เขาจะนอนคว่ำหน้านิ่งเพื่อรอให้กรรมการมานับน็อคในครั้งนี้

"ฮึกกก ละ...เลิฟ ทำไมนายไม่สู้" จู่ๆ หญิงสาววิ่งมาตะโกนเกาะขอบเวทีทั้งน้ำตาเมื่อเห็นชายหนุ่มล้มลงไม่ขยับ บาดแผลของเขาตอนนี้มันส่งผลให้การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งเป็นไปได้ยาก เขาถูกสั่งให้ล้มมวย แล้วแค่อีกไม่กี่นาทีทุกอย่างมันกำลังจะจบ เขาเต็มใจแพ้ในครั้งนี้

"ยัยบ้าเอ้ย" ปากชายหนุ่มขยับเรียกพูดกับหญิงสาวอย่างแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน เธอมาได้ยังไง เพราะเขาเป็นคนกำชับเธอเอาไว้แล้วว่าไม่ให้มาในวันนี้

"ฮึกกก อย่าทำเขาค่ะ อย่าทำเขา" เธอร้องตะโกนออกไปบอกราชันย์ที่กำลังวิ่งเข้ามาจะซ้ำชายหนุ่มอีกรอบ

"โอลีฟ" รังสิมันต์มองหน้าเธอพร้อมความรู้สึกอะไรบางอย่าง น้ำตาของหญิงสาวเขารู้สึกไม่ชอบเอาซะเลย แถมเธอยังมาทำหน้าตาหน้าสงสารร้องไห้แทบจะเป็นจะตายต่อหน้าเขาอีก

"ห้า สี่ สาม สอง..." เสียงกรรมการนับน็อคไม่ทันจบ รังสิมันต์ก็ตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง

หมับ!! พลั่ก!! ตุบ!! รังสิมันต์ตัดสินใจลุกขึ้นมาในเสี้ยวนาทีสุดท้ายที่กำลังจะถูกนับน็อค ก่อนที่ราชันย์จะปรี่ตัวเข้ามาชกหมัดขวามาที่หน้าของชายหนุ่ม

พลั่ก! ผั๊วะ! ตุบ! รังสิมันต์ถอยหลังเพื่อทรงตัวก่อนที่สายตาของเขาจะเล็งไปที่ฝ่ายตรงข้ามด้วยสามาธิอันแรงกล้า ชายหนุ่มหาจังหวะพร้อมประสบการณ์ที่ผ่านมาใช้หมัดทั้งสองจับที่ต้นคอของราชันย์ ก่อนที่รังสิมันต์จะกระแทกเข่าขวาไปที่หน้าของราชันย์อย่างแรงจนล้มลงสลบคาที่

"รังสิมันต์เป็นฝ่ายชนะ" เสียงพิธีกรดังขึ้นพร้อมจับมือรังสิมันต์เพื่อประกาศชัยชนะในครั้งนี้

"ฮิ้วววววว วี๊ดดด วิ๊ดดดดดด" เสียงคนที่ลงเดิมพันทางฝ่ายรังสิมันต์ร้องดังกึกก้องไปทั่วบริเวณขึ้นเมื่อไฟท์ล้างตาครั้งนี้ เขาเป็นฝ่ายชนะอีกครั้ง เขาตัดสินใจในนาทีสุดท้ายทันทีที่เห็นน้ำตาของหญิงสาว เขาแค่ไม่อยากให้เธอเสียใจ

"ไอ้เลิฟมึงทำอะไรลงไป"

"มึงทำบ้าอะไรของมึง"

เสียงพี่เลี้ยงที่อยู่ข้าง ๆ กระซิบกระซาบดังขึ้นข้างหู แน่นอนว่าชายหนุ่มได้ยินทุกคำ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจ เพราะสมาธิตอนนี้เขาจดจ่อไปที่หญิงสาวที่อยู่ด้านล่างเวที

พรึ่บ!! เลิฟรีบกระโดดลงไปแล้วเดินฝ่าฝูงชนไปหาเธอที่ยืนร้องไห้อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าทุกสายตาในสังเวียนกำลังจับจ้องมาที่หญิงสาวคนนี้

"ฉันชนะแล้วจะร้องไห้ทำไม?"

"ละ...เลิฟ" เธอร้องไห้วิ่งมากอดเขาไว้แน่นพร้อมเอาหน้าซุกที่อกของชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะเอามือเช็ดน้ำตาให้ออกจากใบหน้าให้เธอ

"ถ้าเสร็จแล้วเราไปกินหมูกระทะกัน เธอชอบกินไม่ใช่เหรอ?" เขายิ้มบาง ๆ ออกมาพร้อมกอดเธอแน่นท่ามกลางสายตานับพันคู่ที่มองมาทางพวกเขาทั้งสองคน เขาแค่ไม่อยากเห็นเธอร้องไห้เพราะเขา

"นะ...นายเจ็บมากไหม?" หญิงสาวถามออกไปด้วยความเป็นห่วงก็ตามใบหน้าลำตัวของเขามีแต่บาดแผลเต็มไปหมด

"เดี๋ยวก็หาย"

"ไอ้เลิฟ นายเรียกพบด่วน" พี่เลี้ยงประจำตัวของเขาเดินมาบอกด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก

"...." เขาพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาหนักๆ เพราะรู้ว่ากำลังจะโดนอะไรในอีกไม่กี่นาที

"เดี๋ยวฉันมา ไปรอฉันที่หน้าทางออกเดี๋ยวฉันตามไป" ชายหนุ่มพูดแค่นั้นก่อนที่จะจุมพิตที่หน้าผากของเธอเบาๆ

"อืม" เธอพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะเดินออกจากตรงนั้นมา

ชายหนุ่มรีบเดินตามพี่เลี้ยงเพื่อมาหาผู้เป็นนายที่รออยู่ พอมาถึงที่หน้าห้องก็เห็นการ์ดยืนคุมอย่างแน่นหนาเหมือนทุกครั้ง

แกร่ก!!

เพียะ!! ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้องเข้ามา ฝ่ามือหนาก็กระทบลงมาที่ใบหน้าของเขาอย่างแรงโดยฝีมือของผู้เป็นนาย

"ทำไมแกทำแบบนี้?" เสียงผู้เป็นนายตวาดดังลั่นไปทั่วบริเวณ จนลูกน้องที่อยู่แถวนั้นพากันสะดุ้งก้มหน้าไม่กล้ามอง

"...."

"แกรู้มั้ยว่าครั้งนี้ฉันเสียหายมากขนาดไหน!?"

"...." ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งไม่ตอบอะไรกลับไป

"ถ้าแกไม่คิดจะล้มมวย แล้วทำไมแกไม่คิดจะบอกฉันตั้งแต่แรกวะ" ผู้เป็นนายตรงเข้ามากระชากคอเสื้อของเขาอย่างแรง

"ผมขอโทษครับ" ชายหนุ่มพูดออกไป เพราะเขาตัดสินใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะล้มมวย เขารู้ดีว่าครั้งนี้เขาทำเสียหายไปขนาดไหน แต่เขาก็เลือกที่จะทำเพราะไม่อยากเห็นหญิงสาวต้องเสียใจ

"ซวย ซวย ซวย ซวยกันหมดแล้วแกรู้บ้างมั้ย?" ผู้เป็นนายตะโกนดังลั่นคล้ายกับเสียสติ ก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งพร้อมยกมือทั้งสองข้างมากุมขมับ มันไม่ใช่แค่เรื่องเงินแต่มันยังเกี่ยวกับทางธุรกิจสีดำของทางค่ายอีกด้วย

"แล้วนายจะให้ผมทำยังไง"

"ช่วงนี้แกต้องเก็บตัวไปก่อน รอให้เรื่องเงียบ เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง"

"...."

"แล้วก็อย่าทำตัวให้เป็นจุดสนใจนัก แกคงรู้ใช่มั้ยว่าทำไม" ผู้เป็นนายมองหน้าชายหนุ่มอย่างรู้กัน เพราะชายหนุ่มก็รู้ความหมายนั้นดีว่าผู้เป็นนายต้องการจะสื่อความหมายอะไร

"อืม" เขาพยักหน้ารับรู้

"รักษาตัวแกให้ดี ถ้ามีอะไรเดี๋ยวฉันโทรหา" ผู้เป็นนายเดินไปตบบ่าของชายหนุ่มเบาๆ เพราะเขาก็รักชายหนุ่มเหมือนลูกหลานคนนึง

"...."

"เดี๋ยว!" ผู้เป็นนายร้องขึ้นในขณะที่เขากำลังจะเดินออกจากห้อง

"...."

"ผู้หญิงคนนั้น เป็นอะไรกับแก" ผู้เป็นนายเอ่ยถาม เพราะวันนี้มันเท่ากับว่ารังสิมันต์ประกาศเปิดตัวกับหญิงสาวต่อหน้าทุกคน

"เมีย" ชายหนุ่มตอบกลับไปตามความรู้สึกจริงๆ เขาคิดว่าโอลีฟคือเมียของเขามาโดยตลอด

"มันคงไม่ใช่การดีถ้าเกิดทางนั้นรู้ว่าเธอคนนั้นเป็นเมียแก" ผู้เป็นนายเอ่ยออกมาด้วยความร้อนใจ เพราะวงการมันสกปรกกว่าที่ใครหลายๆ คนคิด ถ้าฝ่ายตรงข้ามรู้ว่ารังสิมันต์มีครอบครัวหรือคนรัก เขาอาจจะถูกโจมตีได้ง่ายเพราะมีจุดอ่อน

"ถ้าเลิกได้ก็ไปเลิกซะ"

"ผมเลิกกับเธอไม่ได้" ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ เพราะวันนี้เขารู้ตัวแล้วว่าโอลีฟ สำคัญกับชีวิตของเขามากขนาดไหน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel