บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ท่านประธาน

“น้องนิวเดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมง เตรียมตัวม เข้าประชุมกับลุงด้วยนะ ส่วนท้อปคุณอยู่ดูแลทางนี้แทนผมนะ” เสียงเจ้าสัวเวทิน สั่งการเลขาทั้งสอง

“ครับ ท่านประธาน” นวพรรษกับธนศิลป์ตอบรับประธานบริษัท ถึงแม้เจ้าสัวเวทินจะเอ็นดูนวพรรษมากขนาดไหนแต่ในเวลางานเขารู้ตัวดีว่าต้องให้เกียรติในฐานะประธานบริษัท

นวพรรษเดินหอบเอกสารเพื่อไปเตรียมการประชุมไว้ให้เรียบร้อย ระหว่างที่เดินไปทางเลี้ยวเข้าห้องประชุม

“โอ๊ยยยย”เสียงนวพรรษร้องออกมาด้วยความเจ็บ เขารู้สึกเหมือนโดนอะไรชนหรือกระแทกที่ไหล่ด้านหน้าอย่างแรงจนทำให้ร่างสูงโปร่งล้มลง พร้อมกับเอกสารที่หอบมาด้วยหล่นกระจัดกระจาย ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองต้นเหตุที่ทำให้เขาเสียหลักล้ม ก็ได้เจอกับยักษ์ตัวใหญ่หน้าตาดียืนนิ่งอยู่

“แปล๊บนึงนะครับคุณพ่อ ทำไมเดินไม่มองทาง”เสียงยักษ์ร่างสูงเอ่ยออกมา พร้อมกับมือข้างที่กำลังถือโทรศัพท์คุยอยู่ลดลง แล้วจ้องหน้าคนที่ทำให้เค้าต้องหยุดบทสนทนากับปลายสาย

ทำให้นวพรรษเริ่มจะมีน้ำโห ชนแล้วไม่ขอโทษไม่ช่วยเหลือไม่พอ ยังจะมีกล่าวหาว่าเค้าไม่มองทางเดินไม่ระวังอีก ทั้งที่มันเป็นตรงมุมพอดีและเขาก็เดินถูกต้องชิดขวามาตลอด แต่ตัวเองมัวแต่คุยโทรศัพท์จนมาชนนวพรรษเอง

“อ้าว ขอโทษครับ แต่ผมว่าคนที่เดินไม่ระวังไม่ดูทางน่าจะเป็นคุณมากกว่านะครับ คุณยักษ์ มัวแต่คุยโทรศัพท์”

คนยักษ์ตัวสูงที่ยืนอยู่ได้แต่อึ้งจ้องหน้าสวยหวานนั่นหน้าตาก็ดีแต่ปากแซ่บเหลือเกิน เกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าต่อปากต่อคำกับเขาเลย มีแต่คนตรงหน้านี่แล่ะเป็นคนแรกแบบนี้สนุกเลยเสียดายตอนนี้เขารีบ แต่ดูบัตรแล้วเป็นพนักงานของที่นี่ เดี๋ยวเจอกันคนสวย

“โอเค ขอโทษด้วยแล้วกันนะคุณคนสวย” พูดจบร่างสูงก็เดินจากไปโดยที่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรนวพรรษเลย

“ฮึ หน้าตาดีซะเปล่า ปากและจิตใจไม่ได้ดีตามหน้าตาเลย ถือว่าวันนี้แกดวงไม่ดีแล้วกันนะไอ้นิว นวพรรษบ่นกับตัวเอง พร้อมก้มเก็บเอกสารที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นทางเดินและรีบลุกขึ้นเอาตัวเองไปที่ห้องประชุมเพื่อเตรียมประชุมต่อ

ในห้องประชุมใหญ่หลังจากที่ท่านเจ้าสัวดำเนินการประชุมจนถึงวาระสุดท้าย ก็ได้เชิญใครอีกคนเข้ามาในห้องประชุม ร่างสูงเดินเข้ามาในที่ประชุมอย่างสง่าผ่าเผย ก่อนที่จะโค้งทำความเคารพทุกคนในที่ประชุมและไปนั่งข้างเจ้าสัวอีกด้านที่มีเก้าอี้เว้นว่างไว้

“เอาล่ะครับทุกท่าน ผมขอแจ้งให้ทุกคนในที่ประชุมได้รับทราบ เดี๋ยวผมจะแต่งตั้งให้ นายเวทานนท์ โชติกุลวัฒนา ลูกชายคนเดียวของผมรับช่วงตำแหน่งประธานกรรมการต่อจากผม มีใครคัดค้านไหมครับหรือไม่เห็นด้วยหรือเปล่าครับ” เจ้าสัวเวทินกล่าวแจ้งกับที่ประชุมให้รับทราบ และกรรมการหุ้นส่วนทุกคนยกมือเห็นด้วยทุกคน มติเป็นเอกฉันท์ เพราะทุกคนเป็นผู้ถือหุ้นที่แต่ละคนมัหุ้นอยู่เพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับของทางเจ้าสัวเวทิน

“ถ้าไม่มีใครคัดค้าน ต่อจากนี้ เวทานนท์ ก็จะทำหน้าที่ตำแหน่งประธานแทนผม โดยผมจะไปนั่งเป็นที่ปรึกษาแทน” “ผม เวทานนท์ ขอฝากตัวด้วยครับ” เวทานนท์ โชติกุลวัฒนา ชายหนุ่มลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวเวทิน กล่าวกับที่ประชุม

“งั้นถ้าไม่มีอะไร ผมขอปิดการประชุมในวันนี้ ขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือ” ท่านเจ้าสัวเวทินกล่าวปิดการประชุม

เวทานนท์ โชติกุลวัฒนา เพิ่งกลับมาจากเรียนต่อจากประเทศอังกฤษ ความจริงเขาเรียนปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจจบมาเป็นเวลาสองปีแล้ว แต่เจ้าสัวยังไม่ให้กลับมา ให้หาประสบการณ์ทำงานและเรียนรู้งานบริหารที่ประเทศอังกฤษต่อ ซึ่งบริษัทที่ทำเป็นบริษัทในเครือของตระกูลโชติกุลวัฒนา ที่อยู่ในส่วนของคุณอาวาทินซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าสัวดูแลอยู่ พอครบ 2 ปี เขาก็โดนตามตัวกลับมา เพื่อบริหารต่อจากเจ้าสัวเวทินผู้เป็นบิดา ที่อยากเกษียณตัวเองเพื่อมีเวลาอยู่กับธนศิลป์เลขาส่วนตัวและเป็นคนรักของเจ้าสัวเอง

นวพรรษ มองหน้าคนที่เจ้าสัวแนะนำกับที่ประชุมอีกครั้ง เป็นคนเดียวกันกับยักษ์ที่เดินชนเขานั่นเอง ไอ้คนหล่อนิสัยไม่ดีคนนั้น พอพิจารณาดีแบบมีเวลามอง คนอะไรหล่อมากหน้าตาคม จมูกโด่ง ผมหยักศกเล็กน้อยหน้าออกไปทางลูกครึ่ง แต่ก็ไม่แปลกที่นวพรรษรู้มาคือ ภรรยาของเจ้าสัวที่เสียไปเป็นคนอิตาลี ลูกชายน่าจะได้ยีนเด่นมาจากแม่มามากหน้าเลยออกไปทางลูกครึ่ง ผิวขาวคงเพราะอยู่เมืองหนาวมานาน รูปร่างสูงคำนวณคร่าวๆ น่าจะ190 ซ.ม. ไม่ต่ำกว่านั้น มองผ่านจากชุดสูทราคาแพง คนบ้าอะไรนอกจากจะหน้าดีแล้วยังหุ่นดีเอามากๆ พระเจ้าช่างสร้างจริงและดูเหมือนจะเป็นลูกรักพระเจ้าด้วย เพราะตั้งใจปั้นให้งดงามไม่มีที่ติเเล้ว ดูก็รู้ว่าภายในร่มผ้าคงมีกล้ามเนื้อแข็งแรงสมชายซ่อนอยู่ เขาใฝ่ฝันอยากหุ่นเพอร์เฟ็กต์แบบนี้มาก แต่ก็ทำไม่ได้สักทีแม้จะเล่นฟิตเนสบ้างแต่กล้ามเขาขึ้นยากมาก

พอการประชุมดำเนินจนเสร็จสิ้น ท่านประธานก็ปิดการประชุม ทุกคนทยอยออกจากห้องประชุมจนเหลือเพียงแค่ ท่านประธาน ลูกชาย และเลขา ที่ตามออกมาทีหลัง พอเดินตามหลังจริงๆ นวพรรษแอบเทียบเค้าสูงประมาณแก้มของลูกชายท่านประธานเท่านั้นเอง

เดินจนมาหยุดหน้าห้องท่านประธาน เจ้าสัวเวทินเลยหันไปคุยกับลูกชาย

“เดี๋ยวเวย์อยู่ห้องเก่าพ่อไปก่อนนะลูก ลูกจะปรับเปลี่ยนตกแต่งใหม่ยังไงก็ได้ ส่วนน้องนิว ลุงจะรบกวนให้หนูมาเป็นเลขาให้เจ้าเวย์มันนะ ช่วยดูแลมันหน่อยนะลูก พ่อลืมแนะนำเลยน้องนิวนี่พี่เวย์ หรือเวทานนท์ ลูกชายคนเดียวของลุง แล้วก็จะเป็นเจ้านายของน้องนิวแทนลุง ส่วนนี่น้องนิว หรือนวพรรษ ปรียานันท์ เลขาคนเก่งเด็กปั้นของพี่ท้อปเค้า ที่สำคัญเป็นลูกชายคนเดียวของท่านฑูตนวพลกับคุณหญิงอัญพัชร์ เพื่อนรักของพ่อเอง เพิ่งจบปริญญาโทเกียรตินิยมมาหมาดๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย ยังไงก็ฝากดูแลน้องนิวให้ดีด้วยนะเจ้าเวย์ เลขาดีๆแบบนี้หายาก ” เจ้าสัวเอ่ยแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกันแบยาวๆ

นวพรรษยกมือขึ้นไหว้อีกคนอย่างเสียไม่ได้ “สวัสดีครับคุณเวทานนท์”

คนอาวุโสกว่ายิ้มเยาะ คุณเลขาคนสวยปากแซ่บนี่เอง งานนี้สนุกแน่ “สวัสดีครับน้องนิวยินดีที่รู้จักนะครับ พี่เวย์ขอฝากเนื้อฝากตัวให้ดูแลหน่อยนะครับ” คนอยากเป็นพี่ยิ้มหน้าบานกว่าปกติ

นวพรรษทำมองเมินแล้วหันมาคุยกับท่านเจ้าสัว “เอ่อ แล้วท่านประธานล่ะครับ ”

“ลุงจะย้ายไปอยู่มุมโน้นไง ไม่ไกลหรอก ลุงเปลี่ยนตัวเองไปเป็นที่ปรึกษาเฉยๆ อาจจะเข้ามาบ้างไม่เข้ามาบ้าง ”

“แล้วพี่ท้อปล่ะครับ”

“ท้อป เค้าก็ย้ายไปเป็นเลขาติดตามลุงเหมือนเดิมไง ทางนี้ก็ให้เจ้าเวย์กับน้องนิวดูแลไป แต่ถ้าเหงาก็เดินไปหาลุงหาพี่ท้อปได้ โอเคนะคนเก่งของลุง”

ยิ่งเห็นพ่อตัวเองเอ็นดูใส่ใจเลขาหน้าหวาน เวทานนท์ยิ่งหมั่นไส้ นี่มันเด็กเส้นของจริง

“ได้ ครับผ ” จบข่าว เลยจะปฏิเสธก็ไม่ได้ นวพรรษคิดในใจ

“เดี๋ยวลุงเข้าไปคุยงานกับเจ้านายคนใหม่ของนิวก่อนนะ ไปเจ้าเวย์” สองพ่อลูกพากันเดินหายเข้าไปในห้องทำงานหรูหราของเจ้าสัวเพื่อมอบหมายงานให้ลูกชายทำต่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel