ลูกชายเพียงคนเดียว
ตอนที่ 2
ลูกชายเพียงคนเดียว
ตุลาป่วยออดๆแอดๆมาหลายปีแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดทำงานได้ เพราะยังไม่วางใจที่จะให้ลูกชายเข้ามาบริหาร ด้วยความที่เตชินเป็นลูกชายเพียงคนเดียว เขาจึงได้รับการตามใจจากผู้เป็นแม่มาก ส่งผลให้ลูกชายคนนี้เอาแต่ใจ และมักจะไม่ค่อยทนกับปัญหา
ตุลารู้สึกเครียดมาก กังวลกับอนาคตของบริษัทหากต้องให้ลูกชายเข้ามาดูแลสานต่อ เขารักลูกแต่เขาไม่มั่นใจในตัวเตชิน ถึงได้ให้อีกฝ่ายมาฝึกงานอยู่ที่บริษัทโดยไร้ตำแหน่ง แต่ทุกหน้าที่ที่เตชินต้องทำ คือหน้าที่เดียวกับที่เขาทำอยู่ทุกวันนี้
ใครๆก็รู้ว่าเขาต้องการที่จะส่งมอบตำแหน่งให้กับลูกชายเพียงคนเดียว และเขาก็รู้อีกว่าหุ้นส่วนหลายคนไม่เห็นด้วย เนื่องจากเห็นพฤติกรรมของ เตชินแล้วก็ไม่วางใจ
ขนาดคนเป็นพ่ออย่างเขายังไม่ไว้ใจ จะไปหวังให้คนอื่นวางใจแทนได้ยังไง
“พ่อเรียกผมมามีอะไรครับ”
เตชินนั่งไขว่ห้างที่โซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในระหว่างที่กำลังสนทนากับผู้เป็นพ่อ ถึงแม้พฤติกรรมของเขาจะไม่เหมาะที่จะเป็นผู้บริหารแต่ตุลาก็พยายามขัดเกลาลูกชายคนนี้ แต่มันก็ยากเสียเหลือเกิน เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไร ภรรยาก็คอยขัดเสมอและยังคอยให้ท้ายเตชิน ทำให้ลูกชายเสียนิสัยตั้งแต่เล็กจนโต
“พ่อมีโปรเจคใหญ่อยากให้ลูกรับผิดชอบ”
“ทำไมพ่อไม่ทำเองครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยถาม เขาไม่อยากทำอะไรแล้ว พอทำได้ไม่ดีก็ถูกพ่อว่าตลอด
“อาการพ่อไม่ค่อยดี พ่อว่าจะไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล ในระหว่างที่พ่อไม่อยู่แกก็ช่วยดูรายงานแทนหน่อยไม่ได้หรือไง”
ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ถึงแม้ว่าเขาจะดื้อรั้นแต่ลึกๆก็รู้สึกเป็นห่วงพ่อ พอรู้ว่าอีกฝ่ายอยากพักผ่อนท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป
“แล้วพ่อจะไปนอนโรงพยาบาลเมื่อไหร่ครับ”
“เมื่องานเริ่มได้สิบเปอร์เซ็นต์ พ่อก็คงจะหายห่วง”
ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เขาหยิบเอกสารมาอ่าน เมื่อลองพิจารณาดูแล้วโปรเจคนี้ไม่ได้มีอะไรยากซับซ้อน เขาจึงรับปากว่าจะรับผิดชอบงานนี้เเทน
“พ่อฝากด้วยก็แล้วกัน ตั้งใจนะลูก ถึงแม้ว่าพ่อจะเข้มงวดแต่ที่พ่อทำไปทั้งหมดก็เพื่อลูกและครอบครัวของเรา”
เขาอาจจะไม่ได้เป็นพ่อที่ดีมากนัก แต่เขาก็รักลูกชายสุดหัวใจ ที่ผ่านมาเขาพยายามดิ้นรนทุกอย่างเพื่อลูก พยายามรักษาบริษัทเอาไว้ไม่ให้คนนอกเข้ามาฉกชิงผลประโยชน์ ตุลาอาจจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวในสายตาคนอื่น แต่ทั้งหมดทั้งมวลเขาทำเพื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างเตชิน
เขายอมที่จะเป็นคนร้ายในสายตาคนทั่วไป แต่ขอเป็นฮีโร่สำหรับลูกชายก็เพียงพอแล้ว
“ผมเข้าใจแล้ว พ่อไม่ต้องพูดอะไรเยอะหรอกครับ”
ชายหนุ่มเห็นมาตลอดว่าพ่อทำงานหนักเพื่อครอบครัว แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาไม่พอใจในตัวพ่ออยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าที่พ่อขยันควงออกสื่ออยู่บ่อยๆ
“พ่อรู้ว่าลูกท้อทุกครั้งที่ล้มเหลว แต่กว่าที่พ่อจะก้าวมาอยู่จุดนี้พ่อก็ล้มเหลวมาหลายครั้งเหมือนกัน ชีวิตคนเราถ้าไม่เคยล้มเหลวเราจะไม่รู้สึกยินดีกับความสำเร็จเลยนะลูก”
“พ่อจะพูดอะไรนักหนา รีบๆไปพักผ่อนไป งานพวกนี้เดี๋ยวผมทำเอง”
เขามักจะเย็นชากับพ่อ แต่ไม่ได้แปลว่าเขาเกลียดพ่อตัวเอง เตชินแค่โกรธที่พ่อทำให้แม่เสียใจบ่อยๆ แต่ลึกๆเขาก็ห่วงใยและรักพ่อมาก
เขาเคยขอร้องพ่อหลายครั้งให้หยุดพฤติกรรมเจ้าชู้ แต่พ่อก็ไม่เคยฟัง และไม่คิดจะอธิบายด้วยซ้ำว่าทำไมถึงมีพฤติกรรมแบบนั้น รู้ทั้งรู้ว่าทำให้แม่เสียใจแต่พ่อก็ยังไม่หยุด และที่น่าเจ็บใจมากกว่านั้นคือพ่อมอบตำแหน่งสำคัญให้ชู้รัก ขุดจากพนักงานตำแหน่งเล็กๆขึ้นมาเป็นเลขาส่วนตัว ทำให้แม่ของเขาต้อง ชอกช้ำใจมากไปอีก
งานนี้เป็นงานชิ้นที่เท่าไหร่เขาก็จำไม่ได้ แต่เขาจะต้องทำมันให้ดีที่สุด ไม่ให้ล้มเหลวเหมือนงานหลายๆโปรเจคที่ผ่านมา
ชายหนุ่มพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองเสมอ ในเมื่อเขาดั้นด้นเรียนจนจบปริญญาโทได้ นั่นหมายความว่าเขาก็ไม่ใช่คนโง่ เพียงแต่ว่าเขาไม่เคยมีประสบการณ์ และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง พ่อเอาแต่โยนงานให้ไม่เคยสอนเขาเลย ปล่อยให้เขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ
ชายหนุ่มรู้ดีว่าวิธีนี้จะทำให้เขาแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว แต่บางทีเขาก็อยากได้คำแนะนำจากพ่อบ้าง ทุกวันนี้เขาเหมือนคนหลงทาง เคว้งคว้างไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร
“คุณเดช ผมไม่ค่อยเข้าใจหัวข้อนี้คุณช่วยสรุปให้หน่อยได้ไหม”
เวลามีปัญหาอะไรคนเดียวที่เขาจะพึ่งพาคืออัครเดช ซึ่งเป็นผู้ช่วยอีกคนของพ่อ ส่วนเจนจิราเขาไม่ค่อยอยากยุ่งกับเธอสักเท่าไหร่นัก เพราะเขาเกลียดผู้หญิงหน้าหนาที่ชอบยุ่งกับสามีคนอื่น
ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่เคยเห็นเจนจิรากับพ่อสนิทสนมกันอย่างที่ใครๆพูด แต่ก็เชื่อไปแล้วว่าเธอมีความสัมพันธ์พิเศษกับพ่อของเขา
“เดี๋ยวผมสรุปให้นะครับ แต่ตอนนี้ผมยังติดงานของท่านประธานอยู่เลยครับคุณ....”
“ถ้างั้นก็ไม่เป็นไร ผมรอได้”
“คุณเจนมาพอดีเดี๋ยวผมเอางานไปให้คุณเจนสรุปให้ก็ได้นะครับ”
เตชินรีบคว้าเอกสารคืนมา เขายอมเสียเวลางานดีกว่าให้ผู้หญิงคนนั้นมายุ่งวุ่นวาย
“ผมรอคุณดีกว่า ไม่เป็นไรคุณเคลียร์งานตัวเองไปก่อน เสร็จเมื่อไหร่ก็ค่อยสรุปงานให้ผม”
เจนจิราไม่ได้สนใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าเตชินไม่ค่อยชอบหน้า อาจเป็นเพราะข่าวลือของเธอและพ่อเขา ทำให้ชายหนุ่มดูเหมือนไม่ค่อยอยากยุ่งกับเธอมากเท่าไหร่
แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ผู้ชายที่ดูน่ารำคาญอย่างเตชิน เธอเองก็ไม่อยากเอาตัวเข้าไปใกล้ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ชอบหน้ากัน ด้วยเหตุผลนี้เตชินจึงไม่เคยเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากเจนจิราเลยสักครั้ง ทุกครั้งที่มีปัญหาคนเดียวที่เขาจะพูดคุยด้วยก็คืออัครเดชเท่านั้น
“อย่างต่ำก็สามวันเลยนะครับ”
งานเขาล้นมืออยู่แล้ว เนื่องจากว่าเขาหยุดไปหลายวันจึงต้องตามเคลียร์งานย้อนหลัง เตชินที่ได้ยินแบบนั้นก็นิ่งไปพักใหญ่ ดูเหมือนว่าคราวนี้เขาคงต้องจำใจขอความช่วยเหลือเจนจิราสินะ
