ข่าวลือ
ตอนที่ 1
ข่าวลือ
หญิงสาวบุคลิกดีเดินตามชายวัยกลางคนลงมาจากเครื่องบิน เมื่อมาถึงบริษัทก็หอบเอกสารปึกใหญ่เดินล่วงหน้าเข้าไป
เจนจิราขยับแว่นตาเล็กน้อย เธอเพิ่งตื่นนอนหลังจากเดินทางมาอย่างยาวนาน
“เจน จะไปที่ห้องทำงานใช่ไหม พี่ฝากเอกสารไปด้วยสิ”
อัครเดชเป็นเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ เขากับเจนจิราเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ พร้อมกับตุลา ประธานบริษัทวัยกลางคนที่เดินล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
“จะกลับเลยเหรอ”หญิงสาวเอ่ยถามรับเอกสารมาถือเอาไว้
“เดี๋ยวพี่คงต้องกลับก่อน พอดีลูกพี่ไม่ค่อยสบาย”
เจนจิราพยักหน้า ถึงเธอจะไม่มีลูกแต่ก็พอเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่ออย่างอัครเดช เขาเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ถูกเมียทิ้งหนีไปแต่งงานกับชาวต่างชาติ ตัวเขาจึงต้องรับผิดชอบเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง โชคดีที่มีป้าคอยดูแลให้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องแลกกับ การทำงานหนักขึ้นเพื่อหาเงินจ่ายค่าจ้างเลี้ยงลูก
“ถ้าอย่างนั้นรีบกลับไปเถอะ เดี๋ยวเจนจัดการเรื่องงานเอง”
ชายหนุ่มมีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ ความจริงเขาไม่อยากปล่อยให้เจนจิราเข้าไปในบริษัทเพียงลำพังกับตุลา
“โอเคใช่ไหม”
“เจนชินแล้วไม่ต้องห่วงหรอก”
หญิงสาวไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องพะวักพะวงเรื่องงานและเรื่องลูก อัครเดชเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีไม่เคยเอาเปรียบเธอเลยสักครั้ง แม้ว่าบางวันจะมีงานล้นมือ แต่เขาก็ไม่เคยทิ้งให้เธอต้องรับผิดชอบงานเพียงลำพัง
“ถ้าอย่างนั้นพี่กลับก่อนก็แล้วกัน มีอะไรก็โทรมาได้นะ”
“รีบไปเถอะ”
หญิงสาวรู้ว่าอัครเดชเป็นห่วงลูกมากแค่ไหน เธอจึงรีบบอกให้ชายหนุ่มกลับไปดูลูก ส่วนตัวเธอก็อยู่จัดการงานที่นี่ต่อ ถึงแม้ว่าจะเพิ่งลงจากเครื่อง แต่ตุลาก็ต้องเข้าประชุมทันที เจนจิราจึงต้องรีบตามเข้าไป เธอเป็นเลขาส่วนตัวของเขา เจ้านายไปไหนเธอก็ต้องติดตามไปด้วย
ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยและอ่อนเพลียมากจาก การเดินทาง แต่เธอก็ไม่สามารถพักได้
การประชุมค่อนข้างยาวนาน กินเวลากว่า2 ชั่วโมง ปัญหาต่างๆมักจะเกิดขึ้นให้ต้องคอยตามเช็คตามล้างอยู่เสมอ ด้วยเหตุผลนี้ประธานบริษัทอย่างตุลาจึงไม่เคยได้หยุดพักเลย
“เดี๋ยวคุณช่วยจดเนื้อหาการประชุมให้ผมด้วยนะ ผมไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ รู้สึกเวียนหัว”
ช่วงนี้สุขภาพร่างกายของเขาไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะว่าทำงานหนักมาตั้งแต่ยังหนุ่ม จนตอนนี้อายุมากแล้วก็ยังไม่ได้พักเสียที ชายวัยกลางคนหักโหมทำงาน เดินทางไปต่างประเทศแทบทุกวีค ไปเจรจาธุรกิจ วางรากฐานที่มั่นคงให้กับบริษัท
เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ได้นานแค่ไหน จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว เพื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างเตชิน
“จดไว้เรียบร้อยแล้วค่ะท่านประธาน เดี๋ยวดิฉันจะพิมพ์แล้วส่งไฟล์ไปให้นะคะ”
หญิงสาวไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแต่เธอยังรู้ใจเขา ด้วยเหตุผลนี้ตุลาจึงได้ดึงตัวเจนจิรามาช่วยงาน เพราะมั่นใจในศักยภาพ และเชื่อมั่นในตัวเธอ
“ถ้าคุณทำงานเสร็จก็กลับไปพักได้เลย เพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆ ไม่ต้องหักโหมทำงานมาก”
“ขอบคุณค่ะท่านประธาน”
เพราะงานนี้เป็นงานด่วนเธอจึงต้องรีบทำให้เสร็จก่อนกลับไปพักผ่อน หญิงสาวไม่สบายใจถ้างานยังคาราคาซังอยู่ มันเป็นความเคยชินที่ต้องรับผิดชอบงานทุกงานตามเวลาที่ได้รับมอบหมาย
ตุลาเดินทางกลับไปแล้ว เหลือเพียงเจนจิราที่ยังคงนั่งทำงานอยู่ในห้อง เธอพิมพ์งานไปด้วยพร้อมกับจิบกาแฟเพื่อไม่ให้ตัวเองง่วง ในระหว่างที่กำลังยุ่งอยู่กับงานตรงหน้า ใครบางคนก็เดินมาหยุดยืนข้างๆโต๊ะ
“แหม ไปเที่ยวตั้งหลายวันเลยนะคะ ไม่มีของฝากติดไม้ติดมือกลับมาด้วยหรือคะคุณเจน”
หญิงสาวหน้าคมผมยาว ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าเจนจิรา
“ไม่มีหรอกค่ะ เพราะว่าไม่ได้ไปเที่ยวแต่ไปทำงาน”
เจนจิราเอ่ยตอบเสียงราบเรียบ เธอรู้ว่าอีกฝ่ายมาที่นี่ไม่ได้ต้องการของฝากอะไร แค่อยากจะมาพูดจาเหน็บแนมก็เท่านั้น
“เห็นไปตั้งหลายวันคงไม่ได้ไปแค่เรื่องงานอย่างเดียวหรอกมั้งคะ เป็นยังไงบ้างคะที่สวิตเซอร์แลนด์บรรยากาศดีหรือเปล่า”
“ก็ดีค่ะ แต่ไม่ได้มีเวลามาดื่มด่ำบรรยากาศเพราะต้องทำงาน”
เจนจิรายังคงย้ำคำเดิมว่าเธอไปเพื่อทำงาน ไม่ได้ไปเพราะจุดประสงค์อื่น แต่ดูเหมือนว่า คนตรงหน้าจะไม่เชื่อ พยายามพูดจายั่วโมโห
“มีอะไรบอกกันตรงๆก็ได้ค่ะ คนเขารู้กันทั่วทั้งบริษัทว่าคุณเจนกับท่านประธาน…”
“ข่าวลือก็คือข่าวลือค่ะ อยู่ที่คนค่ะว่าจะมีวิจารณญาณในการฟังมากแค่ไหน คนจะโง่หรือฉลาดมันก็ดูกันที่ตรงนี้แหละค่ะ ซึ่งบางคนก็มันจะใช้ประสบการร์ตัวเองมาตัดสินคนอื่น”เจนจิราตอบกลับทำให้อีกฝ่ายหน้าเสีย
“แรงอีกแล้วนะคะคุณเจน”
“ไม่แรงหรอกค่ะ ถ้าคิดว่าเป็นคนมีวิจารณญาณก็ไม่เห็นต้องร้อนกับคำพูดของเจนนะคะ”
เจนจิราเงยหน้ายิ้มมุมปาก คนพวกนี้ชอบ ปั้นน้ำเป็นตัว เรื่องไม่มีมูลก็ใส่ไฟจนลามขยายไปทั่ว ช่วงแรกๆเธอยอมรับว่าจิตตกมากที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้ของตุลา แต่ตอนนี้จิตใจของเธอเข้มแข็งขึ้นมาก จึงไม่กลัวที่จะแก้ต่างให้ตัวเอง
เพราะถ้าเธอไม่ปกป้องตัวเธอก็คงไม่มีใครมาปกป้อง เรื่องนี้ตุลาไม่เคยรู้ เขาวุ่นวายอยู่กับ การทำงานจนไม่เคยได้ยินข่าวลืออะไรเลย
เจนจิราเชื่อว่าหากเจ้านายของเธอรู้เรื่องนี้ เขาจะต้องสืบหาต้นตอคนที่ปล่อยข่าวลือ และจัดการขั้นเด็ดขาดอย่างแน่นอน
ตุลาเอ็นดูเธอมาก เเต่เอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลาน ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเธออย่างที่ใครๆเข้าใจ
แต่ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงได้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเมียน้อยของเขา ทั้งๆที่เธอกับเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์แบบนั้นเลยสักครั้ง
“ข่าวลือถ้ามันไม่มีมูลมันก็คงลือกันไม่ได้หรอกนะคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ พวกปากไม่มีหูรูด ชอบปั้นน้ำเป็นตัวพูดเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองโดยไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า คนแบบนี้มีอยู่เยอะแยะค่ะ”
เจนจิราจะไม่ยอมให้ใครมาใส่ร้ายป้ายสีนินทาว่าร้ายเธออีก ในเมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอก็ไม่ควรตกเป็นจำเลยของสังคม
