ep4
เทียนไขได้กลายมาเป็นผู้ช่วยเลขาของเซียวอี้หยาง ลูกของเขาเรียกเธอว่าเลขาของต้าเกอ แต่แท้ที่จริงแล้วเธอยังต้องช่วยงานของเลขาตัวจริงของเขา ที่ชื่ออาเหล่ย เธอถูกปกป้องจากคนรอบข้างจนน่าอึดอัด เขาใช้บ้านเธอเป็นออฟฟิศ แต่ก็จ่ายค่าเช่าให้เธออย่างงาม ไม่นับรวมเงินเดือนที่เธอต้องได้รับ เธอรู้สึกโชคดีที่มีงานทำ มีเงินใช้ได้อย่างสบาย แต่ที่อึดอัดคือเธอไม่มีความเป็นส่วนตัวในบ้านของเธอเลย
“คุณเทียน”
อาเหล่ยถือเอกสารเข้ามาหาเธอในห้องกระจกที่วันนี้เธออยู่เพียงลำพัง เพราะต้าเกอ เซียวอี้หยางออกไปประชุมที่บริษัท มันทำให้เธอหายใจคล่องขึ้น
“เอกสารพวกนี้ ต้าเกออยากให้คุณอ่าน เพราะเป็นข้อมูลสำคัญที่คุณต้องรู้ อีก 2-3 วันผมต้องไปเคลียร์งานให้ต้าเกอที่เซี่ยงไฮ้ คุณไม่เข้าใจตรงไหนถามผมได้เลย”
“ฉันถามคุณได้ทุกเรื่องใช่ไหมอาเหล่ย”
“ครับ”
“ทำไมต้าเกอของพวกคุณ มายึดบ้านฉันทำออฟฟิศคะ?”
อาเหล่ยชะงัก ไม่คิดว่าหญิงสาวจะถามเรื่องนี้
“มันไม่ใช่ความลับอะไรไม่ใช่เหรอ?”
“ครับ ไม่ใช่ความลับอะไร”
“งั้นบอกฉันมาเถอะ เธอก็รู้ว่าฉันไม่เต็มใจสักหน่อยที่จะให้เขาอยู่ที่นี่ แต่ถ้าฉันรู้สาเหตุ ฉันอาจจะต่อต้านเขาน้อยลงก็ได้”
“คุณไม่รู้จริงๆ น่ะเหรอ”
อาเหล่ยย้อนถาม”
“งั้นสิ ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ทุกวันนี้ฉันก็แทบจะคุยกับเขานับคำได้”
“ต้าเกอเพิ่งเข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทยไม่นาน เขามีคู่แข่งที่เล่นไม่ซื่ออยู่ คนพวกนั้นเล่นแรงถึงขั้นไล่ยิงต้าเกอมาถึงบ้านคุณ ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจับได้บางส่วนแล้ว แต่ต้าเกอยังไม่วางใจ เขากลัวคุณเป็นอันตรายก็เลยมาทำงานที่นี่ จนกว่าเราจะเคลียร์คนพวกนั้นได้ทั้งหมด”
อาเหล่ยอธิบายรวดเดียว แล้วยืนมองเทียนไขนิ่ง
“ฉันไม่เกี่ยวข้องกับพวกคุณนี่คะ เขาจะมาทำร้ายฉันทำไม”
“เพราะคุณให้ความช่วยเหลือต้าเกอไว้”
“อ้อ.....ก็พอเข้าใจได้”
เทียนไขอึ้งๆ กับสิ่งที่อาเหล่ยบอก งั้นก็แสดงว่าต้าเกอเป็นคนดีเหมือนกัน
“งั้น...ถ้าจัดการคนพวกนั้นหมด พวกคุณจะย้ายออกไปจากบ้านฉันใช่ไหมคะ?”
“เรื่องนี้ก็แล้วแต่ต้าเกอครับ คุณอ่านเอกสารพวกนี้ไปนะครับ ผมยังมีงานอื่นต้องทำอีก”
อาเหล่ยตัดบท แล้วออกไปทันที โดยไม่รอให้เธอได้ซักถามอะไรอีก หญิงสาวมองกองเอกสารตรงหน้า พยายามไม่คิดเรื่องส่วนตัว แล้วเริ่มทำงานของตัวเองอย่างตั้งใจ
******
ค่ำแล้ว ที่เรือนกระจกปิดไฟเงียบ มีเพียงโคมไฟที่โต๊ะทำงานที่ยังคงสว่างเรืองรองอยู่ คนของต้าเกอ แยกย้ายกันพักผ่อน ซึ่งก็คือมุมต่างๆ ของบ้านเธอ และข้างบ้านเธอก็ถูกต้าเกอเช่าให้ลูกน้องเขาอยู่อาศัยไปแล้ว เทียนไขรอชายหนุ่มอย่างอดทน มีหลายเรื่องที่เธอต้องคุยกับเขา
ทันทีที่ประตูเรือนกระจกถูกผลักเข้ามาโดยร่างสูงใหญ่ของเซียวอี้หยาง เทียนไขลุกขึ้นยืนจ้องมาที่ชายหนุ่มเขม็ง
“รอผมเหรอ?”
“ใช่”
ทันทีที่เธอตอบ เขาก็ปราดเข้ามาคว้าร่างของเธอเอาไว้แล้วจูบที่แก้มของเธอแล้วเลื่อนไปขบเม้มที่ติ่งหูเธอเบาๆ เทียนไขผลักอกเขาออกทันที แต่ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย เขาจูบไซ้ที่ซอกหูไต่ตามไปที่ลำคอ คราวนี้หญิงสาวดิ้นรนเต็มที่ ทว่าชายหนุ่มกลับบรัดร่างเธอแน่นขึ้น
“เจ็บนะ ปล่อยฉันก่อน”
ต้าเกอคลายวงแขนที่รัดแน่นออก แล้วจ้องใบหน้าเธอที่อยู่ในแสงสลัว
“รอผมไม่ใช่เหรอ”
“ก็ใช่”
“แล้วจะรออะไร”
ว่าแล้วเขาก็เลื่อนริมฝีปากไปประกบจูบที่ปากเธอทันที เทียนไขผลักชายหนุ่มออกอีกครั้ง
“คุณมันบ้าไปแล้วเหรอ? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้””
ต้าเกอเลิกคิ้ว เขาก้มลงใช้จมูกโด่งสวยปัดป่ายจมูกเธออย่างยั่วเย้า
“คุณรอผม แสดงว่ายอมรับว่าคิดถึงผม ก็ไม่เห็นแปลกนี่”
“ฉันไม่ได้คิดถึงคุณ ฉันมีเรื่องอยากถามคุณ ถึงได้รอคุณ”
เทียนไขตอบกลับแทบตะโกนบอก ขุ่นใจว่าเขาเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน?
“คุณปล่อยฉันได้แล้ว”
เขาเหลียวซ้ายแลขวา ภายในห้องมีเพียงไฟจากโคมไฟโต๊ะทำงาน ก็เลยลากพาเธอมานั่งที่โซฟามุมห้อง โดยที่มีเธอนั่งอยู่ข้างๆ
“คุณรู้ไหม? การที่คุณคอยผมในห้องมืดๆ แล้วเปิดโคมไฟเนี่ย มันให้ท่าผมชัดๆ”
อ้าว...กลายเป็นว่าเธอผิด!
“บรรยากาศแบบนี้ เรามาทำอะไรให้หายคิดถึงกันเถอะ”
คราวนี้เขากอดเธอแล้วจูบแลกลิ้นกับเธอทันที แรกๆ หญิงสาวก็ต่อต้าน แต่เพราะความช่ำชองของเขา และรสลิ้นที่หวานล้ำก็ทำให้เธอเคลิ้มคล้อยไปกับเขา ชายหนุ่มกับหญิงสาวจูบแลกลิ้นกันอยู่ชั่วครู่ ต้าเกอก็ลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง กระทั่งเขาเลื่อนมือไปลูบขาของเธอที่พ้นขอบกระโปรง มือของเทียนไขก็จับมือของชายหนุ่มเอาไว้ พร้อมถอนปากออกเหมือนกับรู้สึกตัว
“ทำไมล่ะ ไม่ชอบเหรอครับ”
“ฉัน.....เอาไว้คุยกับคุณวันหลังดีกว่า”
เธอทำท่าจะลุกหนี แต่ชายหนุ่มเร็วกว่า เขาคว้าตัวเธอเอาไว้ แล้วตรึงเธอกับโซฟานุ่ม
“ผมไม่อยากรอแล้ว”
ต้าเกอบดจูบลงไปอีกครั้ง พร้อมกับมือซุกซนที่ล้วงลูบเข้าไปในกระโปรงจนชนกับเนินเนื้อสามเหลี่ยม หญิงสาวสะดุ้งทำท่าจะผละออก แต่มืออีกข้างของชายหนุ่มก็ยกขึ้นลูบไล้แล้วปลดกระดุมเสื้อของเธออย่างรวดเร็ว จนเวลานี้ร่างท่อนบนของเธอเปลือยเปล่าไปแล้ว
