ห้องบรรทมที่ 6(3)
ครึ่งเดือนต่อมา
นับตั้งแต่เมาอาละวาดทุบตีอวี๋กุ้ยเหริน จนถึงวันนี้ฮ่องเต้ยังไม่เสด็จเยือนวังหลัง การกระทำราวกับเด็กน้อยเช่นนี้ ผู้ใดก็ดูออกว่าฮ่องเต้คิดประท้วง
“คาดแล้วไม่มีผิด เจ้าผู้นี้หรือจะมีลูกเล่นอะไร พอไม่ได้ดั่งใจก็ไม่ไปวังหลัง”
เสนาบดีหวังกับพวกนั่งดื่มสุรานินทาฮ่องเต้ หากปกติ การที่ฮ่องเต้ไม่ค้างคืนกับสนมชายา คนทั้งหมดคงไม่เห็นเป็นเรื่องดี แต่ว่าตอนนี้ต่างออกไป เพราะหวังอันกับพวกใช้เรื่องนี้หยั่งเชิงฮ่องเต้ ซ้ำยังเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ดังนั้นคนทั้งหมดจึงยินดีเป็นพิเศษ
“ข้าก็หลงคิดว่า คราก่อนที่ฮ่องเต้ไม่เยือนวังหลังหลายเดือน ที่แท้มีแผนอะไร”
“เฮอ เฮอ ยังไม่ใช่เพราะขัดใจอะไรซักอย่างหรือ นึกว่าเจ้าผู้นี้จะฉลาดขึ้นบ้าง ที่แท้ก็แค่เจ้าโง่คนเดิม” สหายคนหนึ่งในวงสุรากล่าวแทรก
“ปล่อยให้มันเล่นเอาแต่ใจไปเถอะ ขอเพียงไม่กระทบงานใหญ่เรา ข้ายินดีให้มันเป็นฮ่องเต้ต่อไป”
“แล้วเรื่องรัชทายาทละ ถ้าเราไม่ชิงลงมือก่อน หากพวกหลินเฉินกงฉวยโอกาสได้ก่อน สถานการณ์คงย่ำแย่แล้ว”
หลังจากใช้เรื่องย้ายสุสานหยั่งเชิงฮ่องเต้ เป้าหมายหลักของทุกคน ยังคงเป็นการให้กำเนิดรัชทายาทก่อนเป็นอันดับหนึ่ง แม้ฮ่องเต้องค์นี้จะควบคุมง่าย แต่เด็กผู้หนึ่งย่อมคุมง่ายยิ่งกว่า อย่าว่าแต่ฮ่องเต้น้อยมีสายเลือดของตระกูลตนเอง ถึงเวลานั้นหากต้องการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“เรื่องนี้หรือ ข้าเตรียมหมากตามหลังไว้แล้ว ฮ่า ฮ่า หลินเฉิงกงหรือจะคิดตามข้าทัน”
ภายในห้องทรงอักษร ขณะหรงชิ่งกำลังตรวจสอบฎีกาทั่วไป จู่ๆ ขันทีผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาในห้อง จากนั้นกระซิบกระซาบกับหม่ากงกงชั่วครู่ แล้วคนก็หายออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบ
“ฝ่าบาท ดูเหมือนนางจะงับเหยื่อแล้ว”
หม่ากงกงเข้ามากระซิบที่ข้างหูเจ้านาย
***
