ห้องบรรทมที่ 2(1)
ฟางชิงเยียน
บนเตียงมังกรขนาดใหญ่ ฟางชิงเยียนในวัยสามสิบสองคลานเข่าไปบนที่นอน แขนข้างหนึ่งของนางถูกดึงกลับหลัง เส้นผมที่ยาวจรดเอวก็ถูกมือฮ่องเต้ดึงรั้งโดยแรงจนนางต้องแหงนหน้าขึ้นเพราะความเจ็บปวด
“พั่บ พั่บ พั่บ”
เสียงเนื้อกระทบกันดังต่อเนื่องด้วยจังหวะถี่เร็ว จนนางกำนัลที่ยืนคอยรับใช้อยู่หน้าห้องหลายคนเขินอายจนใบหน้าแดงก่ำ
“อะ อ๊ะ อ๊า”
ในที่สุดหลังจากควบขับเป็นเวลานาน เสียงครางเบาๆ ค่อยเล็ดลอดออกจากปากหญิงงามที่คลานอยู่ตรงหน้า
“พั่บ พั่บ พั่บ”
“รู้จักเสียวแล้วหรือ ข้าคิดว่าเจ้าจะทนปากแข็งได้นานกว่านี้เสียอีก”
หรงชิ่งปล่อยมือให้นางชักแขนกลับไปค้ำยันร่างกายไว้ เมื่อรู้ว่านางกำลังจะทรุดลงไปบนเตียง เมื่อปล่อยแขนของนางเป็นอิสระ หรงชิ่งก็ใช้มือข้างที่ว่างเปล่าแหวกบั้นทายอวบอัดของนางออกดูจุดเชื่อมต่อยามที่เขาควงเอวเข้าออกใส่รูร่องคับแคบของนาง
“พั่บ พั่บ พั่บ”
“อ่า อ่า อ่า นางเพศยา ข้าเอาเจ้าทุกวันขนาดนี้เจ้าไฉนยังคับแน่นราวกับเด็กสาวร่างบอบบางเหล่านั้นอีก”
ฮ่องเต้หรงชิ่งยามเคลื่อนกายควบขับก็ออกปากพร่ำเพ้อไปเรื่อยๆ นางกำนัลเล็กๆ ผู้นี้ถูกตนขับขี่มาเกือบยี่สิบปี แต่นางกลับเป็นเพียงคนเดียวที่เขาไม่อาจขับไล่ออกจากวังได้
ชิงเยียนร่างกายอวบอัดอิ่มเอิบ นางเด้งไปมาตามแรงกระแทกของบุรุษด้านหลัง ระหว่างที่ฮ่องเต้ควบขับนางพร้อมเอ่ยปากกล่าวนั่นกล่าวนี่ นางไม่เพียงไม่ตอบรับ ซ้ำสีหน้ายังเรียบเฉย แม้นางจะเสียวมาก แต่นางก็ไม่แสดงออกทางสีหน้าและวาจาแม้แต่น้อย
เสียงเนื้อกระทับกันยิ่งมายิ่งเร่งเร้า นางกำนัลอายุสิบเจ็ดสิบแปดที่ยืนอยู่หน้าห้องสี่คน ต่างนึกอิจฉาสตรีที่อยู่ภายในห้อง เพียงแต่แม้พวกนางริษยา แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง วังหลังแห่งนี้ทุกผู้คนต่างทราบดี นอกจากฮ่องเต้ที่มีนิสัยโมโหร้ายแล้ว ยังมีแม่นมฟางนางข้าหลวงอาวุโส ที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้มาตั้งแต่สมัยยังไม่มีอำนาจ นางเป็นหญิงโหดร้ายที่สุดในวังหลังแห่งนี้เอง
***
