บทที่ 13 แม่สื่อ
“รอรู้จักเขาเองดีกว่าค่ะ”
หงสายิ้ม รอยยิ้มของหล่อนไม่สดใสเช่นเมื่อตอนพบกัน นั่งนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไร บุษบาจึงปิดปากเงียบ หงสาอาจรำคาญกับคำถามของหล่อนก็ได้ จิรเมธมองหน้าภรรยาอย่างเข้าใจกัน เขาก็เงียบเช่นกัน
จิราพรโทรศัพท์ทางไกลข้ามประเทศมาหาพ่อแม่หล่อนเพื่อขอเงินเช่นทุกครั้ง จิรเมธรับโทรศัพท์ เสียงลูกสาวดังขึ้น
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ โอนเงินให้จีหรือยังคะ เร็วๆ นะคะพ่อ จีต้องใช้ด่วนค่ะ เมื่อวานบอกให้โอนทำไมไม่โอนคะ รู้มั้ยจีแทบขายหน้า ซื้อกระเป๋าร้านดังเขา ดีนะที่จิมมี่จ่ายให้”
“ซื้อทำไมเยอะแยะ พ่อหมุนเงินไม่ทัน ช่วยประหยัดหน่อยสิลูก”
“ไม่รู้ค่ะ คุณพ่อต้องโอนให้จีเดี๋ยวนี้ สามแสนนะคะ แค่นี้นะ”
หนุ่มใหญ่ไม่ปิดบังนวลน้อยและทุกคนที่นั่งทานอาหารว่างอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เสียงลูกสาวคนเดียวของเขาดังออกมานอกโทรศัพท์ ความทุกข์ที่เขาเก็บงำไว้ กำลังจะกระจายออกมาให้คนรอบข้างรับรู้ บุษบานั่งก้มหน้า น้ำตาเอ่อล้นขอบตาหยดลงบนหลังมือตัวเอง ครู่หนึ่งจึงเงยหน้าหันมามองสามี
“จะเอาที่ไหนให้ บอกลูกไปสิคะคุณ บอกเดี๋ยวนี้ เรายังขายบ้านไม่ได้ บอกไปเลย”
“ผมไม่กล้า เดี๋ยวผมจะโทร.ยืมเพื่อน ขายบ้านได้ค่อยคืน”
“ไม่ต้องหรอกค่ะน้าเมธ บอกเลขบัญชีมาค่ะ หนูให้ยืม”
“หงส์ เงินในบัญชีลูกมีเท่าไหร่ ไหนบอกแม่ก่อนสิคะลูก”
วลัยพรรณพูดขึ้น หงสานิ่งไปแล้วยิ้มกว้าง หล่อนลืมตัวอยากช่วยเหลือจิรเมธกับบุษบาจนลืมไปว่าตัวเลขในบัญชีของหล่อนมีไม่ถึง 3 แสนบาท
“เอ่อ.ลืมไปค่ะแม่ มีไม่ถึงสามแสน ฮี่ๆ แม่ช่วยน้าเมธหน่อยนะคะ เดี๋ยวหงส์คืนให้ค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่รบกวนหรอกครับ ผมลาละครับ พรุ่งนี้จะมาแต่เช้านะจ๊ะหนูหง ขอบใจมากที่ช่วยน้านะครับ”
“อย่าเพิ่งไปพ่อเมธ เราเป็นเพื่อนบ้านกันไม่ใช่รึ นั่งลงๆ แม่บุษก็ไม่ต้องร้องไห้ บอกเลขบัญชีมา แม่พรรณจะช่วยใช่มั้ยแม่พรรณ”
“ค่ะย่าน้อย คุณสองคนไม่ต้องคิดมากนะ ฉันช่วยคุณวันนี้ วันหน้าฉันอาจขอความช่วยเหลือคุณบ้างก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจ บอกมาค่ะ หงส์ จัดการให้แม่หน่อย”
“ได้ค่ะแม่”
“ไม่ต้องหรอกค่ะคุณพรรณ แค่นี้ก็ไม่รู้จะขอบคุณจะตอบแทนน้ำใจยังไงหมด ให้เราแก้ปัญหาของเราเองดีกว่านะคะ”
บุษบาลุกยืน หล่อนรบกวนครอบครัวนวลน้อยมากเกินไป จิรเมธลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาเกรงใจนวลน้อยมากกว่าคนอื่น นวลน้อยเป็นผู้ใหญ่ใจดี เขารับรู้มาตลอด หงสาเป็นเด็กดีมีน้ำใจกับเขาและอาจจะกับทุกคนที่หล่อนพอช่วยเหลือได้ เขาละอายกับครอบครัวนี้
“เราไม่รบกวนนะครับ ผมขอโทษย่าน้อยด้วย เรากลับก่อนนะครับ”
“พ่อเมธ ถ้าเห็นว่าฉันเป็นญาติผู้ใหญ่อย่างที่ปากพ่อพูดก็นั่งลง ทั้งสองคนนั่นแหละ เราเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว ก็ต้องช่วยเหลือกัน พ่อเมธยังอยากมาอยู่ใกล้ๆ สวนฉันมั้ยล่ะ”
“ครับ อยากมาครับย่าน้อย”
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าปฏิเสธน้ำใจของพวกเราเลยนะ แม่บุษก็เหมือนกันนะ ไม่ต้องเกรงใจถ้าฉันเอ่ยปากขอความช่วยเหลือพ่อเมธกับแม่บุษบ้าง จะช่วยฉันมั้ย”
“ครับ พวกเรายินดีครับย่าน้อย”
“ย่าน้อยจะให้เราช่วยอะไร บอกมาได้เลยค่ะ”
“เอาไว้ก่อน ตอนนี้ช่วยนั่งลงแล้วก็บอกเลขบัญชีลูกแม่บุษมาเร็วๆ”
“เอ่อ ย่าน้อยคะ หนู”
“ไม่ต้องพูดอะไร ทำตามที่ฉันขอสิ”
บุษบาและจิรเมธสูดลมหายใจแล้วทรุดตัวนั่งลงที่เดิมตามที่นวลน้อยสั่ง จิรเมธบอกเลขบัญชีของจิราพรให้หงสาโอนเงินจำนวน 3 แสนบาทข้ามประเทศไปยังอเมริกา พวกเขายกมือไหว้วลัยพรรณโดยไม่รู้สึกขัดเขินใดๆ ความช่วยเหลือของวลัยพรรณกับหงสาครั้งนี้เป็นครั้งที่เขากับภรรยาจะจดจำไปตลอดชีวิตทีเดียว
จิราพรใช้ชีวิตเช่นลูกมหาเศรษฐีที่เมืองไทย หล่อนซื้อของยี่ห้องต่างประเทศ ใช้ของแพง ของถูกๆ ไม่อยู่ในสายตาของหล่อน คนรักที่หล่อนมีตอนเรียนปริญญาตรีหล่อนทิ้งเขาไปเรียนต่อต่างประเทศ ไปพบคนใหม่ คบคนใหม่มีฐานะมั่นคง ชายหนุ่มที่หล่อนเรียกเขาว่า จิมมี่ เป็นชาวอเมริกา รู้จักกันตอนเรียนต่อปริญญาเอก หลังจากบอกเลิกกับคนเก่าขณะเรียนปริญญาโทไปได้ไม่กี่เดือน จิมมี่คบหล่อนแก้เหงาเท่านั้น ไม่คิดจริงจังกับหล่อนเช่นคนอื่นๆ ที่เขาควงไม่กี่ครั้งก็ทิ้งให้เสียใจ จิราพรไม่คิดจะแต่งงานกับเขาเช่นกัน
อีกไม่กี่เดือนหล่อนก็เรียนจบปริญญาเอก หล่อนจะกลับบ้านพร้อมคำว่าด็อกเตอร์นำหน้าชื่อของหล่อนและจะเลือกงานให้เหมาะสมกับรูปร่างหน้าตาของหล่อน ความคิดกลับไปช่วยพ่อกับแม่บริหารงานบริษัทไม่มีอยู่ในสมอง
จิรเมธกับบุษบามาบ้านนวลน้อยแต่เช้า พวกเขาตื่นเต้นจะได้พบคนซื้อเรือนไทยจากเขา เงินก้อนใหญ่รอเขาอยู่ที่บ้านนวลน้อย จำนวนเงิน 50 ล้านบาทไม่ใช่น้อยแต่ไม่มากสำหรับเขา แม้จะไม่มาก เงินจำนวนนี้ก็สามารถช่วยแก้สถานการณ์ล้มละลายให้กับเขาได้
หงสานอนไม่หลับกว่าจะข่มตาหลับลงได้เกือบสว่าง เช้านี้จึงตื่นสาย วิภูรับอาสาขึ้นมาปลุกน้องสาว เขาเคาะประตูเรียกหงสาครู่ใหญ่ หล่อนจึงเปิดรับพี่ชาย ดวงตากลมโตน่ามองยังไม่อยากลืม
“แกจะไปบ้านย่าน้อยกี่โมง”
“สิบโมงค่ะ หงส์ตื่นสาย รู้ตัวว่าผิดค่ะพี่ชายที่น่ารักของน้องสาวคนสวย เห็นด้วยมั้ยคะ”
“สวยตายละ รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วๆ พ่อกับแม่รออยู่ พี่จะไปทำงาน”
“ค่ะ คุณพี่ที่น่ารักของเพื่อนหงส์”
“เพ้ออะไร”
“พูดจริงๆ นะคะ เพื่อนหงส์รักพี่ภูมาก ทำไมพี่ไม่มองมันเลยล่ะคะ มันเสียใจนะคะ เออ วันเสาร์หน้าไปงานเลี้ยงวันเกิดยายนิดกับหงส์นะคะ”
“ไม่ ไม่ว่าง มีนัด”
เขาตอบสั้นๆ ปฏิเสธด้วยใบหน้าเรียบเฉย หงสามองหน้าพี่ชายอย่างขอร้อง อยากให้เพื่อนสมหวังในความรัก เพื่อนนิสัยดี ใจดี ถ้าเป็นคนอื่นหล่อนจะไม่สนับสนุนให้พี่ชอบ สำหรับนิศรา หล่อนอยากได้มาเป็นพี่สะใภ้
“ไปหน่อยไม่ได้หรือคะ ไปแวบเดียวก็ได้ ให้ยายนิดเห็นหน้าวินาทีเดียวก็ได้ นะคะ ไปนะคะ”
วิภูมองหน้าน้องสาว ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธซ้ำรอบสอง เขาชี้มือมาที่หน้าผากน้องสาว
“อย่าหัดเป็นแม่สื่อ ใครจะรักจะชอบใครปล่อยให้พวกเขาพบเจอด้วยตัวของเขาเอง จำไว้ยายตัวดี รีบๆ เลย พ่อกับแม่รอนานแล้ว”
“พี่ภูไปด้วยกันมั้ย ไปหาย่าน้อยด้วย”
“ตอนเย็นเลิกงานพี่จะไปกินข้าวกับย่าน้อย ฝากบอกด้วย”
“โอ.เค.ค่ะ”
หญิงสาวยิ้มกว้าง พี่ชายของหล่อนเป็นคนยิ้มยากแต่ใช่ว่าเขาจะยิ้มไม่เป็น เขายิ้มสวยมาก นิศราหลงรักรอยยิ้มของวิภูหรือเปล่าหรือหลงความนิ่งของวิภู ไม่ว่าเพื่อนรักของหล่อนจะหลงรักวิภูด้วยเหตุผลใด หล่อนก็ยังอยากให้เพื่อนเป็นพี่สะใภ้
ชายหนุ่มคิดถึงใบหน้าสวยหวานของนิศรา คำพูดตรงๆ กริยาเก้กัง ซุ่มซ่าม ทำแก้วน้ำตกแตก ทำกาแฟหกใส่เสื้อของเขา นี่หรือความน่ารักของเพื่อนหงสา เขาไม่ชอบผู้หญิงอย่างนี้แต่ไม่เกลียด ของขวัญวันเกิดนิศรา เขาเตรียมไว้แล้ว
