ep1
บนระเบียงทางเดินของอาคารเรียนชั้นสอง เสียงฝีเท้าหนักๆ ของซิสเตอร์ร่างท้วมในชุดกระโปรงยาวสีขาวกรอมเท้าเดินฉับๆ นำหน้ากลุ่มนักเรียนหญิงจำนวน ๔ คนที่เดินตามมาด้วยท่าทางสุดเซ็ง ซิสเตอร์หยุดอยู่ที่ป้ายหน้าห้องที่เขียนว่า “ฝ่ายปกครอง” เธอหันมามองหน้าลูกศิษย์ด้วยความเอือมระอา เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แก๊งค์ ๔ สาวนี้หนีโรงเรียน
“ฉันหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับการทำโทษพวกเธอ” ซิสเตอร์ขยับแว่นมองดูสี่สาวที่ยังคงทำหน้าทะเล้น
“ครั้งสุดท้ายแน่ๆ ค่ะ เพราะเราจะจบกันแล้ว”
หนึ่งในสี่ตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไม้เรียวในมือของซิสเตอร์จึงฟาดไปที่บั้นท้ายเบาๆ ๑ ที
“อูยย...ซิสเตอร์อ่ะ หนูแค่ล้อเล่นหน่อยเดียว”
“ไม่รู้ละ ผู้ใหญ่พูดห้ามสอด”
“หนูไม่ได้สอด แค่ตอบคำถาม”
“ฉันไม่ได้ถาม” นักเรียนคนเดิมทำท่าจะต่อต่อคำด้วย ทว่าเพื่อนคนหนึ่งดึงไว้
“ขอโทษค่ะซิสเตอร์”
ซิสเตอร์มองหน้าหญิงสาวที่ถักผมเปียยาวก็ค้อนขวับ
“เจสิกา เธอกับเพื่อนถูกทำโทษไม่รู้กี่ครั้งก็ไม่เข็ดหลาบสักที นี่ดีนะที่พ่ออุปถัมป์ของเธอเขาขอร้องไว้ ไม่งั้นแม่อธิการคงเชิญเธอออกไปตั้งแต่กลางเทอมแล้ว”
เจสิกาก้มหน้านิ่ง เธอรู้ว่าผิดที่หนีโรงเรียน แต่ความเย้ายวนใจภายนอกมันทำให้เธออยากรู้ เธออยากเดินห้าง อยากรู้ชีวิตผู้คนบนท้องถนน เพราะตลอดเวลา ๓ ปีที่เธอถูกส่งมาเรียนอยู่โรงเรียนประจำแห่งนี้ เธอเหมือนถูกขัง ไม่มีคนมาเยี่ยม ไม่มีผู้ปกครองมาหา มีเพียงอีเมล์ที่ถูกส่งมาทักทาย หรืออย่างมากก็พัสดุของขวัญในวันสำคัญต่างๆ
พ่ออุปถัมป์ของเธอ ชื่อแดเนียล เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่เธอก็ยังไม่เคยเห็นหน้า รู้แต่ว่าเขาเป็นเพื่อนของเจสัน คุณพ่อเธอเท่านั้น หลังจากที่ครอบครัวเธอล้มละลาย แม่ไปทาง พ่อไปทาง เธอถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวกับยาย เพราะเธอทิ้งยายไม่ได้ จู่ๆ ก็ตัวแทนของแดเนียลมาหาเธอ แจ้งความประสงค์ว่าจะดูแลเธอในฐานะพ่ออุปถัมป์ ทุกเดือนจะมีเงินโอนเข้าบัญชี เพื่อให้เธอได้เรียนต่อและใช้ชีวิตอยู่กับยายตามลำพัง แต่เมื่อ ๓ ปีก่อนยายด่วนจากไปด้วยวัยชรา แม่กลับมาหาเธอและทิ้งเธอไปอีกครั้ง ตัวแทนของแดเนียล จึงส่งเธอเข้าเรียนโรงเรียนประจำนับแต่นั้น
เจสิกาพร้อมเพื่อนเดินเข้าไปในห้องปกครอง เพื่อฟังการอบรมชุดใหญ่และถูกทำโทษด้วยการให้นั่งแยกกัน เพื่ออ่านหนังสืออยู่ภายในห้อง โทรศัพท์มือถือถูกริบ อาหารกลางวันถูกงด และถ้าเธอตอบคำถามจากหนังสือที่อ่านไม่ได้ ก็อย่าหวังถึงอาหารมื้อค่ำ แต่พวกเธอทั้งหมดก็ไม่ได้วิตกกังวลถึงเรื่องอาหาร เพราะที่ล็อคเกอร์ของแต่ละคนมีอาหารตุนไว้อยู่แล้ว
“คนไหนชื่อเจสิกา!”
เจสิกาเงยหน้าขึ้นจากหนังสือชีววิทยาว่าด้วยเรื่องของการผสมเกสรดอกไม้
“แม่อธิการเรียกพบ ไปเดี๋ยวนี้!”
ซิสเตอร์โผล่เข้ามาบอกแล้วรีบกลับออกไป ทำให้เจสิกาหันมาหาครูผู้ปกครองจอมเฮี๊ยบ เขาพยักหน้าให้ไปได้ เจสิกาจึงลุกออกมาพร้อมดึงมือครูผู้สอนคนหนึ่งตามออกมาด้วย
“หนูยังอ่านหนังสือไม่จบเลยค่ะ มิสช่วยบอกซิสเตอร์ได้ไหมคะ” เจสิการีบบอกกับครูผู้สอนที่เธอเรียกว่า ”มิส” ขณะที่นักบวชหญิงถูกเรียกว่าซิสเตอร์
“เธอสอบเสร็จแล้วใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ รอผลสอบเท่านั้น”
“สอบเสร็จแล้ว ยังยอมให้ซิสเตอร์ทำโทษอีกเหรอ?”
มิสกระซิบถามพร้อมทั้งหัวเราะร่วน เพราะวันนี้เด็กหลาย
คนต่างรอผู้ปกครองมารับกลับบ้านแล้ว จะเหลือก็แต่หัวโจกที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องปกครองที่ผู้ปกครองน่าจะมารับในอีกสองสามวันข้างหน้าเพราะเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
“ค่ะมิส...เอ่อ มิสคะหนูยังอยู่ที่นี่ได้ถึงวันไหนคะ?”
“ถามแม่อธิการดีกว่านะคะ”
มิสหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องของแม่อธิการ เด็กสาวมองมิสที่คุ้นเคยมานานด้วยสายตาสับสน มิสยิ้มให้กำลังแล้วดึงเด็กสาวมากอดปลอบ แม้ว่าเจสิกาจะเป็นนักเรียนที่เกเรและดื้อรั้นอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเด็กที่มีความอยากรู้อยากเห็น ที่สำคัญเธอเรียนดีจนน่าเสียดายว่านับแต่นี้ ไม่รู้ว่าเธอจะได้เรียนต่อหรือไม่
“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกเจส ชีวิตเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราต้องเผชิญกับมัน”
เจสิกาพยักหน้ายอมรับ มิสเปิดเปิดประตูให้เธอเดินเข้าไปในห้องของแม่อธิการด้วยรอยยิ้ม เธอหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องของแม่อธิการ
ภายในห้องที่เย็นฉ่ำจากแอร์คอนดิชั่น มันเย็นยะเยือกยิ่งขึ้น เมื่อมีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่นั่งหันหลังให้เธอ อยู่ตรงหน้าโต๊ะของแม่อธิการ
“เจสิกา ผู้ปกครองของเธอมารับแล้ว”
แม่อธิการบอกกับเธอด้วยรอยยิ้ม ขณะที่หญิงสาวมีท่าทีมึนงงสงสัย จนชายหนุ่มคนนั้นลุกขึ้นยืนแล้วหันมามองเธอด้วยสายตาปราณี
“ฉันเอง เจสิกา”
“คุณอาแดเนียล?”
ไม่รู้อะไรทำให้เจสิกาบอกออกไปด้วยใจเต้นระทึก เป็นไปได้อย่างไรที่พ่ออุปถัมป์ของเธอ อย่างแดเนียลจะเดินทางมารับเธอด้วยตัวเอง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาติดต่อเธอผ่านทนายเท่านั้น นี่หรือแดเนียล...พ่ออุปถัมป์ที่เธอหลงรักมานาวนาน เขาหล่อและดูดีกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก หญิงสาวยกมือไหว้ชายหนุ่มอย่างเก้ๆ กังๆ
“ไม่คิดว่าคุณอาจะมารับดิฉันเอง”
“เรียกแทนตัวว่าเจส อย่างที่เธอเคยเรียกกับพ่อและแม่ของเธอเถอะ”
