ตอนที่ 1 เกิดความผิดพลาด?
แคว้นหลงจวิน เมืองหลิงเทียนปลายเดือนสิบสองซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแต่วันนี้กลับมีสายฝนตกกระหน่ำลงมาราวกับท้องฟ้ากำลังลงโทษผู้คน สายฟ้าแปลบๆเป็นระยะบนท้องฟ้าทำให้ผู้คนไม่อยากออกไปไหน
หุบเขาหยวนอี้ห่างเมืองหลวงออกไปราวห้าสิบลี้ เป็นหุบเขาสูงป่าทึบและเต็มไปด้วยสัตว์อสูรที่มีแก่นพลังตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับสูง ชาวบ้านต่างก็รู้ว่าหุบเขานี้ไม่เหมาะแก่การเข้าไปล่าสัตว์หรือหาอาหารเลย
"ตกทั้งวันเช่นนี้นายท่านพวกเราจะกลับกันอย่างไรดีขอรับ?"
"ไม่รีบ รอให้ฝนซาค่อยกลับออกไป"
ตรงกลางหน้าผา ภายในถ้ำสูงนั้นมีชายหนุ่มรูปงามในชุดสีขาวไข่มุกมีเสื้อคลุมสีม่วงปักลวดลายเมฆมงคลด้วยดิ้นทองคำกำลังยืนมองทอดสายตาออกไปเบื้องล่างอย่างสงบ ใบหน้าหล่อเหลาดูราบเรียบสงบเย็นและสูงส่ง ทันใดนั้นเอง
เปรี๊ยะ!!
เปรี๊ยง!!
ทางทิศใต้ของเมืองหลวง ที่จวนโหว
เฮือก!!!
หลังจากสายฟ้าสีทองอร่ามฟาดฟันลงมาสองสาย ภายใต้ความหวาดกลัวของผู้คนสายฟ้าสองสายนี้ก็ฟาดลงมาจนแผ่นดินสั่นสะเทือน แต่ท้ายจวนโหวในสวนป่าไผ่อันห่างไกลเรือนหลักกลับไม่ได้หวาดกลัวเสียงสายฟ้าฟาดสองสายนั้นเลย เวลานี้กลับมีแต่ความวุ่นวายเกิดขึ้น
"คุณหนูสามเจ้าคะ ท่านอย่าทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ก็เสียชีวิตไปแล้วคุณหนูสามท่านก็ควรปล่อยคุณหนูให้ไปอย่างสงบหน่อยเถอะนะเจ้าคะ"
"หุบปาก!! สาวใช้ชั้นต่ำเช่นเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนข้า ตบปากนางให้ข้าสิมัวยืนรออะไร?"
"ไม่นะเจ้าคะ คุณหนูสามท่านจะขนของ ของคุณหนูใหญ่ไปเช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะพวกเจ้าปล่อยข้า!! อ๊าย!!"
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
ด้านหน้าเรือนอันทรุดโทรมเวลานี้เด็กสาวชุดสีชมพูอ่อนใบหน้าจิ้มลิ้มแต่ดูดุร้ายกำลังมือไพล่หลังมองสาวใช้ของตนตบสั่งสอนสาวใช้อีกคนอยู่อย่างมีความสุข
"ตบมันให้ตาย ให้มันตายตามเจ้านายของมันไป ข้าอยากจะรู้นักมันจะทำอะไรข้าได้?" พูดจบเด็กสาวก็หันไปสั่งสาวใช้ที่ว่างอยู่ด้วยน้ำเสียงดุดันว่า "พวกเจ้าตามข้าเข้าไปขนของมีค่าในเรือนกลับไปที่เรือนของข้าให้หมด! ของมีค่าเหมาะกับคนที่มีค่า มีความสามารถเช่นข้าไม่ใช่สำหรับขยะไร้ค่าที่แม้ตายเป็นศพก็ไม่มีใครสนเช่นนางสาระเลวนั่น"
"เจ้าค่ะคุณหนูสาม"
เสียงกรีดร้องปนเสียงทะเลาะกันวุ่นวายดังเข้ามาในหูเยี่ยอวิ๋นรู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรงในขณะที่นางอยากจะลืมตาขึ้นมานั้น กลับมีความทรงจำต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับนางปรากฏขึ้นมาในหัวไม่หยุดหย่อน นางกำลังออกจากการบำเพ็ญเพียรแต่เกิดอะไรขึ้น เกิดความผิดพลาดอะไรอย่างนั้นหรือ?
ผ่านไปราวสิบอึดใจเสียงประตูก็เปิดดัง ปัง! เข้ามาพร้อมกับเสียงเล็กแหลมสั่งการและเสียงของสาวใช้ถูกตบดังชัดเจนขึ้น
"พวกเจ้าไปรื้อมาให้หมด ขนออกไปกองเอาไว้หน้าเรือนข้าจะตรวจดูให้แน่ใจอีกรอบหนึ่งก่อน"
"เจ้าค่ะคุณหนูสาม"
ไม่นานเสียงรื้อค้นข้าวของก็ดังขึ้นมา
"ถือดีดีอย่าทำให้ของมีค่าเหล่านั้นชำรุดเสียหล่ะ!" เด็กสาวพูดจบก็ก้าวเดินมาทางด้านหลังฉาก มองหญิงสาวบนเตียงที่ใบหน้าซีดขาวไร้ลมหายใจอย่างกระหยิ่มยิ้มหยัน
"พี่หญิงใหญ่ของข้า ขยะอย่างเจ้าสมควรตายๆไปตั้งนานแล้ว เจ้าดูสิสิ่งของมีค่าเหล่านั้นที่ท่านผู้เฒ่าทิ้งเอาไว้ให้เจ้าก่อนตายนั่นเหตุใดขยะเช่นเจ้าถึงมีสิทธิ์ได้ครอบครอง?"
เสียงเย้ยหยันด่าทอดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนในที่สุดก็ดังอยู่ข้างเตียง เด็กสาวยืนมองคนบนเตียงอยู่ชั่วครู่พลันความอิจฉาริษยาก็ผุดขึ้นมาราวกับพายุคลั่ง นางยื่นมือออกมาตบลงใบหน้างามที่ขาวซีดนั้นอย่างแรงสองที
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
"ขยะไร้ค่าเช่นเจ้าเหตุใดถึงได้ครอบครองความงดงามเช่นนี้ด้วย? เหตุใดทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีดีถึงได้เข้ามาหาเจ้าตลอดด้วย? เหอะ!! แต่แล้วอย่างไรในเมื่อตอนนี้เจ้าก็ตายไปแล้วเช่นนั้นทุกสิ่งที่เจ้าเคยมีข้าก็ขอแล้วกันนะ!
อ๊ะ!! นี่อะไรกันเหตุใดข้าถึงไม่เคยเห็นเจ้าสวมใส่มันเลย สร้อยหยกสีน้ำเงินนี่ช่างเป็นของดีมากจริงๆของมีค่าหายากเช่นนี้ขยะไร้ค่าเช่นเจ้าได้ครอบครองได้อย่างไร เสียงของจริงๆ แต่เอาเถอะ ตายไปแล้วเจ้าก็เอาไปไม่ได้ เช่นนั้นข้าก็ขอมันไปด้วยแล้วกัน!!" พูดจบเด็กสาวก็ยื่นมือออกไปหมายจะกระชากสร้อยหยกสีน้ำเงินที่อยู่บนคอของหญิงสาวคนนั้น
แต่มือของนางยังสัมผัสไม่ถึงสร้อยคอนั้นหญิงสาวที่หลับตาอยู่บนเตียงนั้นจู่ๆก็เบิกตาโพลงขึ้นมา เยี่ยหลินชะงักเห็นดวงตาคู่นั้นดำสนิทลึกล้ำราวกับเป็นหลุมดำที่ไร้ก้นบึ้งดึงดูดคนเข้าไปอย่างไม่สิ้นสุด ในพริบตานางก็หนังศีรษะด้านชาตามมาด้วยความว่างเปล่าในสมอง
เยี่ยอวิ๋นแต่ไหนแต่ไรมานางก็เป็นเซียนน้อยที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว ทั้งที่นางเป็นเซียนน้อยผู้สืบทอดเผ่าโอสถแต่ในแต่ละวันนางต้องแอบหนีเล่นซุกซนไปเรียนรู้การหลอมอาวุธ การแปลงโฉมการควบคุมสัตว์ควบคุมผู้คนอยู่ร่ำไป
ในอายุเพียงห้าร้อยปีนางก็คืออัจฉริยะในแดนเซียนดินแดนชิงเสวียนแล้ว และหนึ่งในวิชาที่นางถนัดที่สุดก็คือเนตรสวรรค์วิชาดวงตาทะลุฟ้า ควบคุมทิศทางของผู้คนและคมกระบี่ได้ด้วยสายตาเดียว
แม้ว่าเวลานี้พลังของนางในร่างนี้จะมีเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น แต่การจัดการกับบุตรสาวของบ้านสามเช่นเยี่ยหลินที่เป็นนักรบปฐพีระดับสี่แบบนี้ก็ยังเหลือเฟือ
เยี่ยอวิ๋นค่อยๆลุกขึ้นนั่ง แล้วหมุนตัวช้าๆพร้อมกับดวงตาหงส์ที่เบิกโต นางค่อยๆเอ่ยด้วยเสียงอันแหบพร่าและเบาหวิว "เยี่ย..หลิน..เจ้า..ทำ..ให้..ข้า..ตาย..แล้ว..ยัง จะ มา เอา ของ ของข้า อีกหรือ? ช่าง ใจ กล้า เกิน ไป แล้ว.."
เยี่ยหลินขาอ่อน เหงื่อเย็นผุดขึ้นมาเต็มหน้าผาก ความหนาวเย็นแล่นขึ้นมาตามแผ่นหลังตัวสั่นพร้อมร้องเสียงหลง "กรี๊ด! ! ....ผะ ผะ ผี! ผี! พี่หญิงใหญ่นาง! ! นางเป็นผีไปแล้ว! ! ! ! "
เยี่ยหลินใบหน้าซีดเผือดทั้งตกใจทั้งกลัว ร่างบางเซถลาจนหงายหลังก้นกระแทกพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ทำได้แค่เพียงพยายามตะเกียกตะกายไปทางประตู
เยี่ยอวิ๋นรู้สึกขบขันเล็กน้อยมุมปากซีดยกขึ้นมา แน่นอนว่าการลวงตาเช่นนี้ไม่สามารถกลายเป็นผีหลอกขึ้นมาจริงๆได้ เพียงแต่เยี่ยหลินผู้นี้นั้นกลับมีความชั่วที่ติดตัวจนเกิดความกลัวภายในใจ หลังจากถูกเยี่ยอวิ๋นปลุกความกลัวนั้นขึ้นมา นางก็ตื่นตระหนกและหวาดกลัวในสิ่งเลวร้ายที่เคยทำกับเจ้าของร่างก็เท่านั้น
ความชั่วนั้นแม้จะปกปิดเอาไว้ลึกแค่ไหนเมื่อถูกความกลัวเข้าครอบงำสุดท้ายก็ต้องเผยออกมาอยู่ดี แต่ก็นั่นแหละไม่คิดเลยว่าเยี่ยหลินที่ดูเป็นคนเย่อหยิ่งจองหองเช่นนี้ภายในใจจะมีความกลัวมากถึงเพียงนี้ อาจจะเพราะรังแกเจ้าของร่างมากจนเกินไปเลยคิดว่านางจะกลายเป็นผีร้ายมาตามล้างแค้นตนเอง
สมแล้วที่เป็นคนชั่วไร้ความกล้า
เมื่อครู่ยังด่าทอนางว่าเป็นคนต่ำช้า เป็นคนไร้ค่าอยู่เลย เพราะความเคยชินในการรังแกนางมากเกินไปจึงคิดว่านางผู้นี้แม้ตายก็ยังสามารถรังแกได้ตามใจชอบ
หากว่าข้าเยี่ยอวิ๋นไม่ตอบแทนนางดีดีก็คงจะไม่คุ้มกับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ที่น้องสาวคนที่สามมีให้นางตลอดหลายปี! !
เยี่ยอวิ๋นค่อยๆลงจากเตียงก้าวเท้าเดินไปหาเยี่ยหลิน
เยี่ยหลินกรีดร้องขึ้นด้วยความหวาดกลัว "อย่าเข้ามานะ! กรี๊ด! ! ออกไปให้พ้น! ไม่นะ! อย่าเข้ามานะ! "
เยี่ยอวิ๋นแสยะยิ้มช่างเป็นรอยยิ้มที่น่าเกลียดน่ากลัวเป็นอย่างมาก นางโน้มตัวลงช้าๆ แล้วพูด "เยี่ยหลินเจ้าทำให้ข้าต้องตาย ความแค้นนี้แม้เป็นผีข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้า! "
...
