บทนำ บังเอิญสินะ!!
ร่างเล็กที่นั่งบนรถยนต์ปรับอากาศคันหรูซึ่งได้ชื่อว่าอันดับหนึ่งในประเทศ ด้วยที่นั่งเดี่ยวแบบเฟิร์สคลาส ระหว่างทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ ตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าๆ แล้ว ที่รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์กำลังขับเคลื่อนผ่านตัวจังหวัดนครสวรรค์
แต่แล้วก็มีแสงของไฟไซเรนของรถฉุกเฉินวิ่งผ่าน แถมรถที่ติดขนัดแม้เวลาจะค่ำถึงเพียงนี้ ทำเอาคนที่กำลังเหม่อลอยต้องหันลงไปมองด้านล่าง
บิ๊กไบค์ชนเข้ากับรถยนต์ยี่ห้อหรูอะไรสักอย่าง
เมื่อที่นั่งของเธอดันอยู่ฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นฝั่งที่กู้ภัยกำลังจะเอาผ้าขาวปิดร่างของใครสักคน ด้วยสัญชาตญาณการอยากรู้อยากเห็น ทำให้เธอเลื่อนผ้าม่านออกกว้างดู
สายตาที่จ้องมองไปยังร่างของผู้ชายคนหนึ่ง ดูแล้วอายุน่าจะยังไม่เกินสามสิบ
“หล่อเป็นบ้าเลย ไม่น่าอายุสั้นขนาดนี้”
เธอหันมองจนสุดสายตา ภาพที่นอนแน่นิ่งกับใบหน้าหล่อของเขา ก่อนที่ผ้าขาวจะคลุมร่างนั้น และเธอก็หันหน้ามองไปยังถนนตามเดิม อีกหลายชั่วโมงสินะกว่าจะถึงบ้าน
คนร่างเล็กที่บ้านก็ค่อนข้างจะมีฐานะเหมือนกัน แต่เธอเป็นคนชอบเสพบรรยากาศบนรถ การได้เดินทางดูนี่นั่นตามรายทาง มันทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย การกลับมาพักร้อนในครั้งนี้ก็เนื่องจากปัญหาในที่ทำงาน แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องของหัวใจ เมื่อผู้เป็นเพื่อนร่วมงานดันตกหลุมรักผู้ชายคนเดียวกันกับเธอ
มิน หรือ (มินตรา หิรัญชัยวงศ์) สาวสวยดีกรีปริญญาดุษฎีบัณฑิต แม้เธอจะจบถึงดอกเตอร์ แต่เธอก็ไม่ชอบให้ใครมาเรียกเธอว่าดอกเตอร์ ก็แปลกคน มีแต่คนเขาชอบ แต่เจ้าหล่อนกลับไม่ใช่ ด้วยความเก่งและฉลาดของเธอทำให้ได้ปริญญาใบที่สามในวัยเพียง 28
แม้จะมีหลายต่อหลายสังกัดติดต่อเธอให้มาเป็นแบบหรือเข้าวงการ ด้วยหน้าตาที่สะสวยของเจ้าหล่อน มิหนำซ้ำความสูงของเธอก็สูงถึง 165 ซึ่งมีไม่มากเท่าไหร่นักสำหรับขนาดไซซ์แบบนี้ของผู้หญิงไทย แต่ด้วยความที่เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญ SEO นักการตลาดด้านโซเชียลมีเดียและด้านอีคอมเมอร์ซ เธอจึงตอบปฏิเสธทุกคนไป และหันมาจริงจังกับงานที่ตนเองรัก ไม่ว่าจะไปที่ไหนเธอก็ต้องพก Macbook ไปไหนต่อไหนด้วยตลอด
ตอนแรกเธอก็หอบหิ้วพาหัวใจที่เจ็บช้ำเดินทางกลับสู่เชียงใหม่ กะว่าจะพักกายพักใจสักสองอาทิตย์ แต่ด้วยภาพที่เห็นก่อนหน้ามันยังคงติดตาของเธออยู่ ใบหน้าหล่อคมเข้มของเขา คนตัวสูงยาวของเขานั่นอีก
“เฮ้อ!! เสียดายแย่ ของดีๆ ทำไมอายุสั้นจังนะ ถ้านายรอดนะ รับรองฉันจะให้คบฟรีๆ เลยอ่ะ แถมเรื่องอย่างว่าให้ฟรีๆ ด้วยเลยอ่ะ”
ด้วยความปากพล่อยพูดไปอย่างนั้นแหละของเจ้าหล่อน เพราะคนที่ตายไปแล้ว ก็คือตาย ก็คงมาทำอะไรอย่างว่าไม่ได้ ปากจึงนึกสนุกและพูดออกไป เมื่อแสงไฟในตัวรถยนต์หรูถูกดับลงอีกครั้งหลังจากส่งผู้โดยสารที่พิษณุโลก และก็มุ่งหน้าเดินทางต่อ จู่ๆ เธอถึงกับตกใจกับภาพของใครบางคนที่สะท้อนในเงาของกระจก
เฮ๊ยยย!!”
เสียงอุทานของเธอไม่ได้ดังมาก ก่อนที่เจ้าหล่อนจะขยี้ตาถี่ๆ
‘เก็บเอาเขามาคิดมาก จนเป็นภาพหลอนสินะ!!’
ไม่นานนัก สักพักเธอก็ผล๋อยงีบหลับไป จริงๆ แล้วเธอไม่ค่อยกลัวเรื่องผีสักเท่าไหร่เนื่องจากตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเจอเรื่องอย่างว่าเลย อีกทั้งมีแต่คนบอกว่าเธอเป็นคนดวงแข็ง
กว่ารถจะขับมุ่งทะลุลำปางเข้าสู่พะเยาก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางก็เกือบหกโมงเช้า ก่อนที่เธอจะนำเอาใบแท็กไปยื่นกับพนักงานเพื่อแลกกระเป๋า คนรถที่มารอรับก็ยืนยิ้มให้คุณหนูของเขาอย่างใจดี
ภพ หรือสมภพคนขับรถประจำตระกูล หิรัญชัยวงศ์ ก็มารับผู้เป็นนายสาว เขาทำงานกับตระกูลนี้มาช้านาน ที่บ้านของเธอทำธุรกิจแปรรูปไม้ มีทั้งนำเข้าและส่งออก ส่วนคุณฉัตรชัยผู้เป็นพ่อก็เป็นถึงนายตำรวจยศใหญ่ ส่วนคุณนวลก็เป็นแม่บ้าน ดูแลสวนอาหารอยู่สามสาขาที่เชียงใหม่ นอกนั้นพี่สาวของเธอชื่อมินทิรา รายนี้ไม่ค่อยอยู่ไทยเท่าไหร่ ส่วนมากก็อยู่ที่เนเธอร์แลนเสียมากกว่า
“แม่คะ คิดถึงจังเลย”
ทันทีที่ก้าวลงจากรถเธอก็โผเข้ากอดผู้เป็นแม่ เพราะรายนี้ตื่นมารอรับลูกสาวตั้งแต่ตีห้า ส่วนผู้เป็นพ่อก็กำลังงุ่มง่ามกับการจัดสวนสวย เขารู้ว่าลูกสาวชอบดอกแก้ว คุณฉัตรชัยจึงสั่งต้นแก้วมาปลูกชุดใหญ่
“คุณพ่อค๊า คิดถึ้งคิดถึงจังเลยค่ะ”
เสียงเจื้อยแจ้วขี้อ้อนของลูกสาวยังคงเหมือนเดิม ก่อนที่สองพ่อลูกจะกอดกันยกใหญ่ ฉัตรชัยแม้จะมีอาชีพเป็นถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทว่าด้วยบรรพบุรุษสืบเชื้อสายมอญ และเซนต์จะแรงเรื่องสิ่งแปลกๆ จู่ๆ เขาก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
“เหนื่อยแย่สิเดินทาง แม่บอกให้นั่งเครื่องก็ไม่ยอม คนอะไรชอบทำให้ตัวเองลำบาก”
แม้ปากจะบ่นลูกสาว แต่นวลก็ดึงมือบางและมืออีกข้างก็ยีหัวลูกสาวอย่างเอ็นดูก่อนจะเข้าไปด้านใน เพื่อพามินตราหาอะไรรองท้อง
“เดี๋ยวพ่อต้องเตรียมตัวเข้างานก่อนนะ วันนี้ท่านผู้ว่าจากนครสวรรค์เข้ามาพบ เหมือนว่าท่านจะมีเรื่องเร่งด่วนอะไร”
“ค่ะพ่อ ไว้ตอนเย็นหนูรอทานข้าวด้วยนะคะ”
ฉัตรชัยพยักหน้าให้ลูกสาว
ทางด้านผู้ว่าที่เข้ามาพบฉัตรชัยเป็นการส่วนตัว เนื่องด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่ทราบได้ แต่เหมือนบิดาของเธอจะรีบร้อนน่าดู
“รีบกินจะได้ไปพัก แม่ให้คนจัดห้องไว้ให้แล้ว และนี่ห้อยตุ๊กตาอะไรล่ะเนี่ย? ” นวลหันมามองเจ้าตุ๊กตาตัวใหญ่ที่ห้อยอยู่บนกระเป๋าของเธอ
“เจ้าลาบูบู้ไงคะแม่ เขาออกจะฮิต”
สิ้นเสียงของลูกสาว เธอก็ส่งค้อนให้ยกใหญ่ คนอะไรไม่รู้จักโต
เมื่อร่างบางทานข้าวและอาบน้ำเสร็จ ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบๆ สิบโมงแล้ว แต่วันนี้เธอจะขอนอนยาวๆ ละกัน ตื่นอีกทีตอนที่พ่อกลับมาทานข้าวเย็นซะทีเดียว ความเมื่อยล้าจากการนั่งรถมันทำให้เธอหลับอย่างง่ายดาย อุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศที่ถูกตั้งไว้ 19 องศา เธอเป็นคนชอบนอนเย็นแบบฉ่ำๆ
จากนั้นหนังตาก็เริ่มหนักลงทุกขณะ และในที่สุดเธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราจนได้ …
