4
เขากับเธอย้ายมานั่งอยู่ตรงชายหาด โดยเขาถอดเสื้อคลุม คลุมไหล่ให้เธอเพื่อให้คลายจากความหนาวเย็น
“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณเบาๆ ไม่เซ้าซี้ถามอะไรเขาอีก อาจเพราะเธอไม่ชอบเซ้าซี้คนอื่นนั่นเอง
ค่ำคืนนี้ เธอกับเขารับรู้ได้ถึงความเงียบสงบ ลมทะเลพัดมากระทบผิวกายเบา ๆ หอบเอาความเย็นสบายมาพร้อมกับกลิ่นของเกลือทะเลที่ลอยมาพร้อมกับอากาศ ทั้งสองนั่งเคียงคู่อยู่ด้วยกันบนผืนทรายที่อ่อนนุ่ม ชายหาดที่โล่งกว้างไม่มีสิ่งใดกีดขวาง ทำให้มองเห็นท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน
“พี่ชอบมองดาวนะ เวลาที่อยู่เงียบๆ คนเดียวมันทำให้ผ่อนคลาย ส่วนใหญ่เวลาพักผ่อนของพี่คือเวลาที่ได้นั่งดูดาวสวยๆ แบบนี้”
“โรแมนติกจังเลยค่ะ” เธอเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะคิดถึงมารดา ตอนนี้ท่านคงอยู่บนสวรรค์ ผู้หญิงที่รักเธอกับน้องชายมากที่สุด ยอมเสียสละทุกอย่างในชีวิต แต่กลับพบเจอกับผู้ชายที่ไม่ดี ทรยศหักหลังอย่างธนวัฒน์
โลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย!
“คิดอะไรอยู่”
“คิดถึงคุณแม่น่ะค่ะ ตอนนี้ท่านคงอยู่บนสวรรค์ กำลังมองลงมายังพิมพ์” เสียงของพิมพ์ลภัสติดจะเศร้าเมื่อเอ่ยถึงมารดาที่รัก แต่น้ำเสียงนั้นก็เต็มไปด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง
“พี่เสียใจด้วยนะเรื่องแม่” เขารู้ว่ามารดาของเธอเสียชีวิตนานหลายปีแล้ว
“แต่จริงๆ การที่ท่านต้องจากเราไป ก็อาจจะดีกับแม่ก็ได้นะคะ”
“ทำไมล่ะ”
“พ่อนอกใจแม่ พาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาเย้ยถึงในบ้าน” เธอถอนใจขณะเล่าเรื่องนี้
“เราเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่าค่ะ คืนนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว สวยเชียวค่ะ” เธอเงยหน้ามองดวงดาวระยิบระยับ ซึ่งส่องแสงสวยงามไปทั่วทั้งฟ้า ปรมินทร์เองก็หลงใหลในความงามนั้น เขาชี้นิ้วไปยังดวงดาวที่สว่างที่สุดในท้องฟ้าและเริ่มเล่าประวัติของมัน
"เห็นดาวดวงนั้นไหม" ปรมินทร์ถามพิมพ์ลภัส ขณะที่ชี้ไปที่ดาวเหนือ
พิมพ์ลภัสหันไปมองตามนิ้วของเขา ก่อนจะพยักหน้ารับ
"เห็นค่ะ มันสว่างมาก สวยด้วย"
"มันเป็นดาวที่คนใช้ในการหาทิศทางมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะมันแทบจะไม่เคลื่อนที่เลยขณะอยู่บนท้องฟ้า"
พิมพ์ลภัสมองไปยังดาวเหนืออย่างสนใจ เธอพอรู้เรื่องดาราศาสตร์อยู่บ้างเพราะสนใจเรื่องนี้ ไม่คิดว่าเขาจะสนใจเรื่องเดียวกันกับเธอ
"ดาวเหนือเป็นดาวที่น่าสนใจมากเลยค่ะ และเป็นดาวที่มีความสำคัญมาก ๆ"
"ส่วนนั่นคือดาวลูกไก่ ดาวลูกไก่คือกลุ่มดาวที่ประกอบด้วยดาวหลายดวง ที่มักจะมองเห็นเป็นกลุ่มเล็ก ๆ อยู่ใกล้กัน มองจากโลกจะดูเหมือนเป็นกลุ่มดาวเดียวน่ะ"
"ดาวลูกไก่ ชื่อมันน่ารัก แต่ประวัติมันน่าเศร้านะคะ"
"ใช่" ปรมินทร์ตอบ
"บางทีการดูดาวก็เหมือนการมองเห็นความหวัง เราก็เหมือนดาวเล็ก ๆ ที่ส่องแสงอยู่บนท้องฟ้า เรามีค่ามีความหมายเสมอสำหรับตัวเราเอง" เธอเอ่ยกับเขา
เขารู้สึกว่าเธอเป็นคนที่มีความคิดลึกซึ้ง แต่หลายครั้งเขาเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไม่แคร์โลก หรือไม่แคร์ใคร ติดจะเย็นชาเสียด้วยซ้ำ
พิมพ์ลภัสยิ้มกว้างขึ้น ขยับเข้าใกล้ปรมินทร์เล็กน้อย รู้สึกถึงความอบอุ่นจากเรือนกายแกร่งของเขา ท่ามกลางหมู่ดาวและเสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่ง ทำให้ทั้งสองดื่มดำกับบรรยากาศนั้นจนลืมเวลา
ปรมินทร์มองท้องฟ้าอีกครั้ง รู้สึกได้ถึงความสุขที่เงียบสงบ เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย เพียงแค่ได้อยู่กับเธอในค่ำคืนนี้ เขาก็รู้สึกว่าคุ้มค่าเป็นที่สุด
ทั้งสองนั่งคุยกันเรื่องดาวอย่างออกรส อาจเพราะพอรู้ว่าเริ่มชอบอะไรเหมือนกันก็คุยกันถูกคอ
“เพิ่งรู้นะนี่ว่าพิมพ์ก็ชอบเรื่องดาราศาสตร์เหมือนกัน”
“ชอบค่ะ เมื่อก่อนชอบดูหนังอวกาศมากๆ ค่ะ แต่ก็น่าเหลือเชื่อนะคะ คนเราอยู่บนโลกใบนี้ แต่ก็มีดวงดาวอีกหลายดวงให้น่าค้นหา ตอนเด็ก ๆ พิมพ์เคยฝันนะคะว่าอยากไปสำรวจนอกโลก ไปยืนอยู่บนดาวดวงอื่น รับรู้ว่ามันมีอยู่จริง อยากนั่งไปบนยานอวกาศ สงสัยจะดูหนังมากไป” เธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหน้าเศร้า หลังจากมารดาจากไปสิ่งเลวร้ายก็เกิดขึ้น ความฝันและโอกาสในชีวิตสูญสิ้นเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนอะไรจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาเลย
เธอยังจำได้ดีที่บิดาพูดใส่หน้าว่าเป็นผู้หญิงจะเรียนไปทำไม เดี๋ยวก็ต้องแต่งงานมีสามี ดูแลปรนนิบัติสามี
ช่างเป็นความคิดเห็นแก่ตัวของผู้ชายยุคดึกดำบรรพ์จริง ๆ
ปรมินทร์ทำลายความเงียบโดยเล่าเรื่องดาวลูกไก่ให้เธอฟังต่อ
“ตำนานของดาวลูกไก่ เป็นเรื่องเล่าที่มีมาอย่างยาวนานในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก”
“เคยฟังตำนานดาวลูกไก่จากคุณแม่ที่กระโดดเข้ากองไฟน่ะค่ะ” เธอยิ้มให้เขา รู้สึกซึ้งใจในความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่
“แต่หนึ่งในตำนานที่มีชื่อเสียงที่สุดมาจากกรีกโบราณครับ เล่าถึงการผจญภัยของลูกสาวทั้งเจ็ด ของเทพโพไซดอน และการถูกไล่ล่าจากนักล่าอย่าง โอไรออน ดาวลูกไก่ เป็นกลุ่มดาวที่ประกอบไปด้วยดาวเจ็ดดวง ซึ่งเป็นบุตรสาวของเทพโพไซดอนและเทพีอาโคริอา”
“พวกเธอมีชื่อว่า มายา ไฟอา อะมีธี ทาเอีย เมทโอนี ไอโด และอัลไซโอนี” เธอช่วยต่อประโยคของเขาให้สมบูรณ์ เขาก็หัวเราะเบา ๆ ที่เธอมีความรู้รอบด้าน
