บทนำ
จากใจนักเขียน
สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน เรื่องนี้ไรท์แต่งแนวนักฆ่าที่จำใจมาสวมบทบาทนางร้ายนะคะ กับพระเอกที่เป็นกั๋วกงหรืออดีตตัวร้ายคลั่งรักนางเอกนิยายในเรื่อง พวกเขาจะรักกันได้อย่างไรต้องไปคิดตามน้า
เรื่องนี้ตั้งใจมากฝากติดตามและคอมเม้นเป็นกำลังใจให้นักเขียนคนนี้ผลิตผลงานออกต่อไปด้วยนะคะ
บทนำ
ภายใต้แสงโคมไฟยามค่ำคืนสาดส่องผ่านผ้าม่านบางเบา บนถนนสายหลักของเมืองหลวงที่เนืองแน่นด้วยผู้คน องค์ชายใหญ่ผู้เลื่องชื่อลือชาในรูปโฉมและคุณสมบัติโดดเด่น เดินเคียงข้างด้วยเหล่าขุนนางผู้ติดตาม ทุกย่างก้าวของเขาเป็นที่ดึงดูดสายตาจากทั้งบุรุษสตรีทั่วบริเวณ ใบหน้าหล่อเหลาและสายตาที่ดูเคร่งขรึมทว่าไม่ดุดันจนเกินไปทำให้บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ในเมืองต่างปรารถนาที่จะได้ครอบครองหัวใจเขาแม้รู้ดีว่าองค์ชายมักไม่ใยดีใครง่าย ๆ ก็ตาม
วันนี้ชายหนุ่มเลือกที่จะมาที่โรงเตี๊ยมหรูแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงเพื่อประชุมเจรจากับขุนนางและร่วมดื่มสุราเพื่อกระชับมิตรให้แน่นแฟ้น เหล่าขุนนางผู้ติดตามต่างมององค์ชายด้วยความเคารพเดินตามเข้าไปข้างใน
"ยินดีต้อนรับพ่ะย่ะค่ะองค์ชายใหญ่และคณะ” เสียงทักทายดังขึ้นเมื่อองค์ชายใหญ่และเหล่าขุนนางก้าวเท้าเข้าไปในโรงเตี๊ยม เสี่ยวเอ้อผู้น้อยยืนค้อมหัวต้อนรับอย่างนอบน้อม ท่าทีอ่อนน้อมนั้นสะท้อนถึงการฝึกฝนอย่างเข้มงวด เพราะรู้ดีว่าแขกผู้มาเยือนนี้มิใช่คนธรรมดา “ห้องพิเศษชั้นบนสุดเตรียมไว้แล้ว เชิญเสด็จตามข้าน้อยขึ้นไปได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
องค์ชายใหญ่พยักหน้าเบาๆ ก่อนเสี่ยวเอ้อจะเดินนำทางขึ้นบันไดสูงชันที่เชื่อมไปยังชั้นบนของโรงเตี๊ยม ห้องพิเศษที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างหรูหรานี้ตั้งอยู่บริเวณชั้นบนสุด มอบความเป็นส่วนตัว เห็นวิสัยทัศน์งดงามมองเห็นทั้งตัวเมืองที่พลุกพล่านอยู่ด้านล่าง
ภายในห้องมีเครื่องประดับตกแต่งด้วยผ้าลินินเนื้อดีและโคมไฟแก้วที่สะท้อนแสงส่องประกาย ห้องนี้ถูกจัดให้กับองค์ชายและผู้ติดตามโดยเฉพาะ ภายหลังจากตรวจดูห้องเป็นที่เรียบร้อย เสี่ยวเอ้อจึงกลับลงไปยังโรงครัวเพื่อจัดเตรียมอาหารเลิศรสหลากหลายที่จะนำยกมาต้อนรับอย่างเต็มที่
ขณะเดินผ่านบันไดที่มีแสงไฟสาดส่องลงมา เสี่ยวเอ้อหยุดชะงักครู่หนึ่งเมื่อเห็นหน้าต่างของห้องถัดไปเปิดแง้มอยู่ ในห้องนั้นมีคุณหนูโฉมสะคราญผู้หนึ่งนั่งอยู่ภายใน ใบหน้าหวานสวยสะกดทุกสายตาที่ได้พบเห็น เสี่ยวเอ้อพยักหน้าให้กับนางอย่างนอบน้อมก่อนเดินต่อ
การพยักหน้าครานี้ดูเหมือนเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างที่ทั้งสองนัดแนะแผนการมาอย่างแนบเนียนเรียบร้อยแล้ว
ในห้องพักหรูส่วนตัวซึ่งประดับด้วยผ้าแพรเนื้อดี มีสตรีชุดสีแดงเพลิงร้อนแรง นางกำลังคุกเข่าอยู่หน้าต่างแอบมองสังเกตการณ์ด้วยดวงตาเปี่ยมความปรารถนาแรงกล้า หน้าสละสวยแต่เต็มไปด้วยความคิดร้ายกาจ
นางกำลังวางแผนร้ายบางประการ
สตรีผู้นี้เป็นถึงคุณหนูใหญ่แห่งจวนแม่ทัพใหญ่แห่งชายแดนเหนือ ติงฉินอวี้ บัดนี้คุณหนูโฉมสะคราญนั่งอยู่ตัวคนเดียวโดยมีเงาตัวเองสะท้อนในกระจกตรงหน้า นางยิ้มบางในดวงตาเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่แฝงความร้ายลึก นางเอื้อมมือจับข้อมือเล็กของตนเองแน่น ริมฝีปากเอ่ยออกมาแผ่วเบาทว่าเปี่ยมความมุ่งมั่นความทะเยอทะยานยากจะคาดเดา
“องค์ชายใหญ่...ข้าอยากครอบครองท่านเหลือเกิน หากวิถีทางใดเป็นไปได้ ข้ายินดีเสี่ยงทุกสิ่งเพื่อได้ครอบครองท่าน”
นางยิ้มขมขื่นชั่วแวบหนึ่งเมื่อนึกถึงอนาคตหากตนทำแผนการครานี้ผิดพลาด นางรู้ดีว่าหนทางนี้อาจพาไปสู่หายนะ แต่ความปรารถนาลึกซึ้งนั้นทำให้นางมองข้ามทุกสิ่ง
“ไม่ว่าจะเป็นเกียรติยศ หรือแม้แต่ชีวิตข้าเอง ข้าก็ไม่เสียดาย ขอเพียงได้ครอบครองหัวใจและร่างกายของท่าน... ข้ายอมทำทุกอย่าง”
แผนการของนางครานี้อาจนำพานางไปสู่ชีวิตในวังเคียงข้างองค์ชายใหญ่ในฐานะพระชายาที่นางปรารถนา
แผนของติงฉินอวี้คือการให้คนวางยากำหนัดองค์ชายใหญ่และพาเขาไปพักยังห้องที่จัดเตรียมไว้เพื่อรอนางที่ก็โดนวางยากำหนัดเช่นเดียวกัน
ทว่าเป็นการวางยากำหนัดให้ตนเองเพื่อความแนบเนียน
ติงฉินอวี้หลับตา กัดฟันฝืนความกลัวป้อนเม็ดยาเข้าปากและกลืนลงไป ครั้นหนนี้โชคชะตาไม่เข้าข้างคนชั่วบันดาลความโชคร้ายให้เม็ดยาเม็ดนั้นติดคอทำให้นางขาดอากาศหายใจจากไปในชั่วพริบตา
จากแผนการที่นางทุ่มเทแม้กระทั่งชีวิตจึงกลับกลายเป็นหายนะที่พรากวิญญาณของนางอย่างโหดร้ายแทน
เวรกรรมตามทันรวดเร็วยิ่งนัก
ร่างสตรีคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่เพิ่งสิ้นใจด้วยมือตนเองเริ่มขยับ นิ้วเรียวกระดิก เนื่องจากในร่างเนื้อนั้นมีวิญญาณจากสถานที่อันห่างไกลลอยละล่องเข้ามาสิงสถิตร่างแทนพอดิบพอดีราวกับสวรรค์ลิขิตให้เป็นเช่นนี้
หนึ่งวิญญาณเลื่อนลอยเข้ามาครอบครองมีนามว่าเจียหลาน นักฆ่าสาวจากยุคอนาคต
ที่นี่ที่ไหน?
เจียหลานเริ่มรวบรวมสติ ดวงตาคมกวาดมองรอบข้างอย่างรวดเร็วและระแวดระวังตามสัญชาตญาณของตน
นึกว่าตายไปแล้วเสียอีก
หญิงสาวจำได้ว่าล่าสุดเธอกำลังยืนอ่านหนังสือนิยายเล่มหนึ่งที่หน้าปกมันโบราณอย่างยิ่งเพราะคิดว่าหนังสือเล่มนี้มีความสำคัญต่อเป้าหมายในภารกิจตนเอง
ทว่า...
พอยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าตนเองกำลังทำเรื่องไร้สาระที่สุดในชีวิตอยู่
หนังสือนิยายรักเล่มนี้ช่างน้ำเน่ายิ่งนัก
น้ำเน่าตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว...องค์ชายใหญ่หลงรักคุณหนูคนงาม
ระหว่างที่กำลังปิดหนังสือเล่มนั้นหลังจากรู้สึกเสียดายเวลาที่อุตส่าห์อ่านจนจบเรื่อง ตอนนั้นเองก็มีแสงจ้าออกมาจากหนังสือเล่มนั้น พร้อมกับความเจ็บปวดทรมาน เวียนหัวจนสิ้นสติรับรู้ในที่สุด
ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง
เจียหลานฟื้นขึ้นมาในร่างของสตรีบทบาทนางร้ายในนิยายที่เธอหลวมตัวไปอ่าน ทุกอย่างชัดเจนราวฟ้าเปิดความทรงจำจากโลกเก่าผสานกับความทรงจำต่าง ๆ ของนางร้ายที่นางเพิ่งกระทำไปล่าสุด
เนื่องจากความทรงจำของร่างนี้ไหลพรั่งพรูเข้ามาเหมือนกระแสน้ำล้นทะลักดังนั้นจึงทำให้เจียหลานรู้ได้ทันทีว่าสตรีผู้นี้กำลังคิดสั้น สมองหมูยิ่ง ตั้งใจนำตนไปประเคนให้องค์ชายใหญ่ซึ่งเป็นตัวละครพระเอกในนิยายเรื่องนี้
เจียหลานจำได้ว่าตัวร้ายผู้นี้จะมีจุดจบน่าอนาถขนาดไหนหลังจากบรรลุเป้าหมายอันบ้าคลั่งนี้ไปแล้ว
"บ้าจริง จะให้นี่กลายเป็นจุดจบของฉันไม่ได้เด็ดขาด !”
เจียหลานบ่นรำพึงกับตัวเองพลางลูบไล้เนื้อกายของร่างนี้ที่มันร้อนรุ่มโดยไม่อาจหักห้ามได้ นางสัมผัสถึงร่างกายที่ถูกกระตุ้นอย่างแปลกประหลาด จิตใจกำลังสับสนแปรปรวน
“อ่า...”
เพื่อเรียกสติเจียหลานหยิบส้อมใกล้มือมาแทงฝ่ามือตนเองทำให้เกิดบาดแผลขนาดใหญ่ มือบางควานหาผ้าแถวนั้นมาพันลวก ๆ นางหวังว่าสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดนี้จะเพียงพอที่จะทำให้นางหลบหนีออกจากสถานการณ์นี้ได้
ร่างบางพยายามรีบพาตัวเองออกจากห้องนั้น พยายามอย่างยิ่งที่จะหลบหนีออกจากโรงเตี๊ยมหรูที่องค์ชายใหญ่มาพักโดยไม่ให้ผู้ใดพบเห็น
