นางร้าย : 6
ตอนที่ 3 : ผงเจ็ดราตรี
“ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดีกับข้าที่สุด แต่ราชโองการของเสด็จพ่อ ข้าหรือจะกล้าขัด”
หลัวอี้เฟิงผละอ้อมกอดนั้นออกช้า ๆ เพื่อใช้แววตาที่แสนอบอุ่นจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสดใสของรั่วอิงเหยา
ทำเป็นอ้างราชโองการของฝ่าบาทที่ไม่ว่าผู้ใดก็ขัดไม่ได้เพื่อให้ตนเองดูดี คิดหรือว่านางจะมองไม่ออกว่าเขาคาดหวังอะไร
“ขอเพียงองค์ชายใหญ่ซื่อสัตย์และไม่หลอกลวงหม่อมฉัน ชีวิตของเชียนเชียนก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้วเพคะ”
น้ำเสียงนางบ่งบอกว่าต้องการข่มขวัญหลัวอี้เฟิงให้คล้อยตามสิ่งที่นางต้องการ
คนฉลาดอย่างเขามีหรือจะดูไม่ออก
“ข้ารับปากเจ้าทุกอย่างขอเพียงช่วยชิงเอ๋อร์ให้ฟื้น และเข้าร่วมพิธีอภิเษกให้ทัน”
พิธีอภิเสกสมรสของทั้งสองจะเกิดขึ้นในอีกห้าวัน หากรั่วอิงเหยาช่วยว่าที่พระชายาฟื้นได้ก็จะไม่ถูกลงโทษ แต่มีหรือคนอย่างหลัวอี้เฟิงจะปล่อยนางขัดความความสุขของพวกเขาต่อ
“หม่อมฉันขอรางวัลหนึ่งอย่างจากพระองค์ ไม่ทราบว่าทรงอนุญาตหรือไม่เพคะ”
“เจ้าอยากได้รางวัลอะไรข้าให้ได้หมด ขอเพียงช่วยชิงเอ๋อร์ให้ฟื้น”
ช่างรักกันเสียจริง แต่ก็ถูกแล้วนี่เพราะหลัวอี้เฟิงกับรั่วเชียนชิงคือ พระเอก นางเอก ในนิยายของนาง
“รอหม่อมฉันช่วยน้องหญิงฟื้นแล้วจะทูลขอรางวัลทีหลังเพคะ”
หลัวอี้เฟิงหรี่ตามองสตรีเจ้าแผนการณ์ตรงหน้าที่จ้องตาเขาไม่กะพริบ
“ได้ ข้ารับปากเจ้า”
แม้จะไม่รู้ว่ารั่วอิงเหยาจะขออะไรจากเขา แต่การเดิมพันครั้งนี้ ต่อให้รั่วอิงเหยาขอให้เขายกเลิกงานแต่งกับฝ่าบาท เขาก็มีทางออกให้ตนเองแน่
“ขอบพระทัยองค์ชายใหญ่”
หึ! ไม่ต้องกังวลว่าฉันจะขอให้ยกเลิกงานแต่งหรอก ฉันข้ามมิติมาครั้งนี้ต้องการแค่ให้รั่วอิงเหยามีบทบาทในนิยายเรื่องนี้ต่อไปจนกว่าจะหาทางกลับโลกของฉันได้
“องค์ชายใหญ่เชิญเสด็จเพคะ”
ตอนนี้นางอยากจะเห็นหน้าตานางเอกในนิยายตัวเองแทบใจจะขาดแล้ว
เรือนไฉ่รั่ว
องค์ชายใหญ่หลัวอี้เฟิงพารั่วอิงเหยามายังเรือนไฉ่รั่วในตำหนักอี้คุน
ทันทีที่รั่วอิงเหยาเข้ามาในห้องนางถึงกับตะลึงในความงามของรั่วเชียนชิงที่ถูกปั้นแต่งขึ้นจากตัวอักษรของนางเอง
“สวย สมแล้วที่เป็นนางเอกของฉัน”
รั่วอิงเหยาเก็บคำชื่นชมนั้นไว้ในใจไม่อยู่ถึงกับพึมพำออกมาเบา ๆ
“เจ้าพึมพำอันใด ชิงเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง”
“หม่อมฉันขอตรวจชีพจรน้องหญิงก่อนเพคะ”
โชคดีที่มารดาของรั่วอิงเหยาเป็นลูกหลานของตระกูลท่านหมอนางจึงมีความรู้วิชาแพทย์ติดตัวมาบ้างจากการสั่งสอนของมารดา 'ปิงเซียวหลัน' ตั้งแต่เด็ก
“ตอนนี้ผงเจ็ดราตรีเข้าสู่กระแสเลือดแล้วต้องปล่อยให้ยาหมดฤทธิ์เองเพคะ”
“จะให้รอถึงเจ็ดวันได้อย่างไร!”
รั่วอิงเหยาสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงตวาดเมื่อครู่ขององค์ชายใหญ่
“ข้าขอโทษ ข้าร้อนใจเกินไป”
มือหนาเอื้อมมาแตะไหล่บางเบา ๆ เป็นการปลอบขวัญ
ทำไมนางจะไม่รู้เหตุใดเขาถึงร้อนใจหากรั่วเชียนชิงฟื้นมากราบไหว้ฟ้าดินให้เขาไม่ทัน
นั่นเพราะการอภิเษกสมรสครั้งนี้มีผลต่อตำแหน่ง 'รัชทายาท' ที่ฮ่องเต้ฉีเฟิงหยวนแห่งราชวงศ์หลัวยังไม่แต่งตั้งผู้ใดอย่างไรเล่า
“อิงเหยามีอีกวิธีที่จะช่วยน้องหญิงฟื้นทันกราบไหว้ฟ้าดินกับพระองค์เพคะ”
“วิธีอะไร”
“หม่อมฉันเคยได้ยินจากท่านตาว่ามียาชนิดหนึ่งสามารถช่วยให้คนตายฟื้นได้ เรียกว่า ยาชุบชีวิต”
“ชิงเอ๋อร์ยังไม่ตาย!”
น้ำเสียงนั้นบ่งบอกว่าเขาเคืองรั่วอิงเหยามากที่กล่าวหาว่าว่าที่พระชายาของตนเป็นคนตายไปแล้ว
“เพราะน้องหญิงยังไม่ตายถึงใช้ยานี้ได้เพคะ”
ตกลงว่าเป็นยาของคนตายหรือคนเป็นกันแน่
“องค์ชายใหญ่เคยเห็นคนตายฟื้นคืนชีวิตได้หรือเพคะ”
หลัวอี้เฟิงคิดและตอบในใจว่าไม่เคยได้ยินข่าวลือใดเกี่ยวกับคนตายแล้วฟื้นเพราะยาวิเศษมาก่อน
“นั่นเพราะยานั้นตั้งชื่อสวยหรูเพื่อให้คนคิดว่าคือยาวิเศษของเหล่าเทพเซียน แต่ความจริงเป็นเพียงยาที่ช่วยให้คนหลับใหลจากผงเจ็ดราตรีฟื้นเท่านั้น”
