บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 ชีวิตในร่างใหม่

ความมืดมิดจางหายไปช้าๆ หลิวซินเยว่รู้สึกเหมือนศีรษะหมุนเคว้งคว้าง ดวงตาพร่ามัวค่อยๆ ปรับโฟกัส เธอลืมตาขึ้นมาพบกับแสงสลัวๆ เพดานสูงที่ดูแปลกตา

“ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย” เธอพึมพำกับตัวเอง พยายามขยับตัว แต่กลับรู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้งผิดแปลกไปจากเดิม

เสียงโหวกเหวกโวยวายดังเข้ามากระทบโสตประสาท ร่างบอบบางขยับลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล ภาพเบื้องหน้าคือฉากกองถ่ายละครที่ดูไม่คุ้นตา นักแสดงหญิงชายในชุดจีนโบราณกำลังยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ เสียงเอะอะมะเทิ่งของทีมงานที่กำลังจัดแสงจัดฉากทำให้เธอรู้สึกปวดศีรษะ

ชุดที่เธอสวมอยู่ตอนนี้ไม่ใช่กี่เพ้าสวยหรู แต่เป็นชุดทาสหญิงสีทึมๆ ที่ทั้งเก่าและขาดวิ่น

“นี่มันอะไรกัน” หลิวซินเยว่ขมวดคิ้วแน่น หรือนี่จะเป็นส่วนหนึ่งของรายการสารคดีที่เธอไปถ่ายทำงั้นหรือ รายการ ‘ลมหายใจแห่งอดีต’ อาจจะต้องการสร้างสถานการณ์จำลองขึ้นมาเพื่อทดสอบปฏิสัมพันธ์ของดาราในยุคโบราณกระมัง

ทันใดนั้น เสียงแหลมสูงก็ดังขึ้นข้างหู

“เจียงหมิ่น! ทำไมยังนั่งโง่ๆ อยู่ตรงนั้น รีบมาได้แล้ว ทุกคนรอเธอคนเดียว”

เธอหันไปมอง พบกับนักแสดงสาวคนหนึ่ง ใบหน้างดงามแต่แฝงด้วยแววหยิ่งยโส เธอคนนั้นสวมชุดที่หรูหราอลังการ แลดูสง่างามราวกับเทพธิดา กำลังกอดอกจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาเหยียดหยาม

“อะไรนะ... เจียงหมิ่นเหรอ” หญิงสาวทวนคำ เธอไม่รู้จักชื่อนี้มาก่อน แต่ทันทีที่ชื่อนั้นหลุดออกมาจากปากของนักแสดงหญิง ร่างกายของเธอก็เหมือนถูกผลักให้ลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติ ราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่ร่างนี้เคยทำอยู่เป็นประจำ

“เธอจะยืนอ้ำอึ้งอีกนานไหม รีบมาได้แล้ว บทแค่เดินผ่านกล้องเธอยังเล่นไม่ได้เรื่อง” นักแสดงหญิงคนนั้นแว้ดเสียงขึ้นอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มเยาะ

ในฐานะซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งที่ผ่านงานแสดงมานับไม่ถ้วน หลิวซินเยว่ไม่เคยถูกใครดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้มาก่อน เธอคิดว่านี่คือการแสดงเพื่อแกล้งเธอเป็นแน่ ยิ่งเห็นรอยยิ้มเยาะหยันบนใบหน้าของนักแสดงหญิงคนนั้น เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ

“นี่มันเกินไปแล้วนะ” หลิวซินเยว่สวนกลับเสียงดัง ดวงตาฉายแววไม่พอใจอย่างเปิดเผย

“แค่ถ่ายรายการทำไมต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้ ฉันไม่จำเป็นต้องเดินผ่านกล้องก็ได้ ฉันคือหลิวซินเยว่ ฉันคือนางเอก” สิ้นเสียงของเธอ บรรยากาศรอบๆ ก็เงียบกริบ ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอด้วยแววประหลาดใจระคนงุนงง ก่อนที่เสียงหัวเราะคิกคักจะดังขึ้นตามมา และค่อยๆ กลายเป็นเสียงหัวเราะเยาะกันทั้งกองถ่าย

“ฮ่าๆ นางเอกเหรอ เจียงหมิ่นเพี้ยนไปแล้ว”

“นี่เธอเมาอะไรมาหรือเปล่า”

“หลิวซินเยว่บ้าอะไร ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ในวงการ” เสียงรอบตัวของเธอดังขึ้น

นักแสดงหญิงคนที่รับบทนางเอกเดินเข้ามาใกล้ จ้องมองเธอด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยามยิ่งกว่าเดิม

“เจียงหมิ่น เธอคงอยากดังจนเพี้ยนไปแล้วใช่ไหม เธอเป็นแค่ตัวประกอบ ไม่มีแม้แต่บทพูด กล้าดียังไงมาบอกว่าตัวเองเป็นนางเอก”

ผู้กำกับที่ยืนอยู่ไม่ไกลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“พอได้แล้ว พอเลย เจียงหมิ่น ถ้าเธอไม่อยากแสดงก็กลับไป ฉันไม่เอาคนไร้ความสามารถแบบเธอมาร่วมงานอีกแล้ว”

คำพูดของผู้กำกับเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของหลิวซินเยว่ เธอถูกไล่ออกจากกองถ่ายอย่างนั้นหรือ นี่ไม่ใช่การแสดงแกล้งกัน และที่สำคัญกว่านั้น ทำไมทุกคนถึงเรียกเธอว่า เจียงหมิ่น

หญิงสาวรีบวิ่งออกห่างจากผู้คนเหล่านั้นไปยังมุมอับสายตา มือเรียวสวยยกขึ้นสัมผัสใบหน้าของตัวเอง ความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ยังคงชัดเจน เธอวิ่งไปที่กระจกบานเล็กๆ ที่มีคนวางทิ้งไว้ ภาพที่สะท้อนกลับมาไม่ใช่ใบหน้าของเธอ แต่เป็นใบหน้าของหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ใบหน้าซีดเซียว ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว และริมฝีปากที่สั่นระริก

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ความทรงจำสุดท้ายของเธอคือแผ่นดินไหวที่หมู่บ้านหลงซาน แล้วตอนนี้เธอมาอยู่ที่ไหน แล้วนี่คือปีอะไร

เธอรีบควานหาโทรศัพท์มือถือที่เคยเหน็บอยู่ในกระเป๋ากี่เพ้า แต่ก็ไม่พบอะไรเลยแม้แต่น้อย สายตาเหลือบไปเห็นหนังสือพิมพ์เก่าๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ เธอหยิบมันขึ้นมาอ่านด้วยมือที่สั่นเทา พาดหัวข่าวใหญ่เขียนไว้ว่า ‘ปี 1985 วงการภาพยนตร์จีนกลับมาคึกคักอีกครั้ง’

“ปี 1985... แผ่นดินไหว ย้อนเวลา ร่างกายของคนอื่น... นี่มันพล็อตละครข้ามเวลาชัดๆ” ริมฝีปากของเธอพึมพำเสียงสั่น

ข้อมูลที่รับรู้ประเดประดังเข้ามาในสมองของหลิวซินเยว่พร้อมกัน เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนคว้าง ความจริงที่ว่าเธอตายไปแล้วในเหตุแผ่นดินไหวถาโถมเข้าใส่ แม้ไม่อยากเชื่อ

หญิงสาวสูดหายใจเฮือกใหญ่ พยายามจะควบคุมสติที่กำลังเตลิด แต่แล้วทุกสิ่งก็มืดดับไปในพริบตา ร่างกายที่เป็นของเจียงหมิ่นโอนเอนล้มลงไป

ก่อนที่ร่างของเธอจะกระแทกพื้นแข็งๆ แขนที่แข็งแรงคู่หนึ่งก็ยื่นมารับร่างของเธอเอาไว้ได้ทันพอดิบพอดี

เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ หญิงสาวค่อยๆ รู้สึกตัวอีกครั้ง เธอพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง มองสำรวจรอบกาย พบว่าห้องพักเล็กๆ นี้ดูเก่าซอมซ่อ ผนังห้องมีรอยเปื้อนดำ มีเตียงนอนไม้เก่าๆ และโต๊ะเขียนหนังสือตัวเล็กๆ และตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้บานเปิด เธอรู้สึกได้ถึงความคับแคบและอ้างว้างของสถานที่แห่งนี้

ทันใดนั้น ภาพและความทรงจำมากมายก็ทะลักเข้ามาในสมองของเธอราวกับเขื่อนที่พังทลาย มันไม่ใช่ความทรงจำของหลิวซินเยว่ แต่เป็น ความทรงจำของเจียงหมิ่น เจ้าของร่างที่เธอเข้ามาสิงสู่

เจียงหมิ่น เด็กสาวที่ถูกครอบครัวรังแก เธอต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง ความฝันเดียวของเธอคือการได้เป็นนักแสดง เพื่อที่จะได้หลุดพ้นจากชีวิตที่ยากลำบาก

แต่ความเป็นจริงกลับโหดร้าย เธอไม่เคยได้รับบทดีๆ มีแต่บทตัวประกอบที่แทบจะไม่มีตัวตน ถูกคนอื่นเหยียดหยาม ดูถูก ไม่ได้รับความเคารพจากใครเลย เงินทองก็ร่อยหรอ ชีวิตของเจียงหมิ่นเต็มไปด้วยความเดียวดายและความสิ้นหวัง เธอมักจะถูกนักแสดงคนอื่นรังแกและแกล้งอยู่เสมอ เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในกองถ่ายเมื่อครู่

ความทรงจำเหล่านั้นทำให้หลิวซินเยว่รู้สึกเจ็บปวดแทน แม้เธอจะไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความรันทดของเด็กสาวคนนี้

“ช่างน่าสงสารเหลือเกิน” เธอพึมพำ

ตอนนั้นประตูห้องไม้เก่าๆ เปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามีรูปร่างผอมสูง ท่าทางซุ่มซ่ามเล็กน้อย สวมเสื้อเชิ้ตเก่าๆ และกางเกงขายาวที่ดูเหมือนจะไม่ได้รับการดูแล ผมเผ้ายุ่งเหยิง ดวงตาของเขาดูอ่อนโยน แต่แฝงแววเหนื่อยล้าและท้อแท้

เขาคือ หลี่หมิงเหว่ย อาชีพเขียนบทละคร เขาเป็นคนหนึ่งที่ถูกมองว่าเป็นผู้แพ้ไม่ต่างจากเจียงหมิ่น บทละครที่เขาเขียนไม่เคยได้รับการยอมรับ ถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เขามักจะถูกคนในวงการดูถูกเหยียดหยามเช่นกัน

หลี่หมิงเหว่ยเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็ก และมีจิตใจที่ชอบเพศเดียวกัน แต่ด้วยยุคนั้นไม่เป็นที่ยอมรับ เขาจึงต้องปิดทุกอย่างไว้เป็นความลับ และมีเพียงเพื่อนสนิทอย่างเจียงหมิ่นเท่านั้นที่เข้าใจ

เขามีความฝันอยากเป็นนักเขียนบทละครชื่อดัง ในขณะที่เจียงหมิ่นมีแต่ความฝันที่จะได้เป็นนักแสดงและเข้าใกล้จางเหล่ย พระเอกชื่อดังที่เป็นขวัญใจของเธอ ทั้งสองช่วยเหลือและให้กำลังใจกันเท่าที่จะทำได้

เมื่อหลี่หมิงเหว่ยเห็นว่าเธอตื่นขึ้น เขาก็รีบเดินเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง

“อาหมิ่น เธอฟื้นแล้วเหรอ ฉันตกใจแทบแย่เมื่อเห็นเธอเป็นลมไป”

หญิงสาวหันไปมองเขา ใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้ดูอ่อนโยนและจริงใจ เธอจำได้ว่าเขาคือคนที่ช่วยประคองร่างเธอไว้ในตอนที่เธอล้มลงในกองถ่าย

ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอต้องการที่พึ่งพิง และเขาคนนี้ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ ถึงแม้ว่าในความทรงจำของเจียงหมิ่น ชายหนุ่มผู้นี้จะเป็นเพียงคนไร้ความสามารถและไม่ได้รับการยอมรับ แต่สำหรับเธอในตอนนี้ เขากลับกลายเป็นคนสำคัญที่จะช่วยให้เธอปรับตัวเข้ากับยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยนี้ได้

“อืม ฉันฟื้นแล้วอาเหว่ย ขอบใจนายมากนะที่ช่วยฉันไว้” เธอตอบเสียงเบา รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเธอ

หลังจากนี้ไปเธอคือ เจียงหมิ่น และจะใช้ชีวิตใหม่นี้ให้ดี

************************
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel