เมื่อความรัก ถูกพัดพามาหาเธอ

17.0K · จบแล้ว
NAMIKA
9
บท
458
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

รักแท้วนเวียนอยู่รอบตัวแท้ๆ แต่เธอกลับมองไม่เห็นมัน เรื่องย่อ : ทุกบริษัทย่อมมีหนุ่มสุดฮอตประจำถิ่น ที่นี่เองก็เช่นกัน แม้จะเป็นบริษัทใหญ่มีพนักงานนับพันชีวิต ในทุกอาทิตย์มักมีกลุ่มคนที่ไม่ผ่านช่วงทดลองงาน หรือทนแรงกดดันไม่ไหว เปลี่ยนผ่านออกไปและมีคนใหม่เข้ามาแทนที่ ทว่ากลับไม่มีใครล้มล้างตำแหน่งหนุ่มฮอตของที่นี่ได้เลยสักคน คิมหันต์และเหมันต์ สองพี่น้องฝาแฝด หนุ่มโสดวัยยี่สิบกลางๆ เข้ามาทำงานได้เพียงแค่สามปีเท่านั้น แต่พวกเขากลับมีเสน่ห์ดึงดูดอันเหลือร้าย ทำเอาสาวน้อยใหญ่ทั้งนอกและในบริษัท ต่างหลงใหลกัน หัวปักหัวปำ ด้วยรูปร่างหน้าตาโดดเด่นประหนึ่งนายแบบระดับโลก และบุคลิกที่แตกต่างกันสุดขั้วนั้น ทำให้ทั้งคู่ถูกขนานนามว่าแฝดคนละฝา ‘คิมหันต์’ คือหัวหน้าแผนกไอที เป็นหนุ่มเจ้าสำอาง ขี้เล่น และอัธยาศัยดี เขายิ้มแย้มแจ่มใส และมักมีน้ำใจให้เพื่อนร่วมงานทุกคนเสมอ ทุกครั้งเวลายิ้มราวกับโลกอันมืดมน กลับสดใสขึ้นมาทันที น้ำเสียงทุ้มละมุนฟังรื่นหู ไม่เคยมีใครได้ยินเขาพูดคำหยาบเลยสักครั้ง มีมารยาทและถ่อมตัวสุดๆ ตัดภาพมาที่แฝดคนน้อง ‘เหมันต์’ หัวหน้าแผนกเอนจิเนียร์ นิสัยต่างจากพี่ชายซึ่งคลานตามกันมาราวฟ้ากับเหว เขามักปั้นหน้า เคร่งขรึมจริงจัง คล้ายมีเรื่องเครียดอยู่ตลอดเวลา ไม่ค่อยชอบเสวนากับใครสักเท่าไหร่ เวลามีคนเข้าไปพูดคุยด้วย จะเป็นประเภทถามคำตอบคำ แต่หากสนทนาเรื่องงานเหมันต์จะจ้อไม่หยุด ราวกับว่าชีวิตนี้เขาสนใจเพียงแค่งานเท่านั้น ที่สำคัญชอบเสียงดังกระโชกโฮกฮาก ด่ากราดไม่สนหน้าอินทร์พรหมที่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับดูหล่อแบบหนุ่มแบดบอย สาวๆ เกือบค่อนบริษัท ก็ยังมีความคิดว่าอยากพลีกายให้ผู้ชายคนนี้อยู่ดี ทว่าหนึ่งในนั้นไม่ใช่ ‘พริกหวาน’ สาวฝ่ายบุคคลแสนน่ารักแต่กลับขี้อายพอตัว เธอเป็นคนเรียบร้อยนิ่มนวล จึงมีความคิดว่าผู้ชายที่เหมาะสมกับตน ต้องออกแนวไปทางคิมหันต์ สุภาพบุรุษย่อมต้องคู่กับสุภาพสตรี ไม่ใช่คนเถื่อนอย่างเหมันต์ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่า... สิ่งที่วาดฝันไว้กับความเป็นจริง มันช่างสวนกันไปคนละทาง ฟ้ากลั่นแกล้งหรือโชคชะตาเล่นตลก ให้สุภาพสตรีอย่างพริกหวาน ต้องมาตกกระไดพลอยโจน มีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับเหมันต์ ทั้งๆ ที่เป้าหมายที่เธออุตส่าห์วางเอาไว้นั้น มันต้องเป็นคิมหันต์ถึงจะถูก

นิยายรักโรแมนติกฟินๆโรแมนติก18+

1

“ไงหวาน”

เสียงทุ้มละมุนดังขึ้นจากทางด้านหลัง ส่งผลให้คนตัวเล็ก ซึ่งกำลังจะก้าวเดินเข้าไปในกล่องโดยสารสี่เหลี่ยม ชะงักเท้าและหันกลับไปมอง

“คิม...”

เมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงที่เอ่ยคำทักทายนั้น เป็นผู้ชายซึ่งตัวเองกำลังแอบชอบอยู่ พริกหวานถึงขั้นเกิดอาการหัวใจสั่นไหว ประหม่าขึ้นมาเอาเสียดื้อๆ

“วันนี้ก็ออกไปทำงานเช้าเหมือนเดิมเลยนะ”

คิมหันต์เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมรอยยิ้ม ยกมือขึ้นกันประตูลิฟต์ ซึ่งกำลังจะปิดให้เปิดอ้าออกอีกครั้ง

และเหมือนพริกหวานจะหลุดออกจากภวังค์ จึงก้าวเท้าเดินเข้าไปในด้านใน โดยมีคิมหันต์ตามเข้ามายืนขนาบข้างติดๆ

บทสนทนาทำท่าจะจบลง เพราะคนถูกทักไม่รู้จะตอบอะไรกลับ พริกหวานกำลังเขินอายหนักมาก จนสมองประมวลผลอะไรไม่ทัน

ตั้งแต่ตามเขาย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกัน นี่เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีที่คิมหันต์เอ่ยทักเธอก่อน

ปกติเวลาเจอหน้ากัน ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตั้งใจสร้างสถานการณ์ พริกหวานจะเป็นฝ่ายแสดงการทักทาย ผู้ชายที่เธอแอบชอบด้วยรอยยิ้มก่อนเสมอ ส่วนคิมหันต์จะตอบรับกลับ ด้วยรอยยิ้มที่ดูคล้ายว่าตามมารยาท

พริกหวานแอบเข้าใจว่าคิมหันต์ไม่รู้จักชื่อเธอด้วยซ้ำ แต่ในวันนี้เขาทำให้เธอเกิดอาการดีใจจนเพ้อฝัน ไปถึงขั้นเข้าประตูวิวาห์กันแล้ว เพราะคิมหันต์เรียกชื่อเธอถูก แถมยังเป็นฝ่ายทักทายเธอก่อนอีกต่างหาก

เท่ากับว่าความพยายามทั้งหมดที่ทำมา ไม่ว่าจะเป็นการย้ายตามมาอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้ได้มีโอกาสอยู่ในสายตา เฝ้าสังเกตเวลาออกไปทำงาน เพื่อตามส่งยิ้มทักทายในทุกเช้า

หรือการรอกลับบ้านพร้อมเขาในทุกๆ เย็น มันได้ประสบผลสำเร็จ อย่างนี้ตำแหน่งคนรู้ใจของหนุ่มฮอตประจำบริษัท คงไม่พ้นต้องตกเป็นเธออย่างแน่นอน

“เหมือนช่วงนี้หวานจะดูน่ารักขึ้นนะ”

บทสนทนาที่ทำท่าว่าจะจบลงไปแล้ว กลับถูกสานให้ดำเนินต่อ เมื่อคิมหันต์เป็นฝ่ายเริ่มชวนหญิงสาว ซึ่งกำลังยืนอยู่ข้างๆ คุยอีกครั้ง

“ห๊ะ? เอ่อ...”

และอีกครั้งที่พริกหวานตั้งหลักไม่ทัน เธอคิดว่าตัวเองคงชวดโอกาสพูดคุยกับคิมหันต์ จึงทำใจปล่อยผ่าน และตั้งใจว่ารอบหน้า จะวางแผนคิดบทสนทนาเตรียมเอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ช็อตไมค์เช่นนี้อีก

“เปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์แทนแล้วเหรอ?”

คิมหันต์หันไปจ้องพริกหวานตรงๆ และด้วยความที่เป็นคนตัวสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบห้า จึงต้องโน้มกายลงมาพอสมควร เพื่อดูหน้าคนที่มีความสูงเพียงแค่หัวไหล่เขาใกล้ๆ

“ชะ ใช่...”

ดวงตาคมซึ่งกวาดมองไปมา ระหว่างดวงตากลมใสทั้งสองข้าง อีกทั้งระยะใกล้ชิดกว่าปกติ ส่งผลให้พริกหวานยืนเกร็งตัวแข็งทื่อ สองมือขยุ้มกระโปรงตัวเองจนยับยู่ยี่ไปหมด

พวงแก้มขาวเนียนซึ่งทาบรัชสีชมพูอ่อนๆ เห่อแดงทะลุเครื่องสำอางออกมา เลือดลมภายในกายสูบฉีดรุนแรง จนรู้สึกได้ถึงความร้อน ซึ่งแล่นวูบวาบไปทั่วทั้งร่างกาย

“หวานเหมาะกับการแต่งหน้าแต่งตัวลุคนี้มากนะ คิมชอบ”

ไม่เพียงแค่เอ่ยคำชมเชย คิมหันต์ยังขยิบตาข้างหนึ่งพร้อมคลี่ยิ้มละมุนให้อีก แล้วอย่างนี้มีหรือที่พริกหวานจะต้านทานได้ วิญญาณเธอได้หลุดลอยออกจากร่าง ไปเป็นที่เรียบร้อย

‘คิมชอบ...’

คำนี้มันดังก้องอยู่ในโสตประสาทของพริกหวาน กังวานไปจนถึงขั้วหัวใจ สายตาพร่าเบลอ ทว่ากลับเห็นใบหน้าของคิมหันต์ชัดเจน จินตนาการพลุ่งพล่านไปถึงไหนต่อไหน

สองปีแล้วที่พริกหวานแอบชอบผู้ชายคนนี้ ไม่เคยมีวี่แววหรือสัญญาณใดๆ ว่าเขาจะหันมาสนใจเธอกลับ คิมหันต์เป็นมิตรกับทุกคน ใส่ใจและให้ความสำคัญกับสาวๆ เท่าเทียมเสมอภาค ไม่มีใครดูพิเศษไปกว่าใครทั้งสิ้น

แต่จู่ๆ ว่าวันนี้เขากลับทำตัวใกล้ชิด และปากหวานอย่างผิดสังเกต ไหนจะคำว่า ‘ชอบ’ นั่นอีก แล้วจะไม่ให้เธอมโนไปจนถึงงานแต่งงานได้อย่างไร

ไม่อยากจะเชื่อว่าเพียงแค่ลองเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว ใส่กระโปรงสั้นขึ้น เสื้อรัดรูปและดูแฟชั่นขึ้น ย้อมผมสีสว่างพร้อมดัดลอนส่วนปลายเบาๆ แต่งหน้าอีกนิดหน่อย และเปลี่ยนจากสวมแว่นตามาใส่คอนแทคเลนส์แทน จะทำให้เพื่อนร่วมงานหลายๆ คนเกิดการฮือฮา แถมเทพบุตรที่ใฝ่ฝันหันมาสนใจได้

ถ้าการแต่งหน้าแต่งตัวแล้วมีโอกาสได้ผู้ รู้แบบนี้เธอน่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อมานานขนาดนี้หรอก

ใบหน้าเหวอๆ เอ๋อๆ สร้างความนึกเอ็นดูให้กับคิมหันต์ เขาทำท่าจะยกมือข้างหนึ่ง ขึ้นไปแตะสัมผัสศีรษะคนตัวเล็ก ทว่าประตูลิฟต์ที่ปิดสนิทอยู่ในคราแรกกลับเปิดออก พร้อมผู้ชายอีกคน ซึ่งหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันกับเขาไม่มีผิดเพี้ยน ยืนปรากฏกายอยู่ด้านนอก

เหมันต์ที่กำลังเมาขี้ตา ยืนมองพี่ชายฝาแฝดตัวเอง สลับกับพริกหวานไปมาด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนเดินเข้ามายืนแทรกตรงกลางระหว่างทั้งคู่อย่างไร้มารยาท ทำลายจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มจนพังทลาย

“รีบนักรีบหนา ออกมาก่อนตั้งนานมัวทำห่าอะไรอยู่?”

เหมันต์เปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงคล้ายขุ่นเคือง ขณะนิ้วมือเอื้อมไปจิ้มหมายเลขชั้นที่ตนต้องการ

ประตูลิฟต์ค่อยๆ เลื่อนปิดลงจนสนิท บรรยากาศโดยรอบเริ่มอึมครึมอึดอัดโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า มันหวานหอมตลบอบอวลไปด้วยความน่ารัก

การเคลื่อนที่ของตู้โดยสารสี่เหลี่ยม จากชั้นยี่สิบสี่ลงมาชั้นล่างสุด ควรใช้เวลาไม่เกินห้านาทีด้วยซ้ำ ทว่าตอนนี้พริกหวานรู้สึกราวกับว่า เธอยืนอยู่ตรงนั้นนานนับชั่วโมง

เพียงแค่ได้เห็นหน้าเหมันต์ ความรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านพลันปรากฏอย่างไม่มีสาเหตุ อยากไปพ้นๆ จากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ทั้งๆ ที่พวกเขาก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน แต่พริกหวานกลับรู้สึกเกลียดเหมันต์เข้าไส้

คนตัวเล็กขยับกายเข้าหาผนังลิฟต์ ด้านซ้ายมือตัวเองจนเกือบชิด ใช้หางตากวาดมองเหมันต์ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ด้วยแววตาซึ่งบ่งบอกชัดเจนว่าไม่ชอบขี้หน้าอีกฝ่าย

ผมสีดำสนิทดูยุ่งเหยิงคล้ายใช้มือสางแทนหวี ชุดหมีซึ่งเป็น

ยูนิฟอร์มบริษัทดูไร้ความเรียบร้อย ซิบถูกรูดขึ้นไม่ถึงกลางอกด้วยซ้ำ เผยให้เห็นเสื้อยืดสีขาวบางๆ ด้านใน จนมองทะลุเห็นกล้ามเนื้อหนั่นแน่น รองเท้าผ้าใบก็ใส่เหยียบส้น ไหนจะหัวตาที่ยังมีขี้ตาเกาะอยู่นั่นอีก นี่เขาได้อาบน้ำเช้าก่อนออกห้องมาหรือเปล่านะ

ผิดแผกแตกต่างไปจากแฝดผู้พี่อย่างสิ้นเชิง คิมหันต์เรียบร้อยดูดี ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายรองเท้าหนังมันวับ เขาใส่ใจทุกรายละเอียดของร่างกายตัวเอง เซ็ทผมให้เป็นทรงเหมาะกับใบหน้า เสื้อผ้าเรียบกริบนุ่งทับในเรียบร้อย แถมกลิ่นตัวยังหอมอ่อนๆ อีก

ถ้าจะเหมือนกันแค่หน้าตา ไม่น่าเกิดมาเป็นพี่น้องฝาแฝดกันได้เลยจริงๆ

พริกหวานยืนด่าเหมันต์อยู่ในใจ จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก แต่แทนที่คนซึ่งยืนอยู่ตรงกลาง จะเป็นฝ่ายเดินออกไปก่อน ทว่ากลับยืนนิ่งเฉยจนประตูลิฟต์ทำท่าจะปิดลง

คิมหันต์จึงต้องเป็นฝ่ายเบี่ยงกายหลบเดินออกไปแทน โดยมีพริกหวานเดินตามหลังออกไปสมทบ เหมันต์ถึงจะยอมเดินรั้งท้ายตามออกมา

ด้วยความที่คอนโดของพวกเขา อยู่ถัดจากที่ตั้งบริษัทเพียงแค่สามช่วงตึก ทั้งสามจึงมาทำงานโดยวิธีการเดินเท้า ใช้เวลาเพียงแค่ห้านาทีก็สามารถไปถึงที่ทำงาน แต่ในระหว่างทาง อาจมีแวะซื้อกาแฟที่ร้านข้างบริษัทดื่มแก้อาการง่วงงัน

เช้านี้ก็เช่นกัน เป็นปกติที่คิมหันต์และพริกหวานจะต้องแวะ ทว่ากลับมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อเหมันต์ที่ต่อต้านคาเฟอีนขั้นสุด อาศัยนั่งหลับในเวลางานแก้อาการง่วง กลับเลี้ยวเข้าร้านกาแฟพร้อมสองคนด้านหน้า สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เป็นพี่ชาย ที่รู้จักนิสัยน้องชายฝาแฝดของตัวเองเป็นอย่างดี

“แกไม่ดื่มกาแฟไม่ใช่เหรอ? แล้วจะเข้าไปทำไม?”

คิมหันต์หันกลับไปตั้งคำถามใส่เหมันต์ ซึ่งกำลังก้าวขายาวๆ ขึ้นบันไดร้านตามหลัง

“อยากลองเปลี่ยนรสนิยมการกินดูบ้าง ทำไมอ่ะ ไม่ได้เหรอ? ทีแกยังเปลี่ยนได้เลย”

ทั้งๆ ที่พูดคุยอยู่กับคิมหันต์ เหมันต์กลับเบนสายตาไปมองทางพริกหวาน ในช่วงท้ายประโยค คนถูกมองรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจแปลกๆ ที่ส่งผ่านมาทางสายตาคมดุ

และไม่รอให้คู่สนทนาได้ถามต่อต่ายอะไรอีก เหมันต์กลับเดินแทรกช่องว่างระหว่างพี่ชายตัวเอง กับเพื่อนบ้านสาวห้องข้างเคียงเข้าไปด้านใน ปล่อยบุคคลด้านหลังยืนมองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจ