5
“สวัสดีค่ะพี่เด็จ”
นภัทสรีย์ยกมือไหว้พ่อเลี้ยงหนุ่ม หญิงสาววัย 22 รูปร่างบอบบาง ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตเป็นประกายแก้มนวลเนียนและจมูกโด่งเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มฉ่ำเคลือบกลอสบาง ๆ เธอยืนประสานมือกันไว้ด้านหน้าอย่างสงบเสงี่ยม แสงไฟส่องกระทบผมยาวดำขลับเงางามถูกรวบมัดเป็นหางม้าไว้ด้านหลัง นภัทสรีย์ยิ้มกับจเด็จหากแต่เขากลับมีสีหน้าเรียบเฉยขณะที่ป้าวรรณาหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางเข้าไปข้างใน
“เพิ่งมาถึงเเหรอ?”
จเด็จถามด้วยสีหน้าเยือกเย็น ไม่อยากจ้องมองน้องสาวของภรรยาตรงๆ เขาเคยพบกับนภัทสรีย์และพูดคุยกับเธอมาก่อนแต่ก็ไม่ได้เป็นความสนิทสนมคุ้นเคย ทว่าก็มีอย่างหนึ่งที่เขาสังเกตเห็นตั้งแต่ก่อนนี้ก็คือนภัทสรีย์น้องสาวของเพียงกมลนั้นมีความงามที่ไม่แพ้พี่สาว เพียงแต่เธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนเดียงสาเพราะในเวลานั้น นภัทสรีย์ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ท่าทีของเธอก็ไม่ได้แก่นแก้วหรือกระโดกกระเดก ดูเป็นเด็กสาวที่เรียบร้อย แต่จากการที่เพียงกมลบอกเขาว่าน้องสาวยินยอมตอบรับข้อเสนอที่จะมีลูกกับสามีของตัวเองทำให้เขาเริ่มมองเธอในแง่ที่ไม่ดี ในเวลานั้นนภัทสรีย์ก็จ้องมองพี่เขยด้วยความประหม่าเช่นกัน เธอไม่เจอหน้าเขานานแล้ว ตอนนี้เขาไม่ได้แตกต่างจากเมื่อก่อน เคร่งขรึม หน้าตาหล่อเหลาเอาการออกจะดุด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นเสน่ห์ดึงดูดทำให้เธอชอบแอบมองเขาเมื่อก่อนนี้
“นิ่มเพิ่งมาถึงค่ะพี่เด็จ...พอดีว่าเครื่องดีเลย์อยู่เกือบ 2 ชั่วโมงก็เลยช้านิดหนึ่ง ต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาถึงดึกแล้ว ไม่ทราบว่าพี่เพียงหลับหรือยังคะ?”
“เพียงเขาหลับไปแล้ว...ก็ให้พี่มาคอยต้อนรับเธอนี่ไง”
“นิ่มต้องขอโทษด้วยนะคะ เลยทำให้พี่เด็จพลอยไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปด้วยเพราะต้องมาคอยนิ่มแบบนี้”
“มันเป็นคำสั่งของเพียง คำสั่งของพี่สาวนิ่มยังไงล่ะ ลำพังพี่เองพี่ไม่ได้อยากจะทำอะไรอย่างนี้เหรอก”
น้ำเสียงเครียดขึ้งนั้นทำให้นภัทสรีย์นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เธอรู้สึกว่าการได้พบกันกับจเด็จครั้งนี้ไม่เหมือนที่เธอเคยรู้จักกับเขาก่อนหน้าที่จะแต่งงานกับพี่สาว เขาเคร่งขรึมและเสียงก็ดุดันหากทว่าเธอก็ยังทำสีหน้าให้ราบเรียบเหมือนปกติทั้ง ๆ ที่เริ่มหวาดหวั่นเพราะไม่รู้ว่าจะต้องพบกับอะไรบ้าง แม้ว่าก่อนหน้าจะเดินทางมาที่นี่เธอจะทำใจแล้วเกี่ยวกับการตอบรับข้อเสนอของพี่สาวตอนแรกเธอก็ลำบากใจแต่ท้ายที่สุดก็ต้องยอมรับสิ่งที่พี่สาวต้องการให้ได้ในเมื่อนี่คือการตอบแทนพระคุณ
“พ่อเลี้ยงคะ...ป้าเอากระเป๋าเสื้อผ้าของคุณนิ่มไปเก็บไว้ในห้องให้เรียบร้อยแล้วนะคะมีอะไรที่จะให้ป้าทำต่ออีกไหมคะ?”
ป้าวรรณากลับออกมารายงานกับเสด็จชายหนุ่มตอบกลับไปว่า
“คงไม่มีอะไรแล้วล่ะครับ...ป้าวรรณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะนะครับ แล้วพรุ่งนี้จะได้มาเตรียมอาหารมื้อเช้ากับจัดยาให้เพียงเขา”
“ค่ะพ่อเลี้ยง”
ป้าวรรณาพยักหน้ารับกลับออกไปเหลือทิ้งไว้เพียงแต่จเด็จกับนภัทสรีย์ที่ต่างยืนนิ่งก่อนที่สักครู่จเด็จจะเอ่ยขึ้น
“พี่จะพาเธอไปที่ห้อง เพียงเขาเตรียมห้องเอาไว้ให้เธอแล้วตามมาสิ”
น้ำเสียงของเขาเยือกเย็น นภัทสรีย์รู้สึกว่ามันออกจะเย็นชาไปเสียด้วยซ้ำ เธอเดินตามพ่อเลี้ยงหนุ่มเข้าไปในบ้านกระทั่งเข้าไปถึงห้องที่เขาบอกว่าพี่สาวได้จัดเตรียมไว้ให้ เมื่อเปิดประตูเธอก็เห็นว่าเป็นห้องนอนที่กว้างขวางและตกแต่งอย่างเรียบๆ สักครู่ก็ได้ยินเสียงจเด็จปิดประตู เธอหันกลับไป ขณะนั้นเองที่เขาเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเธอ ใบหน้าคมคายยังดูเยือกเย็นอย่างเช่นที่ได้พบกันครั้งแรก ดูเหมือนมีบางอย่างฉายออกมาจากนัยน์ตาคมเข้มคู่นั้น
“คิดว่าอยู่ที่นี่ได้ไหม?”
เขาถาม นภัทสรีย์ตามองต่ำ ไม่รู้ทำไมเธอไม่ค่อยกล้าสบนัยน์ตาคมเข้มทรงอำนาจที่จ้องมองมาของพ่อเลี้ยงหนุ่มซึ่งครั้งหนึ่งเธอก็เคยรู้จักและพูดคุยกับเขาอย่างคนรู้จักกัน
บทที่ 4
“อยู่ได้ค่ะ...นิ่มอยู่ได้ค่ะ”
“ก็ต้องอยู่ได้อยู่แล้ว ในเมื่อนิ่มอยากอยู่ที่นี่ไม่ใช่เเหรอ?”
นภัทสรีย์เงียบไป ฟังจากน้ำเสียงและคำพูดของจเด็จดูเหมือนว่าเขากำลังประชดประชันและเหน็บแนมผ่านเสียงอันเยือกเย็นและคำพูดที่เธอรู้ว่าจริงๆ แล้วพี่เขยอาจไม่พอใจ นภัทสรีย์ไม่พูดอะไรอีกแต่ขณะที่กำลังจะหันหลังให้ก็ต้องผงะเมื่อจเด็จจับไหล่บางของเธอเอาไว้ เข้าหมุนให้ตัวเธอหันกลับมาหาเขา อยู่ในท่าที่ต้องเผชิญหน้ากัน เธอรู้สึกตกใจกับอากัปกิริยานั้นคราวนี้เองที่เธอต้องเงยหน้ามองเขา พ่อเลี้ยงหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้คงตัวเธอซึ่งกำลังเผชิญหน้าให้ตัวเล็กไปถนัดตา
