บท
ตั้งค่า

๔.๑ เธอเป็นเมียฉันแล้ว

เธอเป็นเมียฉันแล้ว

ร่างบางที่ขดตัวนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเจ้าของคฤหาสน์ ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นในตอนเช้าตรู่ตามความเคยชิน ทว่าเช้านี้เธอกลับไม่ได้รู้สึกสดชื่นเหมือนเช่นเคย อาการปวดเมื่อยอ่อนเพลียแล่นเข้ามาจู่โจมทันทีที่ขยับตัว โดยเฉพาะบางส่วนของร่างกายซึ่งรู้สึกมากกว่าส่วนไหนๆ

กลิ่นจันทร์เอียงหน้าไปหาคนข้างๆ ที่ยังคงนอนหันหลังให้เช่นเดิม เธอได้แต่มองแผ่นหลังกว้างอย่างเงียบๆ พร้อมกับถ้อยคำสุดท้ายก่อนที่เขาจะหลับนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัว

‘ฉันไม่คิดจะกอดผู้หญิงคนไหนอีก หลังจากบีมทรยศฉัน’

เขาไม่กอดเธอจริงๆ ไม่แม้แต่จะหันมาทางที่เธอนอนอยู่ เขาคงรักและอาลัยอาวรณ์ปัณรสอยู่มาก ถึงได้ไม่ไยดีเธอหรือกับผู้หญิงคนอื่น

ความจริงนั้นทำให้หัวใจของกลิ่นจันทร์วูบไหวเล็กน้อย แต่เธอก็ปัดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว เพราะเธอไม่มีสิทธิ์จะรู้สึกอะไร หน้าที่ของเธอคือเป็นนางบำเรอให้เขา ทำให้เขาพอใจมากที่สุด เพื่อที่เขาจะไม่กลับไปเล่นงานพี่ป้อง ซึ่งตอนนี้เธอก็ทำมันเสร็จสิ้นแล้ว และเธอก็ควรจะไปจากที่นี่เสียที

ร่างบางค่อยๆ ขยับลงจากเตียงอย่างพยายามให้เบาเสียงมากที่สุด พลางมองหาเสื้อผ้าตัวเองที่ถูกถอดไว้ตรงหน้าตู้เสื้อผ้า ก้มลงเก็บ แล้วหอบมันเข้าไปในห้องน้ำ

กว่ายี่สิบนาทีที่กลิ่นจันทร์ใช้เวลาอาบน้ำสระผม ห้องน้ำอันหรูหราไม่ได้สร้างความตื่นเต้นให้เธอแต่อย่างใด สิ่งที่ตื่นเต้นมากกว่าคือเธอจะต้องเผชิญหน้ากับนภัทร ในยามที่เขาตื่นขึ้นมาต่างหาก เธอภาวนาว่าขอให้เขายังหลับ เธอจะได้แอบหนีกลับเงียบๆ โดยไม่ต้องเจอเขา แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างเอาซะเลย เพราะทันทีที่เปิดประตูออกมา ก็เห็นว่าร่างสูงนั่งพิงพนักเตียงอยู่

กลิ่นจันทร์แกล้งทำเป็นไม่รับรู้ว่าเขาตื่นแล้ว เธอเดินไปหยิบเอากระเป๋าเป้ กำลังจะสะพายมันใส่บ่า แล้วเดินหนีเอาดื้อๆ แต่เสียงทุ้มหล่อสมตัวของคนที่นั่งอยู่บนเตียงกลับดังขึ้นเสียก่อน

“นั่นเธอจะไปไหนแต่เช้า”

“กลับหอค่ะ” กลิ่นจันทร์ตอบโดยไม่หันไปมองคนถาม เขาเลยตวัดขาลงจากเตียงในสภาพที่ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น ทำเอาหัวใจดวงน้อยสั่นไหวไปหมด ยิ่งเมื่อเขาเดินมายืนอยู่ใกล้ๆ เธอก็ยิ่งสั่นมากกว่าเดิม ร่างบางจึงขยับถอยหลังหนีไปจนชิดกับตู้เสื้อผ้า

“เป็นอะไร?”

“เปล่านี่คะ”

“ถ้าเปล่าจะถอยหลังหนีฉันทำไม เขินเหรอ”

“ไม่ค่ะ” ปากปฏิเสธ แต่ในใจตอนนี้มันกลับเป็นเช่นนั้น ใช่...เธอเขิน เธออาย เธอหวั่นไหว และตื่นเต้นไปหมด ทำไมเขาจะต้องตื่นและมาไล่ต้อนเธอแบบนี้ก็ไม่รู้

“แล้วกลับยังไง”

“นั่งรถเมล์ค่ะ”

“เมื่อคืนเธอโดนฉัน ‘เอา’ ตั้งหลายชั่วโมงและหลายท่า แต่ละท่าผาดโผนทั้งนั้น เธอแน่ใจเหรอว่าจะเดินไปขึ้นรถเมล์ไหว เธอไม่อายเหรอไผ่ เวลาที่ถูกคนอื่นมองเพราะเดินขาถ่าง คนพวกนั้นต้องรู้แน่ๆ ว่าเธอโดนอะไรมา”

กลิ่นจันทร์อายยิ่งกว่าเดิมที่ถูกเขาถามแบบนั้น ทั้งรู้สึกหวามใจแปลกๆ ที่เขาเปลี่ยนมาเรียกชื่อเล่นของเธอ จึงเผลอเงยหน้าขึ้นมองเขา และเขาก็ยกมือขึ้นเท้ากับตู้ด้านหลัง ทำให้เธอตกอยู่ในการกักขังของลำแขนแข็งแรง เช่นเดียวกับเมื่อคืนตอนที่เขาตามเธอไปในห้องน้ำของมหาวิทยาลัย

“คุณไนท์!”

“ขวัญอ่อนจริง แค่นี้ก็กลัว เมื่อไหร่เธอจะเลิกเรียกฉันแบบนี้สักทีหือ”

“แล้วจะให้ไผ่เรียกว่าอะไรล่ะคะ”

“ตอนนี้ฉันเป็นผัวเธอแล้วนี่ เธอควรเรียกผัวตัวเองว่าอะไรดีล่ะ”

“ไผ่คิดไม่ออกหรอกค่ะ ไผ่ไม่เคยมีผัวนี่คะ”

นภัทรเกือบจะหลุดยิ้มอย่างนึกเอ็นดู กับถ้อยคำโต้เถียงที่ดูซื่อๆ และยอกย้อนแบบคนไม่ยอมคน แต่ก็คิดได้ว่าอาการนึกเอ็นดูเด็กสาวชักจะเกิดขึ้นบ่อยเกินไปแล้ว เขาจึงต้องรีบปรามตัวเองเอาไว้ในใจ

“วันนี้อยู่กับฉันและคืนนี้ก็นอนที่นี่ล่ะ พรุ่งนี้เธอสอบบ่ายไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันไปส่ง” เขาพูดเป็นเชิงออกคำสั่ง แต่เป็นคำสั่งที่มาพร้อมกับความแปลกใจของคนฟัง

“คุณไนท์รู้ได้ยังไงคะว่าไผ่สอบบ่าย”

“ฉันมีที่อยู่เธอ รู้วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเอทีเอ็ม รู้ตารางเรียน ตารางสอบ รู้ว่าไอ้รุ่นพี่นั่นกำลังตามจีบเธอ ยังต้องให้สาธยายอีกมั้ยว่าฉันรู้อะไรเกี่ยวกับเธอบ้าง”

“ทำไมคุณไนท์จะต้องรู้ขนาดนั้น”

“ก็เพราะตอนนี้เธอเป็นสมบัติส่วนตัวของฉันแล้วไง ฉันต้องรู้รายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับสมบัติทุกชิ้นของฉัน”

“อย่างนั้นเหรอคะ”

พูดจบก็เบี่ยงหน้าหนี ตาหลุบลงเพื่อปิดบังความน้อยใจและตัดพ้อของตัวเอง เมื่อถูกเปรียบเทียบว่าเป็นแค่ ‘สมบัติชิ้นหนึ่ง’ ของเขาเท่านั้น แต่ในขณะที่เธอกำลังเมินหน้าอยู่นั้น นิ้วเรียวแกร่งก็จับที่ปลายคางของเธอ บังคับให้หันกลับมา พร้อมกับที่ใบหน้าหล่อคมก้มต่ำลงมาหาจนปากเกือบจะชนกัน

“คุณไนท์จะทำอะไรคะ” กลิ่นจันทร์รู้ว่าตัวเองถามโง่ๆ ท่าทางหื่นๆ ของเขามันฟ้องชัดอยู่แล้วว่าเขากำลังจะจูบ

“เอาเธอ...”

“แต่คุณไนท์ทำเกือบทั้งคืนแล้ว” ตอบโต้เขาด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ เพราะความกระดากยามเมื่อต้องพูดประโยคนั้น อีกทั้งสิ่งที่เขาบอกว่าจะทำ มันก็มากกว่าสิ่งที่เธอคาดคิดเอาไว้

“แล้วไง ก็ฉันอยากได้อีก” นภัทรบอกอย่างเอาแต่ใจ ทว่าเสียงของเขาช่างเซ็กซี่และแหบพร่าจนชวนให้ใจสั่น

“ไผ่ต้องอ่านหนังสือค่ะ”

“ฉันเอาไม่นานหรอก แค่ชั่วโมงเดียว จากนั้นก็จะปล่อยให้เธออ่านหนังสือ โอเคมั้ย”

“คุณไนท์ไม่ไปทำงานเหรอคะ”

“ไป แต่ฉันจะทำเธอก่อน”

“แต่ว่า...อุ๊ย...”

เสียงหวานร้องอุทานเบาๆ จากนั้นก็เงียบลง เมื่อปากถูกปิดด้วยเรียวปากหยักที่บดจูบลงมาอย่างเอาแต่ใจและพร่าผลาญอารมณ์ให้ต้องตอบสนอง ร่างบางสั่นเทาทั้งด้วยความตื่นเต้นและด้วยอารมณ์ปรารถนาที่ถูกปลุกขึ้นอย่างง่ายดาย มือเขาจัดการกับเสื้อผ้าที่เธอเพิ่งจะสวม มันถูกทิ้งกระจัดกระจายอยู่บริเวณเดียวกับเมื่อคืนอีกครั้ง จากนั้นขาเรียวสวยข้างหนึ่งก็ถูกยกขึ้นพาดแขน แล้วสะโพกสอบก็กดอัดความแข็งแกร่งเข้าสู่เธอ โยกไหวอย่างทรงพลังและเร่าร้อนเร็วระรัว ราวกับเมื่อคืนเขาไม่ได้ปลดปล่อย ทั้งๆ ที่เขาทำแบบนั้นกับเธอหลายต่อหลายรอบจนเกือบสว่าง

กลิ่นจันทร์ได้แต่ยืนตัวอ่อนระทวย จนต้องยกมือขึ้นโอบกอดเขาเพื่อยึดเกาะไม่ให้ตัวเองเสียหลัก เขาโหมกระหน่ำความต้องการของตัวเองเข้าใส่เธอไม่ยั้ง และชวนให้เธอบ้าคลั่งไปกับเขาจนลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างชั่วขณะ เขาโอบอุ้มเธอขึ้นพาเดินกระเตงไปทั่วห้อง ก่อนจะวางลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง โยกไหวอยู่ตรงนั้นอย่างหนักหน่วง จนข้าวของบนโต๊ะหล่นลงพื้นเกลื่อนกลาด ทว่ามันก็ไม่ทำให้เขาหยุดชะงักแม้แต่เสี้ยววินาที เขายังคงเดินหน้าอย่างสุขสมพร้อมกับตักตวงเอาสิ่งที่เขาต้องการอย่างน่าอิจฉา กลิ่นจันทร์อยากจะเรียกสิ่งที่เขากำลังทำว่า การร่วมรัก แต่ก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่ เพราะเขาไม่ได้รักแม้แต่นิด

เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไป และจุดสิ้นสุดของการเรียกร้องครั้งนี้จบลงที่ห้องน้ำ ทำให้กลิ่นจันทร์ต้องอาบน้ำอีกรอบ แต่คราวนี้อาบพร้อมเขา ซึ่งมันไม่ใช่การอาบน้ำแบบปกติทั่วไปเหมือนเช่นทุกครั้งที่เคยอาบ

มือเล็กหยิบเสื้อคลุมมาสวมจนร่างกายมิดชิด ในขณะที่ร่างสูงตอนนี้มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่าง เนื้อตัวของเขามีหยดน้ำเม็ดเล็กๆ เกาะพราวอย่างชวนมอง เขาดูหล่อเหลาและเซ็กซี่มากขึ้นหลังจากอาบน้ำเสร็จ ภาพนั้นดึงดูดสายตา จนกลิ่นจันทร์ต้องแอบจ้องมองอยู่เงียบๆ

“ถ้าจะจ้องขนาดนั้นก็มากินฉันซะเลยสิ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel