ทำสิ่งที่ควรทำ
“ฮือ พอแล้ว อืม ฉันหย่าแล้วค่ะ”
อารยาหันหน้าหนีทันทีที่เป็นอิสระ ถ้าต้องหย่ากันอย่างน้อยก็ไม่อยากมีอะไรติดค้าง สักวันเธอคงลืมเขาได้เอง อย่ามาทำอะไรแบบนี้ให้เธอรู้สึกดีอีกเลย ได้โปรดเถอะ
“ไม่!”
อัครราชพูดขึ้นด้วยความสับสน เขาไม่อยากปล่อยมือจากเธอเลย มีทางไหนที่จะทำให้เธอเป็นของเขาได้ทั้งกายและใจบ้าง
“คนบ้า! คนโลเล”
อารยาหันกลับมาทุบหน้าอกแข็งแรงสองสามที ก่อนจะพบว่าแรงที่มียิ่งมาก เธอยิ่งเจ็บจึงได้หยุด ถูข้อมือไปมาจนถูกมือหนาคว้าไปจับ
“เจ็บเหรอ? ฉันมากกว่าไหมที่ควรเจ็บ”
อัครราชมองรอยแดงที่คอของเธอ เพิ่มแรงบีบที่ข้อมือจนใบหน้าสวยบิดเบี้ยว ทั้งที่เขาคิดว่าเธอต่างจากคนอื่น สุดท้ายก็ไม่ต่างกัน ยอมเป็นของคนอื่น แต่ไม่เคยยอมเขาเลย
“เสี่ยจะมาเจ็บอะไร ในเมื่อฉันไม่เคยทำอะไรให้เสี่ยเจ็บ มีแต่เสี่ยที่ทำฉันเจ็บทุกวัน”
“ไม่เคยเหรอ? คิดว่าฉันโง่เหรอ รอยนี่เป็นรอยที่หมามันทำทิ้งไว้หรือไง” อัครราชเปลี่ยนไปขว้าหมับเข้าที่ลำคอระหง ออกแรงบีบเขาๆ บริเวณรอยนั่น ถ้าเขาใจร้ายกับเธอได้ เขาฆ่าเธอตายไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เธอทำแบบนี้กับคนอื่น มานานขนาดนี้หรอก
“มะ ไม่ใช่นะ”
อารยายกมือลูบคอตัวเองเบาๆในจุดที่มือใหญ่กำอยู่ ลืมไปเลยว่าเธอถูกเปรมนัสทำแบบนั้น แต่ถึงยังไงมันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไปทำเรื่องน่าอายกับชายอื่นมาสักหน่อย
“คิดสิคิด หาข้อแก้ตัวมาอีก คราวนี้เป็นอะไรล่ะ ไม่ระวัง เผลอ หรือตั้งใจ”
อัครราชตะโกนใส่หน้า หลังจากที่อารมณ์ทั้งหมดที่ควบคุมไว้ขาดผึง เขาต้องถามแบบนี้อีกกี่ครั้ง เธอถึงจะยอมรับ หรือคิดว่าเขาโง่เป็นควาย เลยจะหลอกเขาไปเรื่อยๆงั้นเหรอ
“ทำไมคุณต้องโกรธ ในเมื่อคุณก็ทำไม่ต่างกัน ทำไมคุณทำได้ ฉันถึงทำบ้างไม่ได้ ในเมื่อคุณนอกกายฉันก่อน ทำไมฉันจะนอนกับคนอื่นบ้างไม่ได้”
ด้วยแรงโทสะ ทำให้อารยาระเบิดทุกอย่างออกไปด้วยการประชดกลับ นึกเสียใจจริงๆที่หลงรักเขา
“ใช่! ในเมื่อมันได้ ทำไมฉันถึงไม่ได้ ไม่ยุติธรรมเลยว่าไหม ทั้งๆที่ฉันเลี้ยงดูอย่างดี ทำไมฉันถึงไม่มีสิทธิ์” อัครราชใช้ร่างกายคร่อมทับคนที่ขยับตัวหนี ถอดเนคไทออกจากคอ รวมข้อมือทั้งสองที่ทุบตีเขาเข้าหากัน
“อย่าทำบ้าๆนะคะเสี่ย” อารยาดิ้นรนด้วยความหวาดกลัว ท่าทางของเสี่ยวันนี้น่ากลัวมาก ปกติเขาอบอุ่นอ่อนโยนและให้เกียตริเธอเสมอ แต่วันนี้เขาไม่ฟังเธอเลย ทั้งยังพยายามมัดมือมันเท้าเธออีก
“ฉันทำสิ่งที่ฉันควรทำต่างหาก” อัคราราชไม่สนใจแรงดิ้นรนของคนใต้ร่าง ใช้ท่อนขากดทับขาเรียวสวยของเธอไว้ ในขณะที่เริ่มปลดเปื้องเสื้อผ้าออกจากตัว ไม่นานร่างกายท่อนบนก็เปลือยเปล่า ใช้เสื้อตัวนั้นมัดเท้าเธอไว้ จากนั้นก็เปลี่ยนมาดึงเสื้อยืดออกจากร่างเธอต่อ
“เสี่ยคะ ไอซ์กลัวแล้ว”
น้ำเสียงแห่บพร่าเอ่ยอ้อนวอน ความเย็นของเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ไม่ได้ช่วยคลายความร้อนที่เห่อขึ้นมาในร่างกาย สองมือสองเท้าที่ถูกมัดพยายามดิ้นรนขัดขืนคนที่ได้ชื่อว่าสามี
“ทำไม! กับคนอื่นเธอถึงง่าย กับฉันทำเหมือนจะตายให้ได้ ฮะไอซ์! ”
“มันไม่ใช่นะคะ”
“ถ้าไม่ใช่ก็อยู่นิ่งๆ” อัครราชใช้มือข้างหนึ่งกดลงไปบนลาดไหล่ขาวเนียน ออกแรงกดไว้ไม่ให้เธอดิ้นรนหนี ในขณะที่เขาใช้มืออีกข้างปลดตะขอกระโปรงตัวเก่งของเธอออกไป รูดมันออกไปจากท่อนขาเรียว ด้วยความชำนาญ
“คุณขุน ไอซ์กลัวจริงๆนะคะ” แววตาสีน้ำตาลเหมือนกันกับสีผม คลอไปด้วยหยาดน้ำแวววาว จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีวัยสามสิบเอ็ดปี ด้วยความอ้อนวอน กายสาวสะท้านขึ้นลงด้วยกลั้นสะอื้น หนีบขาเข้าหากันในขณะที่สามีพยายามดันออกกว้าง ทั้งๆที่ปลายขาของเธอถูกมัดติดกัน
“แม่ง!”
อัครราชผละออกห่างจากร่างเย้ายวนอย่างรวดเร็ว เหมือนคนเพิ่งได้สติ กำลังจะดึงร่างที่ถูกพันธนาการมากอด จำต้องหยุดชะงักมือ เมื่อเห็นรอยช้ำตรงลำคอที่เหมือนรอยมือ ตามเนื้อตัวขาวนวลขึ้นรอยช้ำจากแรงดึงรั้งตอนถอดเสื้อผ้า ทุกร่องรอยบนตัวเธอ ทำให้เขาถอยห่างไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยขอโทษ
“ฮือ” อารยาปล่อยสะอื้นจนตัวโยนเมื่อเห็นท่าทางของสามี เขาไม่ยินดีจะช่วยหรือว่านึกรังเกียจร่างกายเธอ ใยถึงได้ถอยห่างพร้อมทำท่าทางแบบนั้น เธอไม่มีอะไรสู้ผู้หญิงของเขาได้เลยหรือไง หรือร่างกายแบบนี้ มันไม่ดีพอให้เสี่ยรู้สึกดี
“ไอซ์ อย่าร้อง!” อัครราชรู้ตัวว่ากำลังหงุดหงิด เขาไม่ชอบใจน้ำตาของเธอเลย วันนี้เธอร้องไห้ตั้งกี่ครั้ง ทุกครั้งมันบีบหัวใจเขาจนหายใจไม่ออก ครั้นจะปลอบก็เขานั่นแหละที่เป็นคนทำ จะเอาน้ำหน้าไหนไปปลอบใจเธอ
“ฮือ!” ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งโดนตะคอก อารยาก็ยิ่งแผดเสียงร้องไห้ดังระงมไปทั้งห้อง
ไอ้เสี่ยบ้า นอกจากจะไม่ปลอบเธอแล้วยังมาตะคอกใส่เธออีก ไม่เหลือเสี่ยคนดีของเธอแล้ว
“โอ้ย! ให้ตายสิ” ร่างสูงขยับไปใกล้ ดึงรั้งร่างเธอขึ้นมากอดแล้วลูบหลังให้เบาๆ เขาไม่เคยปลอบใคร ไม่รู้วิธีทำให้หยุดร้องไห้ด้วย ซ้ำยังเป็นต้นเหตุ ไม่รู้เหมือนกันว่าวิธีนี้จะช่วยหยุดน้ำตาที่ร่วงหล่นตาแววตาสวยๆนั่นได้ไหม
