บทย่อ
เธอเป็นภรรยาที่เขารักหมดหัวใจ
1
ทอรุ้ง พฤศจิ มองบ้านหลังใหญ่ที่เธอเติบโตขึ้นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ รถกระบะคันโตค่อยๆ พาเธอออกมาจากที่นั่นอย่างเชื่องช้า แสงตะวันยามบ่ายที่สาดส่องมากระทบกับผิวกายอาบไล้ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
เธอต้องไปเป็นเมียใช้หนี้ให้อาวัฒน์ เจ้าหนี้รายใหญ่ของครอบครัว ที่ไร่รุ่งอรุณ บิดามารดาของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก เธอจึงอยู่ในความดูแลของลุงปรีชากับป้าวิลัย ทั้งสองเลี้ยงเธอมาเหมือนลูกหลาน รักและเอ็นดูเหมือนลูกแท้ๆ เพราะท่านไม่มีทายาทสืบสกุล
วัฒน์ รุ่งอรุณนั้นเป็นเพื่อนรุ่นน้องเก่าแก่ของบิดามารดา เขาไปมาหาสู่บ้านของเธออยู่เป็นประจำ จนลุงกับป้าที่ชุบเลี้ยงเธอมาเกิดปัญหาทางการเงินต้องหยิบยืมเขา มากเข้าก็ไม่มีเงินไปคืน วัฒน์จึงยื่นข้อเสนอขอเธอไปเป็นเมียเพื่อไถ่ถอนหนี้สินทั้งหมด
เธอเพิ่งจบจากมัธยมปลายยังไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ วัฒน์เสนอเงินให้ลุงกับป้าของเธออีกจำนวนหนึ่ง และบอกว่าจะพาเธอไปเป็นเมียยกย่องออกหน้าออกตาที่ไร่รุ่งอรุณรวมถึงหากเธอต้องการจะเรียนหนังสือต่อก็จะส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดีไม่ให้ลำบาก
ลุงกับป้าของเธอเห็นว่าเขาเป็นคนดี อายุของวัฒน์นั้นสามสิบห้าย่างสามสิบหก จริงๆ เขายังดูไม่แก่ ยังหนุ่มแน่น ร่างกายแข็งแรงอ่อนกว่าอายุจริงถึงหลายปี
พวกท่านบอกว่าเธอจะสบายหากได้แต่งงานกับวัฒน์ อีกทั้งเขาจะดูแลเธออย่างดีตอนที่พวกท่านจากไป ความที่เธอเป็นเด็กเรียบร้อย อยู่ในโอวาทของพวกท่าน ไม่เคยทำให้พวกท่านต้องหนักใจเลยตบปากรับคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“หิวไหม”
น้ำเสียงเอื้อเอ็นดูของคุณอาหนุ่มทำให้ภวังค์ความคิดอันแสนวุ่นวายของทอรุ้งหยุดชะงัก เธอผินหน้าไปมองเขาก่อนจะยิ้มละไมตามประสาคนขี้เกรงใจและเรียบร้อย
“ถ้าอาวัฒน์หิวแล้ว จะแวะรับประทานอาหารระหว่างทางก่อนก็ได้นะคะ”
“ครับ”
วัฒน์รับคำ เขาขับรถไปอีกเดี๋ยวเดียวก็เลี้ยวรถเข้าไปจอดข้างทาง คืนนี้เขาน่าจะขับรถถึงไร่ดึกพอสมควรเพราะนี่ก็บ่ายแก่มากแล้ว
“อยากกินอะไร”
เขาเอ่ยถาม หลังจากพาสาวน้อยมานั่งที่ร้านอาหารตามสั่ง เธอมองเมนูอาหารตรงหน้า เพราะไม่ใช่คนเรื่องมากอะไร จึงสั่งข้าวผัดกระเพราของโปรดพร้อมไข่ดาวอีกหนึ่งฟอง
เด็กสาวเหลือบสายตามอง เขาสั่งเหมือนเธอและสั่งน้ำอ้อยมาอีกสองแก้ว
เธอนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ เหลือบสายตามองเขาเล็กน้อยตอนเขาเผลอ ก่อนจะก้มงุด
“แอบมองอามีอะไรเหรอ พูดมาตรงๆ ก็ได้นะ อย่าเอาแต่คิดอะไรไปคนเดียว”
ทอรุ้งสะดุ้งสุดตัวไม่คาดคิดว่าเขาจะถามอะไรแบบนี้ เธอเลยส่ายหน้าไปมาก่อนจะกล่าวขอโทษ
“ขอโทษค่ะ ไม่มีอะไร”
“ขอโทษอะไร ขอโทษที่แอบมองนะเหรอ”
“เปล่าแอบมองนะคะ ก็อยู่กันสองคน เลยมองบ้างก็แค่นั้น” เธอตอบเขาเสียงแผ่วเบา
“กินอะไรอีกไหม ที่นี่มีขนมด้วยนะ”
เขาหมายถึงขนมโบราณพวกบัวลอย ลอดช่อง ทับทิมกรอบอะไรพวกนั้น เธอเหลือบไปมอง ใจอยากกินทับทิมกรอบแต่ก็นึกเกรงใจเขาจริงๆ
“อาอยากกินทับทิมกรอบ”
“คะ?”
นั่นแหละ ทำไมต้องมาใจตรงกับเธอด้วย เธอกัดปากตัวเองเบาๆ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ คล้ายออดอ้อน
“งั้นรุ้งเอาทับทิมกรอบด้วยก็ได้ค่ะ จะได้รับประทานเป็นเพื่อนคุณอา”
“ครับ”
วัฒน์เหลือบสายตามองเด็กสาว เขาเห็นอยู่ว่าเธออยากกินทับทิมกรอบ ปกติเขาไม่ได้ชอบกินของหวานหรอกนะ แต่ถ้ากินเด็กแบบเธอเขาก็ชอบอยู่มาก
ทอรุ้งนึกขอบคุณที่เขาอยากกินเหมือนกับเธอ ถ้าเขาอยากกินลอดช่องเธอก็คงต้องกินลอดช่องสินะ
ทับทิมกรอบร้านนี้อร่อยจัง เธอนั่งคิดคนเดียว คนชอบเข้าครัวทำอาหารคันไม้คันมืออยากทำกินเองบ้าง ไปอยู่ที่ไร่รุ่งอรุณเธอยังไม่รู้เลยว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร
เป็นความจริงที่ว่าวัฒน์ไปมาหาสู่บ้านของเธออยู่เสมอ แต่เธอไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับเขามากมายนัก พอเจอกันก็ยกมือไหว้เขาตามประสาอาหลานอย่างเคารพถือว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ ในขณะที่เขาเองก็ไม่ค่อยจะสุงสิงอะไรกับเธอนัก เธอเลยตกใจที่เขาขอเธอจากลุงและป้ามาเป็นเมีย
ในสายตาของเธอ วัฒน์ก็เป็นผู้ใหญ่ใจดีและน่าเคารพ เขาชอบซื้อของมาฝากลุงกับป้า แวะมาเยี่ยมเยียนก็ซื้อของหรือขนมมาฝากเธอด้วย มาทุกครั้งเธอก็ได้ของฝากจากเขาทุกครั้ง จึงตอบแทนด้วยการทำอาหารสุดฝีมือต้อนรับเขา
ลุงกับป้าบอกว่าเขาไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ
หึ! พอคิดมาถึงตรงนี้เด็กสาวก็แอบเบ้ปากเล็กน้อย เธอเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นตาแก่บ้ากามอยากได้เด็กสาวอายุไม่ถึงยี่สิบไปเป็นเมีย แถมยังหว่านพืชหวังผล ทำให้ลุงกับป้าของเธอเป็นหนี้แล้วก็กลายร่างเป็นเจ้าหนี้หน้าเลือด

