5"รักแม่ที่สุดเลย"
บทที่5
....ดอกหญ้า...
ฉันมองชายที่กำลังกุมมือฉันอย่างตกใจ ฉันไม่รู้จักเขาไม่เคยเจอหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นอุบัติเหตุ ฉันไม่คิดว่าจะต้องมาเจอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เขาต้องการให้ฉันนอนกับเขา ฉันจะนอนกับเขาได้ยังไงฉันไม่เคยรู้จักมักจี่เขา ที่สำคัญฉันกับเขาเพิ่งเจอกันครั้งแรก
ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว ต่อให้เขาอยากจะช่วยค่ารักษาแม่ ยื่นข้อเสนอบ้าบอให้ฉัน แต่ฉันไม่อยากจะทำ"
ฉันไม่อยากทำอาชีพนั้น ฉันไม่ได้รังเกียจดูถูกดูแคลนอาชีพของผู้หญิงขายตัวหรอกนะคะ แต่จะให้ฉันทำแบบนั้นฉันก็ไม่ทำหรอกค่ะ ฉันยอมรับตัวเองไม่ได้
"คะ...คุณว่าอะไรนะคะ" ฉันเอ่ยถามเขาเสียงสั่น คิดว่าเขาอาจจะพูดเล่นก็ได้ คงไม่ได้คิดเรื่องที่จะนอนกับฉันหรอก เขาอาจจะเห็นว่าฉันมีเรื่องเครียดเขาก็เลย พูดเล่นกับฉันล่ะมั้ง ซึ่งการพูดเล่นของเขาฉันไม่ตลกด้วย
"คุณต้องนอนกับผม ผมจ่ายค่ารักษาให้แม่คุณ คุณเป็นหนี้ผม คุณต้องนอนกับผมเพื่อใช้หนี้" เขายังคงยืนยันหนักแน่นกับคำพูดของตัวเอง
"ไม่..." ฉันส่ายหน้าไปมาพร้อมกับสะบัดมือออก มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้สิ ตอนนี้เขาโอนมาให้ฉัน 1 แสนแล้ว ฉันก็จะพยายามหาอีก 4 แสนมาให้ได้ แต่ฉันจะไม่นอนกับเขา
เรื่องอะไรฉันจะนอนกับผู้ชายที่ไม่รู้จักล่ะ และฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่อ้าขาให้ผู้ชายง่ายๆด้วย ถ้าแม่รู้ว่าฉันทำเรื่องแบบนี้ แม่คงด่าฉันยับเยิน ฉันไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตัวเองไปทำเรื่องพรรค์นั้นหรอก
"แต่แม่ของคุณต้องการใช้เงินเป็นค่ารักษานะ ถ้าจะให้ผมเสียเงิน 4-5 แสน เพื่อให้คุณเอาไปรักษาแม่แล้วไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลย ผมไม่ยอมจ่ายหรอกนะผมเป็นนักธุรกิจ ถ้าผมต้องเสียเงินโดยใช่เหตุฉันก็ไม่เสีย"
"อันนั้นก็แล้วแต่คุณค่ะ"
"คุณไม่ตกลงสินะ"
"เชิญคุณออกไปได้แล้วค่ะ ฉันไม่ต้องการเงินของคุณอีกแล้ว ฉันจะพยายามหาเงินเอง ฉันจะพยายามหาเงินมารักษาแม่ แต่ฉันจะไม่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อเงินเด็ดขาด"
"เธอแน่ใจเหรอสาวน้อย"
"แน่ใจค่ะ คุณอาจจะได้ผู้หญิงคนอื่นมาง่ายๆ แต่สำหรับฉันไม่มีทางค่ะ" ฉันเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างถือดี ฉันจะไม่ยอมขายศักดิ์ศรีของตัวเองหรอก
"ก็ได้ คุณไม่ยอมรับข้อเสนอของผมก็ไม่เป็นไร แต่ผมอยากให้คุณเก็บนามบัตรเอาไว้ ถ้าเกิดว่าคุณเปลี่ยนใจ ก็ติดต่อผมมาทันทีแล้วกัน ผมไม่ชอบบังคับผู้หญิง ถ้าเกิดพร้อมวันไหนก็ติดต่อมาแล้วกัน"
"ไม่มีวันนั้นหรอกค่ะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นจ้องมองคนตัวโตด้วยแววตากระด้าง เขายิ้มให้ฉันแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้
"มันก็ไม่แน่ครับ ถ้าคุณไม่ได้เป็นอะไรแล้ว พรุ่งนี้คุณค่อยออกจากโรงพยาบาลแล้วกัน ค่าทำขวัญผมเคลียร์แล้วส่วนค่ารักษาพยาบาลเดี๋ยวผมจะไปเคลียร์เอง ส่วนข้อเสนอที่ผมยื่นให้คนไป ตอนนี้คุณอาจจะยังไม่ตอบรับ แต่วันหน้าคุณอาจจะตอบรับก็ได้"
"ไม่มีทาง!"
"อย่าเพิ่งพูดเลยครับ คิดดูให้ดีก่อน มะเร็งรักษาเร็วก็หายเร็ว แต่ถ้ารักษาช้า โอกาสที่จะรอดก็มีน้อยลงนะ"
"หุบปากค่ะ" ฉันเสียงขุ่น
"ครับ เก็บนามบัตรไว้ดีๆ นะ ถ้าคุณจำเป็น คุณอาจจะได้ใช้มัน"
"..." ฉันไม่ตอบแต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น
"ผมกลับก่อนแล้วกันผมมีธุระ"
"เชิญค่ะ"
"หึ!" เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะไหวไหล่เล็กน้อยเดินออกไปจากห้อง
ตอนแรกฉันก็คิดว่าเขาเป็นคนดีอยู่หรอกค่ะ แต่พอเขายื่นข้อเสนอแบบนั้นมาให้ฉัน มันทำให้ฉันมองเขาเปลี่ยนไป เขาไม่ได้ดีอย่างที่ฉันคิดในตอนแรก เขายื่นข้อเสนอเพื่อให้ฉันสนอง มีแต่คนตัณหากลับเท่านั้นแหละค่ะที่ทำเรื่องแบบนี้
ฉันถอนหายใจมองสายน้ำเกลือของตัวเอง ฉันตัดสินใจดึงสายน้ำเกลือออก เปิดตู้เล็กข้างเตียงก็เจอเสื้อผ้าที่ฉันเคยสวมใส่ถูกพับไว้ ฉันรีบหยิบมันมาเพื่อผลัดเปลี่ยน พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินออกไป
ฉันต้องหลับไปบ้าน กลับไปหาแม่ ดูแลแม่และคิดหาหนทาง ชีวิตมันคงไม่ได้ไปหมดทุกอย่างเลย พอกลับไปบ้านก็เจอแม่นอนอยู่ในห้อง
"ลูกหายไปไหนมา แล้วหัวลูกไปโดนอะไร?" แม่คงเห็นผ้าก๊อซแปะแผลที่หัวของฉัน ฉันยิ้มแล้วเดินไปนั่งใกล้ๆท่าน
"หญ้าแค่สะดุดล้มค่ะ ไม่มีอะไรหรอก"
"เฮ้อ ทำอะไรก็ต้องระวัง ดีนะที่เป็นแค่นี้ ถ้าเกิดมากกว่านี้คงแย่"
"ค่ะแม่"
"รีบไปทำอาหารได้แล้ว เดี๋ยวพวกคุณๆจะหิว"
"ค่ะแม่" ฉันยิ้มให้แม่ แล้วรีบเดินตรงไปที่ครัวเพื่อจัดแจงทำอาหารให้ทุกคนได้ทาน ฉันเดินเงียบผ่านคุณท่านทั้งสาม ฉันนิ่งเงียบไม่เอ่ยคำพูดใด ฉันไม่ได้โกรธ ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธหรอกค่ะ ในเมื่อไม่ให้หยิบยืมฉันก็คงทำใจ และคิดหาทางออกเรื่องนี้ต่อไป
แต่จะคิดหาวิธีไหนก็ยังคิดไม่ตกเลย..
หลังจากที่ทำอาหารฉันก็ยกมาเสิร์ฟ คุณฟ้าใสไม่แม้แต่จะมองหน้าฉัน คุณฟ้าใสคงไม่พอใจฉัน ที่ฉันหยิบยืมเงิน
"วันนี้ทำอะไรให้พวกเราทานล่ะดอกหญ้า"
"วันนี้มีพะแนง พะโล้ แกงเขียวหวานค่ะ"
"น่ากินทั้งนั้นเลย"
"ค่ะ"
"เธอคงเหนื่อยกับงานที่ทำ พรุ่งนี้จะมีคนใช้คนใหม่มาช่วยเธอทำงานนะ"
"ค่ะ" ฉันยิ้มแล้วตักข้าวใส่จานให้ ทุกคนทานข้าวดูมีความสุข ต่างจากฉันที่กำลังทุกข์เพราะเรื่องค่ารักษา ฉันเก็บกวาดทุกอย่างเสร็จก็มานั่งในห้องกับแม่ ปรับทุกข์กันไปเรื่อย
ฉันไม่ได้เล่าเรื่องผู้ชายคนนั้นให้ท่านฟังหรอก ฉันกลัวแม่ฉันจะเครียดฉันกลัวแม่ฉันจะคิดมาก
"รู้ไหมว่าชื่อดอกหญ้าพ่อเป็นคนตั้ง" แม่ลูบเรือนผมหอมกรุ่นของฉันเบาๆ
"รู้ค่ะ เพราะแม่เป็นคนเล่าให้ฟัง" ว่าจบก็สวมกอดร่างเล็กของแม่เอาไว้แน่นๆ แม้จะมีความทุกข์แต่มันก็มีความสามารถที่ได้อยู่ด้วยกันตามประสาแม่ลูก
"ถ้าแม่ไม่ป่วยลูกคงจะได้เรียนสูงกว่านี้ ได้ทำงานดีกว่านี้ แม่ขอโทษนะลูก"
"ไม่เป็นไรค่ะ แม่หายป่วยหญ้าก็ไปเรียนต่อได้ ถ้าแม่อยากให้ดอกหญ้าเรียนหนังสือต่อ แม่ก็ต้องรีบหายไวๆ"
"จ้ะ" แม่ยิ้ม
"รักแม่ที่สุดเลย" ฉันยิ้มแล้วกอดกระชับแม่ให้แน่นกว่าเดิม
