2แรกเจอ
ตอนที่ 2
แรกเจอ
มีนามองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ตรวจดูความเรียบร้อยก่อนเดินออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวตื่นแต่เช้า ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมต้อนรับคุณหมอที่กำลังจะเข้ามาช่วงสาย
“คุณหมอคนนี้เก่งมากเลยนะคะคุณแม่ คุณแม่ต้องสู้นะคะ”
ถึงแม้ว่ามยุริญจะไม่รับรู้อะไรเลย แต่มีนาก็ยังคงพูดคุยกับแม่อยู่เสมอ บางครั้งหญิงสาวก็อ่านหนังสือให้แม่ฟัง บางทีก็เปิดเพลงคลอเบาๆ มีนาไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมีประโยชน์หรือเปล่า แต่อย่างน้อยๆเธอก็ได้สื่อสารกับแม่
“เดี๋ยววันนี้หนูจะนวดให้คุณแม่นะคะ”
หญิงสาวเอ่ยก่อนถอยออกมานั่งที่โซฟาเมื่อพยาบาลเข้ามาเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผู้เป็นแม่ เสียงโทรศัพท์ทำให้หญิงสาวปลีกตัวออกมาที่ระเบียง
“ว่าไงรส”
รสสุคนธ์เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของมีนา ทั้งสองสนิทสนมกันมาก ในช่วงที่มีนาประสบปัญหาเรื่องครอบครัวและเรื่องการเงิน รสสุคนธ์จึงชวนเพื่อนมาร่วมหุ้นเปิดแบรนด์เสื้อผ้าด้วยกัน และด้วยความที่มีนาอยากมีรายได้ เธอจึงได้ตัดสินใจเจียดเงินเก็บของตัวเองไปร่วมลงทุนกับรสสุคนธ์ด้วย
“ฉันส่งแบบเสื้อผ้าให้ดูแล้วนะ ช่วยเลือกหน่อย”
“โอเค เดี๋ยวฉันจะเลือกแล้วส่งกลับไปให้นะ”
รสสุคนธ์รู้ดีว่ามีนาไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่ เธอจึงดูแลรับผิดชอบเรื่องต่างๆด้วยตัวเอง และให้มีนามีส่วนร่วมบ้างตามที่อีกฝ่ายร้องขอ
ตอนแรกรสสุคนธ์ตั้งใจว่าจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะเธอเห็นใจมีนาที่ต้องคอยดูแลผู้เป็นแม่อยู่ตลอดเวลา แต่มีนาไม่ยอมเพราะไม่อยากเอาเปรียบเพื่อนจึงได้ขอให้อีกฝ่ายช่วยส่งงานมาให้เธอทำ
“ไม่ต้องรีบนะ งานไม่เร่ง”
รสสุคนธ์เอ่ย เพราะเธอเห็นใจเพื่อน เธอจึงอยากช่วยเหลือ แต่มีนาไม่ยอมรับเงินจากใครเลยสักคน รสสุคนธ์จึงต้องหาวิธีช่วยแบบอื่นแทน
“ไม่เป็นไรหรอกพอดีว่าเรากำลังว่าง”
“ตามใจก็แล้วกัน อีกไม่กี่วันก็จะส่งแบบให้โรงงานแล้ว ถ้าตัดเย็บเสร็จเรียบร้อยเดี๋ยวฉันเอาไปให้ดูที่โรงพยาบาลนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกรส เดี๋ยวเราไปหาเธอเอง”
“แต่เธอต้องดูแลแม่”
รสสุคนธ์เห็นใจเพื่อนและไม่เคยมองว่าอีกฝ่ายเป็นภาระ และไม่เคยมองว่ามีนากำลังเอาเปรียบเธออยู่ แต่เป็นเธอต่างหากที่เต็มใจช่วยเพื่อนคนนี้
“รสลำบากเพราะเรามามากแล้วนะ ให้เราช่วยงานรสบ้างเถอะ”
“ไม่เห็นต้องคิดมากเลย เราเป็นเพื่อนกันเราก็ต้องช่วยเหลือกัน อีกอย่างฉันก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองลำบาก”
ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกผิด ยิ่งเพื่อนแสนดีกับเธอมากแค่ไหน เธอก็ยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้นเท่านั้น แทนที่เธอจะช่วยงานเพื่อนได้อย่างเต็มที่ แต่เธอรู้สึกว่าเธอกำลังกินแรงเพื่อนอยู่
“แต่ว่าเรา….”
“ไม่ต้องคิดมากหรอก พอดีฉันจะไปเยี่ยมแม่เธอด้วย ไว้เจอกันนะ”
รสสุคนธ์ตัดสายแบบที่ไม่เปิดโอกาสให้มีนาได้ปฏิเสธ หญิงสาวถอนหายใจ ก่อนที่เธอนั้นจะเดินกลับเข้ามาในห้อง
“คุณพยาบาลคะ คุณหมอจะเข้ามากี่โมงคะ”
มีนาเอ่ยถามพยาบาลสาว พร้อมกับมองนาฬิกาบนผนังไปด้วย
“ไม่เกินชั่วโมงก็จะเข้ามาแล้วค่ะ”
มีนาพยักหน้าก่อนถอยไปนั่งที่โซฟาเหมือนเดิม หลังจากที่พยาบาลจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ทยอยเดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งอยู่คนเดียวเพียงลำพัง
แต่อยู่คนเดียวได้ไม่นานเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเสียงทักทายนุ่มทุ้มดังขึ้นมา
“สวัสดีครับ”
หญิงสาวหันกลับไปมอง ทำให้ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย
“ญาติคนไข้ใช่ไหมครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยถาม พลางจ้องมองหญิงสาวไม่วางตา
“ใช่ค่ะ คุณหมอมาวินหรือเปล่าคะ”
“ครับ ผมคุณหมอมาวินครับ เป็นคนดูแลเคสคุณมยุริญ”
มีนาพยักหน้าเบาๆก่อนจะถอยให้ชายหนุ่มเข้าไปตรวจแม่ของเธอ โดยที่เธอก็ยืนมองอยู่ห่างๆ
“เดี๋ยวผมจะส่งคุณมยุริญไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดนะครับ จากการตรวจเบื้องต้นยังไม่มีอาการผิดปกติแทรกซ้อนขึ้นมา แต่ผมก็อยากตรวจให้แน่ใจ อยากตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง คุณมีนาคิดว่ายังไงครับ”
“ตามที่คุณหมอเห็นสมควรเลยค่ะ”
อะไรที่คุณหมอว่าดีเธอก็ว่าดี การตรวจร่างกายอย่างละเอียดก็จะทำให้รู้ว่ามีโรคแทรกซ้อนอะไร ซุกซ่อนอยู่หรือเปล่า ถ้าหากมีจะได้รักษาได้ทันท่วงที ซึ่งนั่นก็เป็นผลดีกับแม่เธอ
มีนาเลื่อนสายตาจากใบหน้าชายหนุ่มมองที่ป้ายชื่อของเขา เธอชะงักเมื่อเห็นนามสกุลของเขาชัดๆ
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
มาวินเอ่ยถามเมื่อเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของหญิงสาว เธอไม่ตอบอะไร แค่หันหลังกอดอกยืนเงียบๆคนเดียว ชายหนุ่มรู้สึกงุนงงนิดหน่อยกับท่าทางของหญิงสาว เขามองเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนเดินออกไป
มาวินไม่เข้าใจว่ามีนาเป็นอะไร ทำไมจู่ๆถึงดู มึนตึงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ชายหนุ่มพยายามคิดทบทวนว่าเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า แต่คิดไปคิดมาเขากับเธอเจอกันไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ ในระยะเวลาเพียงเท่านี้เขานึกไม่ออกเลยว่าเขาทำอะไรให้เธอไม่พอใจ
หลังจากที่หมอหนุ่มออกไปหญิงสาวก็หน้าเครียดขึ้นมา หากเธอรู้ว่ามาวินจะมาเป็นหมอประจำตัวของแม่ เธอคงปฏิเสธตั้งแต่แรก
มีนารู้สึกไม่สบายใจ เธอเกลียดชังคนนามสกุลนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วเมื่อรู้มาวินเป็นคนของตระกูลนั้น ก็ทำให้เธอรู้สึกอคติขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรให้ก็ตาม แต่หญิงสาวก็ไม่ยินดีที่จะให้เขามาดูแลแม่ของเธอ
มีนากรอกตาไปมา เธอไม่สะดวกใจที่จะให้มาวินเป็นคนดูแลแม่ของเธอ ต่อให้เขาจะเก่งมากแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็ไม่อยากให้คนในตระกูลนี้เข้ามายุ่งวุ่นวายกับคนในครอบครัวของเธออีก
หญิงสาวยังไม่รู้ว่ามาวินมีความเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ชายคนนั้น แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ไว้ใจคนตระกูลนี้ เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าชายหนุ่มเป็นอะไรกับปราโมทย์
“คุณพยาบาลคะ ขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหมคะ”
เมื่อเห็นพยาบาลสาวเดินผ่านมามีนาจึงเรียกไว้เพราะเธอมีเรื่องสำคัญอยากจะคุย และอยากจะขอให้คุณพยาบาลช่วยเหลือด้วย
