เมียหมอ 4
@U CLUB
“เป็นอะไร ตั้งแต่มาถึงเห็นเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา”
เสียงนิวดังขึ้นในขณะที่ฉันกำลังนั่งเงียบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เพราะตั้งแต่มาถึงฉันเอาแต่ดื่มไม่พูดไม่จา ทั้งๆ ที่ออกมาเที่ยวแท้ๆ แท้ในสมองกลับคิดถึงแต่เรื่องของหมอภีม
“แค่เบื่อๆ เซ็งๆ” ฉันตอบกลับสั้นๆ ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มจนหมดในคราเดียว จนตอนนี้เริ่มรู้สึกมึนๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว
“มีปัญหาอะไรบอกกันได้นะ จะได้ไม่ต้องเก็บไว้คนเดียว”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องไร้สาระน่ะ ขอโทษที่ทำให้เสียบรรยากาศนะ เรามาดื่มต่อกันเถอะ” ฉันตอบปัดๆ ไป เพราะไม่อยากให้คนที่อยู่ใกล้รู้สึกหมดสนุกไปด้วย
“…..” นิวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นั่งมองหน้าฉันแบบไม่ละสายตา
ไอ้คนบ้า! ต่อให้มองหน้าฉันจนตาจะหลุด ฉันก็ไม่หวั่นไหวหรอกย่ะ
“มองอะไร?”
“มองคนสวย”
“พูดแบบนี้ก็เขินแย่สิ”
“ฉันพูดความจริง เธอน่ะสวยมาก รู้ตัวบ้างหรือเปล่า?”
“รู้ตัวสิ บ้านฉันมีกระจกนะ”
“…..” นิวนั่งเงียบไปเมื่อได้ยินในสิ่งที่ฉันบอก เขาคงไม่คิดมาก่อนว่าฉันจะหลงตัวเองได้มากขนาดนี้
“ล้อเล่น” ฉันถึงกลับหลุดขำออกมายกใหญ่เมื่อเห็นสีหน้าเหลอหลาของนิว
“ยังขี้เล่นไม่เปลี่ยนเลยนะ ใครอยู่ใกล้เธอก็มีความสุขทั้งนั้นแหละ”
“คงไม่ขนาดนั้นหรอก ชักจะชมกันเกินไปแล้วนะ”
“ฉันพูดความจริง” นิวตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผู้ชายปากหวานแบบนี้ ส่วนมากจะเจ้าชู้ทั้งนั้น ฉันรู้ทันหรอกย่ะ ไม่มีวันติดกับดักหรอก
“…..”
ครืด~ เสียงโทรศัพท์ของนิวดังขึ้นอีกแล้ว แต่เขาก็เลือกที่จะกดตัดสายเหมือนทุกครั้งด้วยอารมณ์หงุดหงิด จนฉันเริ่มสงสัยว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครกันแน่
“รับโทรศัพท์สิ เห็นโทรหาตั้งหลายสายแล้วนะ”
“ไม่อยากรับ น่าเบื่อ” นิวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่คล้ายกับรำคาญเต็มทน
“เมียโทรตามเหรอ?” ฉันแกล้งพูดแซว
“ฉันยังไม่มีเมียสักหน่อย”
“เห็นโทรตามถี่ขนาดนี้ นึกว่าเป็นเมียซะอีก”
“…..”
“ตอนนี้ดึกมากแล้ว ฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะ เอาไว้เจอกันใหม่” ฉันก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะพบว่าตอนนี้เที่ยงคืนกว่าแล้ว
“เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ไม่เป็นไร”
“ไม่ได้เอารถมาไม่ใช่หรือไง เป็นผู้หญิงแถมยังเมาขนาดนี้กลับแท็กซี่คงอันตรายแย่” นิวมองฉันด้วยความเป็นห่วง เพราะเพิ่งบอกเขาไปว่ารถฉันมันมีปัญหาเลยเอาเข้าศูนย์ไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว กว่าจะซ่อมเสร็จก็คงนานร่วมเดือน
“ฉันดูแลตัวเองได้ นายไม่ต้องห่วง”
“กลับทางเดียวกัน ให้ฉันไปส่งน่ะดีแล้ว”
“เอางั้นก็ได้” เมื่อทนแรงรบเร้าของเขาไม่ไหว ฉันจึงยอมตกลงแต่โดยดี
คอนโดอันนา…
“ถึงบ้านแล้วอัน ตื่นๆ”
ฉันค่อยๆ ขยับเปลือกตาอันแสนหนักอึ้ง เมื่อได้ยินเสียงนิวที่ดังอยู่ข้างๆ
พระเจ้าช่วย! ทำไมถึงมึนหัวได้มากขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะดื่มหนักเกินไป เลยทำให้เมาจนเห็นภาพซ้อนและทุกอย่างรอบตัวดูช้าไปหมด
“เดินไหวหรือเปล่าเนี่ย”
“…..”
“ฉันบอกแล้วว่าไวน์ยี่ห้อนี้มันแรง อย่ากินเยอะ สุดท้ายเป็นไง”
“ไม่ต้องพูดมาก พาขึ้นห้องที” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสะลึมสะลือพลางล้วงหยิบคีย์การ์ดห้องให้นิวขึ้นไปส่ง
นิวประคองเดินหิ้วปีกฉันเข้ามาในอาคารของคอนโดด้วยความทุลักทุเล ซึ่งฉันเองก็มีสติและรับรู้ทุกอย่าง เพียงแค่ร่างกายมันตอบสนองไม่ได้เท่านั้นเอง
ไม่นานนัก เราสองคนก็มาหยุดยืนที่หน้าห้องของฉัน ซึ่งอยู่ชั้นที่สิบห้าของคอนโด ซึ่งต้องบอกก่อนว่าฉันไม่ได้รวยหรือมีฐานะอะไรมาก แต่ที่เลือกอยู่คอนโดเพราะมันสะดวกแล้วฉันก็อยู่ตัวคนเดียว คงเหมาะกับห้องเล็กๆ มากกว่าอยู่บ้านเป็นหลัง
แอดด~ แค่สัมผัสเบาๆ บานประตูห้องฉันก็ค่อยๆ แง้มออก โดยที่ยังไม่ทันได้แตะคีย์การ์ดด้วยซ้ำ
“ลืมล็อกห้องงั้นเหรอ?” นิวหันมาถามเสียงดุ
“แต่ฉันจำได้ว่าล็อกแล้วนะ” ฉันเกาหัวด้วยความงุนงง ถึงตอนนี้จะเมามาก แต่ก็จำได้ว่าก่อนออกไปหานิว ฉันล็อกดีแล้ว
“ล็อกบ้าอะไร เธอยังไม่ได้ล็อก”
“คงใช่ สงสัยลืม”
“เป็นผู้หญิงอยู่ห้องคนเดียว คราวหน้าห้ามลืมล็อกห้องอีก มันอันตรายนะรู้ไหม”
“บ่นเหมือนพ่อฉันเลยนะ”
“ยังจะมาล้อเล่นอีก ไปเข้าห้อง”
“ขอบคุณมากที่มาส่ง เอาไว้คราวหน้าจะเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการขอบคุณ”
“กลับจากสิงคโปร์ค่อยว่ากัน”
“งั้นฉันเข้าห้องก่อนนะ แล้วเจอกันใหม่”
ฉันเดินโซซัดโซเซเข้ามาในห้อง โดยมีสายตาที่เป็นห่วงของนิวคอยมองตามมา ถ้าหมอภีมเป็นห่วงฉันได้แค่ครึ่งนึงของนิวก็คงจะดี ฉันคงจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดในโลก
ตุบ! ฉันทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างหมดสภาพท่ามกลางความมืดภายในห้อง ก่อนที่ภาพรอบตัวจะค่อยๆ ตัดไป
“จะ…เจ็บ อื้ออ จะ…เจ็บ” ฉันสะดุ้งด้วยความเจ็บปวด ร่างกายมันบีบรัดหดเกร็งเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังรุกล้ำเข้ามาในช่องรักคับแคบ โดยปราศจากสารล่อลื่น
ฉันค่อยๆ เพ่งสายตามองไปยังคนที่ขยับอยู่ด้านบนตัวฉันในความมืดสลัว ก่อนที่สายตาจะปรับภาพตรงหน้าแล้วเห็นว่าเป็นหมอภีมที่กำลังทำเรื่องแบบนั้นกับฉันอย่างหนักหน่วงโดยที่ท่อนล่างของเราทั้งคู่เปลือยเปล่าต่อกัน
“มะ…หมอขาอย่าทำแรง อื้ออ” ฉันกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดซิบเมื่อจังหวะที่เขามอบให้เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บ้าจริง! ฉันเมามากจนเก็บไปฝันเลยเหรอเนี่ย
มือสากเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นเต้าอวบทั้งสองข้างผ่านเสื้อตัวบาง ก่อนที่ใบหน้าคมคายจะโน้มลงต่ำมาจ้องหน้าฉันด้วยสายตาบางอย่างที่รู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก
ฉันตัดสินใจยกมือทั้งสองขึ้นประคองใบหน้าหล่อเหลาของหมอภีมเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่กำลังโดนกระทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ความฝัน
“เป็นหมอจริงๆ ใช่ไหม?” ฉันถามเสียงสั่นด้วยความสับสน
“ใช่ ฉันเอง!” หมอภีมตอบกลับพลางกระแทกกระทั้นท่อนเอ็นเข้ามาในร่องสวาทเพื่อยืนยันว่าเหตุการณ์ตรงหน้าคือเรื่องจริง
“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่ายุ่งกับผู้ชายหน้าไหน ทำไมไม่ฟัง!”
“…..”
