บท
ตั้งค่า

28

ท่านประธานหนุ่มช้อนอุ้มเรือนร่างอ่อนปวกเปียกขึ้นแนบอก เขาแทบจะวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉินโดยมีนงพงาคอยอำนวยความสะดวกช่วยกดลิฟต์ให้ แต่หัวหน้าผู้เข้มงวดก็ยังไม่วายหันมากราดมองลูกน้องด้วยสายตาเข้มดุ ทั้งหมดจึงรีบสลายตัวเข้าประจำโต๊ะใครโต๊ะมัน หนึ่งในนั้นยังแอบชะเง้อมองตามด้วยใบหน้าซีดเซียวมือไม้เย็นเฉียบ……

“นี่ ๆ พวกเราเห็นหรือยังว่ายัยนั่นอ้อนท่านประธานขนาดไหน แบบนี้ใครจะไม่ลุ่มหลง....เฮอะ....ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็หลงหัวปักหัวปำกันทั้งนั้น.......ไม่รู้ว่าเอาเมียท้องโตไปเก็บไว้ที่ไหน” ศัลยาหน้าตาบิดเบ้ สาวช่างเม้าท์ตั้งใจเปิดประเด็นหวังให้คนทั้งแผนกร่วมเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์

“อ๋อ...คนนี้คือคุณบุ้งกี๋ผู้ช่วยท่านประธานน่ะเหรอ” ใครคนหนึ่งถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจว่าผู้หญิงในอ้อมแขนท่านประธานเป็นใครกันแน่

“ก็ใช่น่ะสิ...แม่คนนี้แหละที่ใจกล้าเสนอหน้าอยู่ในห้องท่านประธาน ในขณะที่เมียเขาป่วยอยู่ชั้นล่าง วันก่อนไง ไอ้ตำแหน่งผู้ช่วยอะไรนั่นก็แค่บังหน้าเท่านั้นแหละย่ะ....” ศัลยาขยายความหลังจากคราวที่แล้วหล่อนเคยเอาเรื่องนี้มากระจายข่าวอย่างสนุกปากมาครั้งหนึ่งแล้ว

“ใครจะกล้าลงทุนเสี่ยงชีวิตอ้อนผู้ชายแบบนี้คะ เผลอ ๆ อาจจะโดนแกล้งหรือว่าตั้งใจฆาตกรรมมากกว่า” โสภาซึ่งไม่ค่อยชอบหน้าศัลยาสักเท่าไรเอ่ยขัดขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าคนพูดและคนอื่น ๆ ในห้องก็พากันมองหล่อนเป็นตาเดียว

“นี่....พวกหล่อนอย่ามาปรักปรำหาคุกให้ฉันนะยะ” ศัลยาโวยลั่นเมื่อส่วนใหญ่ดูจะโน้มเอียงไปทางเหตุผลของอีกฝ่าย

“เฮอะ !.....กินปูนร้อนท้อง...ระวังเถอะยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วออกตัวแรงซะขนาดนั้น อาจจะถึงกับต้องหางานใหม่ก็ได้นะ หล่อนไม่เห็นท่าทางของคุณหมอหรือไง...” โสภาเลือกเชื่อสิ่งที่ตาเห็น

“ฮึ !...พูดบ้า ๆ” เมื่อเกมพลิก ไม่มีใครเห็นด้วยกับหล่อน ทำให้ศัลยากระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้ของตัวเองอย่างหัวเสีย……ถ้าหมอทัพพ์จะมีเมียอีกสักคนเอาไว้เชิดหน้าชูตาก็น่าจะเป็นคุณจีรณามากกว่า เพราะดูท่าทางว่าเมียคนที่ท้องโตก็ไม่เห็นจะมีสง่าราศีเลยสักนิด อาจจะเกิดพลาดพลั้ง.....หมอทัพพ์จึงทำแค่เพียงรับผิดชอบแต่ก็ให้เป็นแค่เมียเก็บ...ศัลยาคิดไปเองเป็นตุเป็นตะ แน่นอนว่าหล่อนเชียร์จีรณาสุดตัว เพราะอีกฝ่ายมักมีของเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากเสมอ

“เสร็จหรือยังหึ...ยัยฤดี” ศัลยาหันไปตวาดเด็กใหม่ที่หล่อนใช้ให้ถ่ายเอกสาร ....ไม่มีอะไรมากแค่ขวางหูขวางตา

“อ๊ะ !....” หญิงสาวสะดุ้ง.....ตกใจปล่อยเอกสารในอ้อมแขนหล่นกระจายเต็มพื้น

“อะไรกัน ฉันถามแค่นี้ทำเป็นขวัญอ่อนไปได้” ศัลยายังหาเรื่องระบายอารมณ์กับเด็กใหม่อย่างฤดีอีกจนได้

ฤดีได้แต่ก้มหน้านิ่งซ่อนน้ำตาที่เอ่อจนแทบจะไหลล้นออกมาให้ได้โดนต่อว่าอีกครั้ง หล่อนเกลียดความอ่อนแอของตัวเองเหลือเกินรู้สึกเหมือนตนเองด้อยกว่าทุกคนรอบตัว

“ผมช่วย” บอย ผู้ชายหน้าจืดหนึ่งเดียวในแผนกเข้ามาช่วยเก็บเอกสาร ปกติเขาไม่ชอบยุ่งกับใคร เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง หรืออาจจะเป็นเพราะในแผนกนี้มีแต่ผู้หญิง และเขาเองก็ดูจืดชืดเกินกว่าพวกหล่อนจะมาสนใจก็ได้......

“ขอบคุณค่ะ.....เอ่อ.....พี่บอย” ฤดีน้ำตารื้นเมื่อสบสายตาว่างเปล่าของชายหนุ่มแวบเดียวแล้วก็ต้องหลุบตาลง...... อย่างน้อยเขาก็มีน้ำใจกับหล่อนทั้งที่ปกติแล้วฤดีไม่ค่อยได้เจอะเจอกับคนมีน้ำใจสักกี่คน ถึงแม้คน คนนั้นจะยื่นมือเข้ามาอุปการะในวันที่หล่อนไม่เหลือใคร แต่หล่อนก็โดนกดข่ม ตกเป็นเบี้ยล่างอยู่ร่ำไป.......

ห้องพักผู้ป่วย

ชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างเตียง มืออบอุ่นกุมมือคนไข้ที่นอนหลับตาพริ้ม โดยที่แขนอีกข้างของหล่อนติดสายน้ำเกลือระโยงระยาง......สายตาอ่อนแสงทอดมองใบหน้าจิ้มลิ้มขนตางอนงามอีกทั้งริมฝีปากอิ่มที่มักจะแย้มยิ้มหยอกเย้าเคล้าเสียงหัวเราะหวาน ๆ แล้วรู้สึกใจหาย ถ้าหากเขานิ่งนอนใจไม่ออกไปตามหาไม่รู้ว่าป่านนี้หล่อนยังจะมีลมหายใจรอให้เขาไปรับอยู่หรือเปล่า.........หมอทัพพ์ซบหน้านัยน์ตาร้อนผ่าว อาการบีบคั้นในอกข้างซ้ายยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าหล่อนมีความสำคัญต่อชีวิตเขามากมายแค่ไหน หล่อนคือความสดใส หากวันหนึ่งวันใดต้องสูญเสียหล่อนไป เขาไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร คงไม่ต่างจากตายทั้งเป็น........

“พี่หมอ.....” หญิงสาวกระพริบตาถี่ ๆ เมื่อลืมตาตื่นมาเห็นผู้ปกครองหนุ่มนั่งซบอยู่กับฝ่ามือของตัวเอง หล่อนจำได้ก่อนที่จะหมดสติว่าดีใจมากที่เห็นหน้าเขาในตอนที่ตัวเองคิดว่าต้องตายแน่ ๆ เพราะหายใจเข้าไปยังยากรู้สึกว่าอ๊อกซิเจนมีค่าก็ตอนนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel