บท
ตั้งค่า

บทที่ 2. ต่อ..

ในบ้านหลังงามที่ฝันงามกับพรรคพวกกำลังจดจ้องอยู่นั้น ชายหนุ่มวัยสามสิบเอ็ดปีรูปร่างสูงใหญ่แบบคนเลือดผสมก็กำลังนั่งหน้าเครียดมองบุคคลตรงหน้าด้วยแววตาเย็นชา...

“แกต้องช่วยแม่นะตาวิน แม่ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ตากานต์ก็ยังไม่รู้ว่าไปเที่ยวกับเพื่อนที่ไหน ทั้งไอ้กำนันบ้านั่นมันก็เร่งเร้ามา แม่ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”

คุณหญิงเกศแก้วเอ่ยปากเว้าวอนกับคนที่นางแสนจะชิงชังอย่างยอมจำนน นั่นก็เพราะมีเพียง กวิน หรือ ควินซ์ การ์เนอร์ ลูกชายของสามีกับหญิงชาวอเมริกันที่นางชังนักชังหนาจนไม่ยอมให้เขาใช้นามสกุล เลิศยุทธจักร ของ นายเกรียงไกร เลิศยุทธจักร สามีที่ล่วงลับไปแล้วหลายปี แต่ยังทิ้งหนามแหลมไว้ทิ่มแทงใจของนาง แต่ถึงแม้จะไม้ยอมให้กวินใช้นามสกุลของคุณเกรียงไกรแต่นางก็ให้กวินเรียกนางว่า คุณหญิงแม่

“ผมคิดว่าคุณหญิงแม่น่าจะให้กานต์แก้ปัญหาเองบ้างนะครับ เขาโตแล้ว จะสามสิบปีไม่กี่ปีข้างหน้านี้แล้ว ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเด็กสามขวบที่คอยให้คนอื่นมาตามเช็ดก้นให้ตลอดแบบนี้”

คุณหญิงเกศแก้วมองใบหน้าหล่อเหลาคมคายกับดวงตาสีฟ้าเข้มที่ได้ดีเอ็นเอทางแม่มาอย่างเต็มเปี่ยมอย่างไม่พอใจ พยายามเก็บซ่อนความริษยาไว้ในอกแต่มันยากเต็มที หากไม่เป็นเพราะต้องการความช่วยเหลือจากกวินนางจะไม่มีวันพูดดีๆ กับลูกนอกสมรสของสามีเป็นอันขาด...

“พี่วินคะอย่าว่าพี่กานต์เลยค่ะ ถือว่าสงสารคุณหญิงป้าท่านนะคะ..”

นีรนุช หรือ หญิงนุช หญิงสาวสวยอ่อนหวานที่เป็นญาติห่างๆ ของคุณหญิงเกศแก้วซึ่งนางนำมาชุบเลี้ยงแต่เด็กๆ เพราะอยากมีลูกสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานตามแบบฉบับกุลสตรีไทย ที่คุณหญิงเกศแก้วภูมิใจนักหนาว่านีรนุชเป็นไปอย่างที่นางต้องการ หัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย อ่อนหวานนุ่มนวล เหมาะจะมีสามีรวยๆ ให้นางได้พึ่งพาอาศัย และอีกไม่นานนางจะส่งนีรนุชไปเป็นอนุของนายพลใหญ่คนหนึ่งที่ร่ำรวยและมีบารมีเพื่อนางจะได้มีหน้ามีตาทางสังคมและมีเงินร่ำรวยเหมือนเมื่อก่อน...

“พี่ว่าคนที่น่าสงสารที่สุดคือพี่มากกว่าที่ต้องมาแบกรับภาระที่ตัวเองไม่ได้ก่อ..” กวินพูดอย่างเย็นชาด้วยความรู้สึกจากใจจริง

ตั้งแต่เล็กจนโตเขาจำได้ดีเสมอว่าคุณหญิงเกศแก้วทำอะไรไว้กับเขาบ้าง ไม่ใช่ว่าเขาจะผูกใจเจ็บ แต่เพราะสิ่งที่เราได้รับและถูกกระทำมันหยั่งรากลึกในใจเขาเกินกว่าจะลบมันออกไป เขาเป็นลูกที่เกิดจากความรักของพ่อแม่อย่างแท้จริง ข้อนี้บิดาบอกเขาเสมอก่อนท่านเสียชีวิตตอนที่เขาอายุสิบสิบสองปีเหมือนโลกที่สดใสมีร่มโพธิ์ร่มไทรคุ้มกะลาหัวล่มสลาย ชีวิตที่ยังพอมีความสุขและได้รับความรักจากบิดาอยู่บ้างก็อ้างว้างโดดเดี่ยวทันที เมื่อบิดาเสียชีวิต ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เพราะบิดาบอกให้เขาเข้มแข็งและอดทนกับชะตากรรมที่จะได้รับจากคนรอบข้าง

ด้วยความรักพ่อเขาจึงทนอย่างที่ท่านบอก ทนนอนในห้องเก็บของ ต้องออกจากโรงเรียนประจำที่ดีพร้อมมาเรียนโรงเรียนวัดที่แสนจะขัดสน ทนเดินไปโรงเรียนที่อยู่ไกลแสนไกลจากบ้านหลังงาม ทนกินอาหารอิ่มบ้างไม่อิ่มบ้าง ทนทำงานแลกที่อยู่อาศัยและอาหารที่เหลือจากที่คุณหญิงกับลูกกินแล้วเพื่อประทังชีวิต ในขณะที่คุณหญิงเกศแก้วและ กานต์ ลูกชายของนางเสวยสุขอยู่อย่างราชา และไม่เคยเหลียวแลใส่ใจเขาแม้แต่น้อย แต่จะใส่ใจเมื่อเขาทำผิดพลาดหรือเมื่อกานต์อยากหาเรื่องใส่ตัว...

มารดาของเขาคือ มากาเร็ต การ์เนอร์ เป็นหญิงอเมริกันซึ่งเป็นครูสอนภาษาที่สถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่งและได้พบรักกับบิดาของเขาทั้งคู่คบหาและได้เสียกันจนมีเขาขึ้นมา แต่คุณย่าของเขาไม่พอใจและไม่ยอมรับสะใภ้ผมทองบังคับให้บิดาของเขาแต่งงานกับคุณหญิงเกศแก้วเพื่อฐานะและหน้าตาทางสังคม จึงกีดกันความรักระหว่างพ่อกับแม่ทั้งที่ตอนนั้นท่านก็อยู่ด้วยกันและเขาก็จำภาพครอบครัวแสนสุขของตนได้ แต่พ่อก็ต้องมาแต่งงานกับคุณหญิงเกศแก้ว ตอนนั้นเขาเพิ่งสามขวบจึงไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ พ่อจึงหายไปไม่อยู่ที่บ้านแม่บอกว่าพ่อต้องไปทำงานและต้องดูแลคุณย่าที่เขาเองแทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับท่านเลยแม้แต่น้อย

เขาจำได้ว่าบิดาจะมาเขาทุกๆ วันหยุด พาไปดูหนังไปเที่ยวสวนสัตว์บางครั้งก็ไปเที่ยวทะเล ชีวิตเมื่ออยู่พร้อมหน้าเขามีความสุขมาก จนวันหนึ่งแม่ของเขาถูกรถชนเสียชีวิตบิดาจึงพาเขามาอยู่ในบ้านด้วย แต่คุณหญิงเกศแก้วก็ตั้งข้อแม้ว่าห้ามไม่ให้เขาใช้นามสกุลของบิดา นั่นคือเรื่องราวของแม่ที่เขาจดจำได้ ตอนนั้นเขาเพิ่งห้าขวบยังมีความทรงจำเกี่ยวกับแม่บ้างและยังจดจำรอยยิ้มของแม่ได้อย่างดี...

“ผมจะบอกตรงนี้เลยว่าผมจะไม่ยุ่ง และขอให้คุณหญิงแม่จัดการปัญหานี้เอาเอง”

“มันจะมากไปแล้วนะกวิน แกคิดว่าแกเป็นใครถึงกล้าดีกับฉันแบบนี้..” คุณหญิงเกศแก้วตวาดลั่นอย่างไม่พอใจเมื่อครั้งนี้กวินไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

“ก็คิดว่าผมเป็นผมนี่ล่ะครับ อย่าลืมนะครับว่าผมไม่ได้ติดค้างอะไรพวกคุณแล้ว ที่เรียกมามีธุระแค่นี้ใช่ไหมครับผมจะได้กลับ..”

กวินลุกขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างไม่ยี่หระกับความเกรี้ยวกราดของคุณหญิงเกศแก้ว ชายหนุ่มเดินอย่างมั่นคงไปที่รถของตนและกำลังจะขับออกไปหากนีรนุชไม่วิ่งมาหาเสียก่อน

“แย่แล้วค่ะพี่วิน คุณหญิงป้า..”

“ถ้าท่านจะเป็นลมหรือหัวใจวาย พี่แนะนำให้หญิงนุชเรียกรถพยาบาล หรือ 1669 นะ พี่ไปล่ะ”

กวินไม่สนใจสีหน้าตื่นตระหนกของหญิงสาวแล้วขับรถออกไปอย่างไม่คิดจะเหลียวแลว่าคนในบ้านนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

“โธ่ พี่วินนะพี่วิน...”

นีรนุชส่ายหน้าช้าๆ อย่างหนักใจ เธอเองก็แค่กาฝากคนหนึ่งที่อาศัยใบบุญของคุณหญิงเกศแก้วมาแต่เล็กแต่น้อย แม้อยู่ในฐานะลูกบุญธรรมแต่เธอก็ไม่ได้มีสิทธิ์มีศักดิ์อะไรมากก็เป็นเช่นผู้อาศัยที่ทำงานแลกกับความเป็นอยู่ที่ดีกว่าสภาพเดิมก่อนหน้าที่เป็นเด็กหญิงผอมโซอดมื้อกินมื้ออยู่กับพ่อขี้เมาที่หาเช้ากินค่ำ พอพ่อของเธอตายคุณหญิงเกศแก้วก็รับเลี้ยงดูเธอมาจนทุกวันนี้

หญิงสาวถอนใจหนักๆ อีกครั้งสีหน้าเศร้าสร้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาคุณหญิงเกศแก้วที่แสร้งเป็นลมเป็นแล้งไปเพื่อให้กวินสนใจ แต่คราวนี้ไม่ได้ผลและเธอก็ไม่วายโดนทุบตีเพราะไม่ได้ดังใจที่นางตั้งความหวังไว้...

“หึ้ยยย ไอ้บ้า ไอ้ลูกฝรั่งขี้นกมันจองหองอวดดี..” คุณหญิงเกศแก้วเกรี้ยวกราดอยู่คนเดียวในห้องพร้อมทั้งมองรูปสามีที่ล่วงลับไปอย่างทั้งรักทั้งแค้น

“เพราะคุณพี่คนเดียว เพราะแกด้วยนังมากาเร็ต หากไม่มีแกกับลูกฉันคงมีความสุขกว่านี้.. ส่วนคุณพี่ก็ชิงหนีไปเสียก่อน รู้มั้ยว่าไอ้เพื่อนรักหน้าเลือดของคุณพี่น่ะมันมาทวงเงินยิกๆ มันใจร้ายใจดำเสียเหลือเกิน บ้าๆๆ ทุกคนแม่งบ้า ไม่มีน้ำใจกับกูเล้ยยยย..”

คุณหญิงเกศแก้วกรีดร้องทึ้งผมตัวเองเหมือนคนบ้าคิดโทษแต่คนอื่นโดยไม่มองว่าที่ตนต้องเป็นหนี้สินท่วมหัวนั้นเพราะใคร... เพราะตัวนางล้วนๆ

คุณเกรียงไกรเป็นเพื่อนรักกับกำนันไผ่ แน่นอนว่าสมัยนั้นกำนันไผ่ยังไม่ได้ร่ำรวยเหมือนทุกวันนี้แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีอันจะกินที่นางมักดูแคลนว่าเป็นเศรษฐีบ้านนอก แต่เมื่อครอบครัวนางมีปัญหาคุณเกรียงไกรก็ได้หยิบยืมเงินจากเพื่อนรักมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องงานและเรื่องลูกชายสุดที่รักก็คือกานต์นั่นเอง แต่กานต์ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากคุณเกรียงไกร แต่เป็นลูกที่เกิดขึ้นจากความรักสนุกของนางเองพ่อแม่จึงจับแต่งงานกับคุณเกรียงไกรซึ่งด้วยความรูปงามของคุณเกียงไกรทำให้นางพอใจและอยากเอาชนะผู้หญิงผมทองแสนสวยคนนั้น...

ด้วยความที่พ่อของกานต์เป็นนักเลงหัวไม้ติดเหล้าติดยาและติดการพนันนิสัยก็กักขฬะหยาบคายและคอยมาไถเงินนางอยู่บ่อยๆ และกานต์ก็ได้นิสัยจากพ่อมาเต็มๆ กานต์เป็นเด็กที่เอาแต่ใจ ขี้โวยวายวางอำนาจบาตรใหญ่ ชอบตบตีคนรับใช้ในบ้าน พอเป็นหนุ่มก็เที่ยวเตร่เฮอาไม่สนใจการงานและเรียนไม่จบทั้งยังชอบข่มเหงคนอื่นไปทั่วโดยเฉพาะผู้หญิง

เด็กสาวรับใช้ในบ้านหลายคนถูกกานต์ข่มเหงรังแก ออกไปบ้างก็มีทนอยู่รองรับอารมณ์กานต์ก็มีแต่นางไม่เคยยอมรับใครให้ขึ้นมาเป็นสะใภ้พอหนักเข้าคุณเกรียงไกรก็ป่วยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เงินทองที่มีก็ร่อยหรอลงไปแต่เพราะกลัวหน้าตาทางสังคมจะเสื่อมถอยนางจึงไปขอกู้จากกำนันไผ่ด้วยเหตุผลที่แสนจะรันทดน่าสงสาร และด้วยความที่กำนันไผ่เป็นเพื่อนรักกันกับคุณเกียงไกรเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันจึงไม่ขัดข้องทุกครั้งที่นางขอกู้เงินโดยไม่คิดดอกเบี้ย ตอนนี้เงินทั้งหมดที่นางกู่จากกำนันไผ่มาก็ห้าสิบล้านแล้ว...

“จะทำยังไงดีๆๆๆ จะทำไงดี..”

คุณหญิงเกศแก้วที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงรุงรังเดินไปเดินมาอยู่ในห้องของตนพึมพำอยู่คนเดียวเหมือนคนเสียสติ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel