บท
ตั้งค่า

Chater 2

‘คุณคิดยังไงถึงได้มารับงานนี้ ผมว่ามันพิลึก’

ดวงตาคมกริบยาวรีที่มองลอดแว่นมายังมัณฑลีนั้นทำให้เธอขวัญผวา เจตวัฒน์มาดขรึม สวมแว่นสายตา หวีผมเรียบ ชวนให้นึกถึงครูฝ่ายปกครองแสนเฮี๊ยบสมัยมัธยม เขาดูดีกว่าที่คิดมาก รูปร่างสูงโปร่ง แข็งแรง คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากหนาติดจะเหยียดออกบึ้งตึงเสียด้วยซ้ำ

‘ฉันก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ’ เธอยอมรับไปตามตรง ปรกติมัณฑลีจะแทนตัวเองเวลาพูดกับคนอื่นว่า ‘ลี’ แต่กับเขาเธอเกรงมาดขรึมๆ จนแทนตัวเองว่า... ฉัน

‘ฉันมีปัญหาเรื่องเงิน แล้วทนายของคุณก็บอกว่างานนี้จ่ายหนัก’

เขาหรี่ตามองเธอสลับกับประวัติที่คฑาวุฒิหามาให้ เจตวัฒน์นัดสัมภาษณ์ที่สำนักงานทนายความเพื่อน เพราะมีห้องที่มิดชิดเป็นส่วนตัว

‘ในประวัติบอกว่าคุณมีพี่ชาย แล้วเขาจะไม่ว่าเหรอถ้าคุณมาทำงานนี้’

‘ปัญหาเรื่องเงินนั้นมาจากพี่ชายฉันค่ะ’

มัณฑลีไม่ได้เล่าเพื่อขอความเห็นใจ แต่เลือกพูดความจริงกันอย่างเปิดอกมากกว่า

‘แล้วผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่แบล็คเมล์ผม’

เจตวัฒน์กอดอกเอนหลังผิงเก้าอี้ มองหญิงสาวอย่างประเมิน

‘ฉันว่าคุณกับเพื่อนคงหาทางป้องกันเรื่องนี้ไว้แล้ว ก่อนที่จะคิดแผนออกมาเสียอีกนะคะ’

เขานิ่ง มองหน้าเธอ มัณฑลีก็นิ่งมองหน้าเขา ภายในห้องที่มีไอเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำแต่กลับกดดันจนทำให้มัณฑลีมีเหงื่อซึมตามไรผม

‘นั่นสินะ’ เขาพึมพำหลุบตาลงถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยอ่อน

‘ฉันไปได้หรือยังคะ’

มัณฑลีตำหนิตัวเองว่าไม่น่าหลงเชื่อลมปากทนายตัวดีเลย ทำไมต้องมานั่งให้ผู้ชายคนนี้มองด้วยสายตาแปลกๆ ไม่รู้ว่าเขาจะดูถูกอะไรในใจ เธออับอายจนอยากรีบหนีกลับบ้าน

‘คุณมีคำถามอะไรอีกไหม’ บอกไปแล้วก็ชะงักเหมือนเจ้าตัวเผลอถามออกมาตามมารยาทมากกว่า มัณฑลีนิ่งคิดไปครู่

‘คุณคิดแผนนี้ขึ้นมาทำไม ทำไมไม่แต่งงานไปกับใครสักคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่คุณก็หล่อ...’ พูดแล้วมัณฑลีก็กัดริมฝีปาก หน้าร้อนซู่ เธอเขินที่ชมผู้ชายต่อหน้า เขาเลิกคิ้ว

‘คุณมีฐานะดี น่าจะมีแฟนหรือผู้หญิงมาชอบ’ ด้วยความอายจึงชมต่อแก้เกี้ยว

‘แล้วคุณล่ะ จะมาทำงานนี้แฟนไม่ว่าเอาเหรอ’ เขาย้อน มัณฑลีส่ายศีรษะ

‘ฉันยังไม่มีแฟน แล้วก็ไม่คิดจะมีด้วย’

เธอหมายความจริงตามที่พูด มัณฑลีมีแฟนมาแล้วหนึ่งคนสมัยมหาวิทยาลัย เหตุผลที่เธอโดนบอกเลิกคือ... น่าเบื่อเกินไป มัณฑลีไม่ใช่คนช่างพูด ไม่ชอบการออกไปเที่ยวข้างนอก ความสุขของเธอคือการได้อยู่บ้าน อ่านหนังสือ ฟังเพลงไปเรื่อยๆ

‘อกหัก...’ เจตวัฒน์เปรยกระแทกใจ สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆ มองลอดแว่นเหมือนจับผิดเด็ก

‘เปล่า ฉันคิดว่าอยู่อย่างนี้ก็มีความสุขดี สัมภาษณ์เสร็จหรือยังคะ ฉันจะกลับแล้ว’

วันนั้นจบลงพร้อมกับความคิดที่ว่าเจตวัฒน์คงไม่จ้างเธอแน่ แต่สามวันต่อมาคฑาวุฒิก็โทร.นัดทำสัญญาด้วยค่าจ้างที่มากกว่าเงินเดือนปัจจุบันที่ทำงานอยู่สองเท่า

‘ทำงานอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีการล่วงเกินกันนะคะ’ มัณฑลีย้ำต่อหน้าผู้ชายทั้งสองเมื่อถึงวันนัดเซ็นต์สัญญา

‘ฉันเสี่ยงมากเลย จะเชื่อใจพวกคุณได้แค่ไหนกันเชียว’

‘ไม่ต้องห่วง คุณไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่ผมชอบ’

เจตวัฒน์ตัดบทหน้าตาย เล่นเอามัณฑลีโกรธจนหน้าแดง ใช่สิ! เธอไม่ใช่คนสวย รู้ตัวเองดี แต่ไม่จำเป็นที่เจตวัฒน์ต้องมาย้ำ

‘ดีเหมือนกัน เพราะคุณก็เป็นผู้ชายแบบที่ฉันไม่สน’

เธอตอกกลับเจ้าตัวไปแบบนั้น หน้าตาเขาดีอยู่หรอก แต่ความที่เป็นนักเรียนนอก เรียนสูง มั่นใจในตัวเอง พูดอะไรก็ดูหยิ่ง กดหัวคนฟังอย่างนี้นี่แหละที่เป็นปัญหา โชคดีที่มัณฑลีอยู่หอพักตั้งแต่แรก การย้ายไปอยู่กับเขาจึงไม่ใช่เรื่องยาก เธอโกหกพี่ชายกับพี่สะใภ้ว่าได้งานดูแลคนชราชาวต่างชาติ ... เงินดี จ้างเป็นปี มีจ่ายล่วงหน้าก้อนใหญ่ มณียาพอเห็นเงินเยอะๆ ก็ดีใจจนไม่ทันได้ถามซอกแซกอะไร

แปดโมงเช้าเป็นเวลาออกจากบ้านของเจตวัฒน์ มัณฑลีถือกระเป๋าเอกสารไปส่งให้เขาที่รถตามปรกติ

“เย็นนี้ต้องไปทานข้าวบ้านคุณย่านะ”

มัณฑลีอึ้งไปครู่ ใบหน้ายังนิ่งอยู่แต่ดวงตามีแววตระหนก เกิดอาการบิดเกลียวในท้องทันทีเมื่อนึกถึงบรรยากาศกดดันในบ้านหลังนั้น

“งั้นเดี๋ยวฉันไปกินข้าวเย็นด้วยดีกว่า” คฑาวุฒิสังเกตเห็นอาการเธอจึงรีบช่วย

“ไม่ต้องหรอกป๊อก คุณย่าบอกว่าจะพูดเรื่องสำคัญ เพิ่งโทร.มาเมื่อวาน ตอนเย็นผมมารับ จะโทร.นัดเวลาอีกที”

เจตวัฒน์บอกเพื่อน ปรายตามองมัณฑลีนิดเดียว ไม่ถามด้วยซ้ำว่าอยากไปไหม รถของสองหนุ่มเคลื่อนออกไปพร้อมกับความกังวลใจของคนรออยู่บ้าน

คุณย่าอนงค์นั้นใจดี

คุณอเนกพ่อเจตวัฒน์เงียบเฉยเหมือนลูกชาย

คุณเปริมาแม่เลี้ยงดูถือตัว

ส่วนเปรมน้องต่างแม่เป็นหนุ่มรูปงามเลือดร้อน มักจะพูดจาขัด เกทับพี่ชายเสมอ

และอีกคนกวิตรา ... สาวสวยและเจตวัฒน์เป็นคนเคยรัก ตอนนี้อยู่ในฐานะน้องสะใภ้ คฑาวุฒิไม่ได้เล่าเหตุผลของการเลิกร้างของทั้งคู่ แต่มัณฑลีพอจะเดาออก ... เขาถูกเปรมน้องชายต่างแม่แย่งกวิตราไป มีบรรยากาศกดดัน คารมเชือดเฉือนยามทั้งสามเผชิญหน้า เปรมมักทำตัวหวาน เอาอกเอาใจภรรยา เพื่อย้ำชัยชนะในเกมรัก หวังให้พี่ชายเจ็บใจ มัณฑลีถอนหายใจก่อนบอกตัวเองว่าอะไรจะเกิดก็ต้องให้มันเกิด หากเหตุการณ์แย่นัก แค่ก้มหน้านิ่ง ข่มอารมณ์ ใครมองอย่างไรอย่าไปสน คิดเสียว่านี่เป็นการทำงานออฟฟิศ เหมือนอย่างเคยที่เธอเคยทำ... เหมือนอย่างเคย

เจตวัฒน์จ้างแม่บ้านจากบริษัทมาทำงานอาทิตย์ละสามวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ ส่วนอาหารแต่ก่อนเขากินนอกบ้าน เมื่อเธอมาอยู่ด้วยก็ต้องรับหน้าที่ทำอาหารไปโดยปริยาย วันไหนแม่บ้านไม่มามัณฑลีจะทำความสะอาดเล็กน้อยๆ รดน้ำดูแลต้นไม้ ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้สามเดือน หญิงสาวไม่ค่อยได้พบกับเพื่อนหรือครอบครัว มัณฑลีเลี่ยงพบใครๆ ไม่อยากตอบคำถาม เรื่องงานและที่พัก เธอไม่ใช่คนเก็บความลับเก่งนัก กลัวว่าสักวันคนรอบข้างจะจับได้ว่ากำลังทำงานอะไรอยู่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel