บท
ตั้งค่า

Chapter 4

“เอาไปคนละชุดนะ ย่าตั้งใจเก็บไว้ให้หลานสะใภ้นานแล้ว มีหนูลีเข้ามาพอดี เลยให้พร้อมกันทีเดียวเลย”

กวิตราปิดกล่องลง ยิ้มขอบคุณเบาๆ มัณฑลีที่เริ่มได้สติบ้างกล่าวขอบคุณเช่นกัน แต่ยื่นกล่องคืนให้

“ทำไมละจ้ะ” คุณย่าอนงค์สงสัย เมื่อดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มของภรรยาเจตวัฒน์เปลี่ยนจากตกใจเป็นแววตระหนก

“แพงเกินไปค่ะลี รับไว้ไม่ได้”

“เป็นของรับขวัญหลานสะใภ้ฉันนะ”

“ไม่เหมาะกับลีหรอกค่ะ ไม่รู้จะใส่ไปออกงานที่ไหน”

ลำพังเงินที่เจตวัฒน์จ้างก็มากพอแล้ว เธอไม่ควรโลภมากอยากได้อะไรอีก แม้จะสวยสักเพียงใดก็ตาม

“นั่นสินะคะ หนูลีอยู่แต่บ้าน ดูแลสามี ส่วนหนูเกตนี่สิ ทั้งทำงาน ดูแลตาเปรม แถมยังออกงานบริษัทด้วยกันอีก” เป็นการเกทับกึ่งตำหนิอ้อมๆ ที่ทั้งคุณอนงค์ กวิตรา และมัณฑลี นึกรำคาญกันอยู่ในใจ

“ผู้หญิงเราต้องเก่งทั้งงานนอกแล้วก็ในบ้านใช่ไหมคะคุณแม่” ว่าแล้วคุณเปริมาก็หัวเราะน้อยๆ แต่เรียกความอึดอัดให้อีกสามหญิง

“เดือนหน้าจะเปิดตัวพาร์ทเนอร์ที่ร่วมลงทุนกับบริษัทคุณพ่อและเปรม มีงานเลี้ยงตอนเย็น รับเครื่องเพชรไว้เถอะค่ะ เดี๋ยวก็ต้องใช้ออกงาน” กวิตราแก้สถานการณ์พลางยิ้มละไม

“งานเลี้ยงบริษัทคุณพ่อนี่ ไม่เกี่ยวกับหนึ่ง เขาไม่ใช่ทีมผู้บริหาร” คุณเปริมานิ่วหน้า ร่องรอยความไม่พอใจที่สะใภ้ตนเองยังใส่ใจเรื่องแฟนเก่าเริ่มปรากฏ

“แหม แต่งานใหญ่ขนาดนี้เขาก็ต้องมาอยู่ดี บริษัทของพ่อกับน้องชายทั้งที อีกอย่างบริษัทเกตุเป็นออกาไนเซอร์ให้ด้วย”

กวิตราสบตากับแม่สามีโดยไม่สะทกสะท้านเลย มัณฑลีชอบในความสวยและมั่นใจตัวเองของผู้หญิงคนนี้จริงๆ เธอมีในสิ่งที่มัณฑลีไม่มี สมแล้วที่เจตวัฒน์ลืมไม่ลง จนไม่ยอมมีคนรักใหม่

“งานเป็นยังไงบ้างหนึ่ง”

คุณอเนกถามลูกชายด้วยคำถามเดิมๆ เมื่อหนุ่มๆ มารวมตัวกันที่บาร์เครื่องดื่มซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวเล็กๆ ของเหล่าผู้ชายในบ้าน

“ก็ดีครับ ไปเรื่อยๆ”

ผู้เป็นพ่อยื่นแก้วเครื่องดื่มสีอำพันให้ เขาปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่าต้องขับรถกลับ เกรงจะเกิดอุบัติเหตุ

“เมื่อไรจะมีหลานซักที เมียก็มีแล้วนี่” นี่เป็นคำถามใหม่ตั้งแต่เจตวัฒน์ประกาศว่ามีมัณฑลี

“ใช่ เมียพี่หนึ่งไม่ได้ทำงาน ไม่ยุ่ง มีเวลาว่างเยอะ น่าจะแข็งแรง” เปรมเย้าแบบเหยียดๆ ในมือน้องชายมีแก้วแอลกอฮอล์ที่กระดกไปแล้วหลายอึก

“ไม่ใช่เวริ์คกิ้งวูเมนอย่างเกต...” แล้วน้องชายก็เล่าเกทับถึงความสามารถอันเก่งกาจของภรรยา

“ผู้หญิงอย่างเกตนี่หายากนะ”

การแย่งคนรักเจตวัฒน์มาได้เป็นความสะใจของเปรมและคุณเปริมา แม้ทั้งสองจะมีอำนาจศักดิ์ศรีเต็มเปี่ยมในบ้าน ... ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเมียของคุณอเนก แต่ดูเหมือนในสายตาคุณย่าอนงค์และคุณเอนกก็ยังเปรียบเทียบกับเจตวัฒน์และแม่ผู้ล่วงลับอยู่ดี ... ข้อเสียของคนมาทีหลัง ที่เจ็บจนแทบจะกลบข้อดีทั้งหมด

“ผู้หญิงอย่างหนูลีก็หายาก เรียบร้อย เหมาะจะเป็นแม่ของลูก” คุณอเนกชมสะใภ้ใหญ่ เป็นผลให้เปรมหน้าตึง

“แกก็แย่นะหนึ่ง มีเมียแบบนี้ทำไมไม่เอามาโชว์ตั้งแต่แรก ปล่อยให้ย่าบ่นอยู่ได้เป็นปีๆ ถึงขั้นขู่จะไม่ให้สมบัติ”

เจตวัฒน์ค้อมศีรษะ อมยิ้ม เขาไม่ได้สนใจเรื่องสมบัติ เพราะบ้านที่อาศัยอยู่เขาซื้อเอง สมบัติทางแม่ก็มี ชายหนุ่มห่วงความรู้สึกของคุณย่ามากกว่า ที่ต้องโดนคุณเปริมาเป่าหูเรื่องถ่านไฟเก่าและความรักที่จบไปแล้วระหว่างเขากับกวิตรา แม้ไม่ใช่เรื่องจริงแต่ก็สร้างความรำคาญให้หญิงชราไม่น้อย แถมยังจะลามไปถึงความสัมพันธ์ขั้นร้าวฉานของคนในตระกูล ... ความคิดและปากของมนุษย์ช่างเป็นอาวุธที่น่ากลัว เขาจึงต้องหาทางแก้ ... ซึ่งก็แค่เปรยเล่นๆ กับเพื่อน และบังเอิญเพื่อนคนนั้นคือคฑาวุฒิกับกฤต แล้วทางแก้ทุกอย่างก็หลอมละลายกลายร่างมาเป็นมัณฑลี

มัณฑลีกับเจตวัฒน์พ่นลมหายใจออกจากปากพร้อมกันเมื่อมานั่งอยู่ในรถแล้ว ต่างคนต่างเจอศึกในบ้านหลังนั้นมาคนละมิใช่น้อย สองหนุ่มสาวหันมามองหน้ากันเอง มัณฑลีอมยิ้ม เขาหน้าเฉยเหมือนเคย แล้วหันไปสนใจกับการขับรถ สักพักเสียงโทรศัพท์เจตวัฒน์ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นจากกระเป๋ากางเกง เมื่อเห็นชื่อคนโทร.มาก็ยื่นให้เธอ มัณฑลีรับมางงๆ... สายที่โทร.มาเป็นคฑาวุฒิ

“บอกป๊อกทีว่าผมขับรถอยู่”

เธอพูดตามที่เขาต้องการ จากนั้นก็หัวเราะคิก เพราะคฑาวุฒิเล่าเรื่องตลกปนนินทาเจตวัฒน์ให้ฟัง ทนายหนุ่มถามเรื่องที่คุณย่าอนงค์เรียกไปพบวันนี้

“คุณย่าให้เครื่องเพชรมาค่ะ ลีปฏิเสธไปแล้ว แต่คุณเกตบอกให้รับไว้” กับคฑาวุฒิเธอคุยได้สนิทใจกว่าคนที่ขับรถอยู่ข้างๆ นัก

“เดี๋ยวลีฝากคุณป๊อกไว้ได้ไหมคะ สำนักงานทนายน่าจะมีตู้เซฟนะ เอาไว้คืนตอนหมดสัญญาไง” ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบว่าอะไรเจตวัฒน์ก็ขัดขึ้นเสียก่อน

“เอาไว้ไปคุยกันตอนอื่น ผมขับรถอยู่ไม่มีสมาธิ” ชายหนุ่มเสียงเข้มอย่างไม่รู้สาเหตุ

“คุณหนึ่งจะคุยอะไรกับคุณป๊อกอีกไหมคะ” เธอถาม เขากลับตัดบทเรียบๆ แต่หนักแน่น

“ผมไม่คุยโทรศัพท์ตอนขับรถ”

เป็นอันว่ามัณฑลีต้องตัดสายคฑาวุฒิเนื่องด้วยจู่ๆ เจตวัฒน์ก็อารมณ์เสียขึ้นมา บรรยากาศในรถจึงเงียบลง ... กระทั่งได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ ... ซึ่งเธอพยายามบังคับจังหวะอย่างเจียมตัว มัณฑลีไม่รู้ว่าทำอะไรผิด จึงนั่งนิ่งๆ คอยระวังตัวไว้ดีกว่า อยู่กับเขานี่ลำบากจริง ... เธอเดาใจเจตวัฒน์ไม่ออกเลย ถึงรู้ว่าไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ แต่ในช่วงเวลาวิกฤติอย่างตอนเขาเป็นแบบนี้ ขอรู้สักหน่อยก็ยังดีว่าอารมณ์เสียเพราะอะไร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel