บทที่ 4
สามวันก่อนหน้านี้
ความหนาวเหน็บจากแอร์คอนดิชั่นภายในห้องทำงานใหญ่หรือจะสู้สายตาดุดันของคนตรงหน้าที่บัดนี้มีสถานะไม่ต่างอะไรกับ 'เจ้าหนี้รายใหญ่' ของครอบครัวเลยแม้แต่น้อย แค่คำว่าตกใจยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำเมื่อจู่ๆ ก็ได้รู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้ว ‘ใคร’ คือนายทุนผู้แสนใจดี ที่ปล่อยเงินกู้นับสิบๆ ล้านให้พ่อของเธอที่แม้จะจากไปได้หลายปีแล้วแต่ปัญหาที่ท่านก่อไว้นั้น กลับไม่ได้ลดน้อยลงไปเลยสักนิด
“นี่คือยอดเงินกู้ทั้งหมดที่พ่อของเธอกู้ผ่านคนของฉัน รวม ดอกเบี้ยด้วยตอนนี้ยอดอยู่ที่สิบหกล้านสี่แสน” คำพูดนิ่งๆ ของอดีตคนเคยคุ้นทำให้บุญสิตาพูดอะไรไม่ออก เพราะเธอเพิ่งจะรู้เรื่องหนี้สินก้อนนี้ของผู้เป็นพ่อเมื่อไม่นานมานี้ ไม่คิดว่ายอดของมันจะมากถึงขนาดนี้
“บะ…บุญไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกค่ะ” สุดท้ายเธอก็กลั้นใจตอบไปตามความจริง แค่ต้องหาเลี้ยงตัวเองกับน้องให้มีชีวิตรอดไปวันๆ ก็แย่พอแล้ว และอย่าว่าแต่เงินสิบๆ ล้านเลย แค่เงินหมื่นเธอยังไม่มีปัญญาจะครอบครอง
“ถ้าไม่มีเงินมาใช้ ฉันก็ต้องยึดที่ดินกับบ้านของเธอตามสัญญากู้ยืมที่พ่อเธอเอามาค้ำประกันไว้!” คนใจร้ายตอบกลับมาอย่างไร้เยื้อใย ไม่มีความสงสารเห็นใจ อยู่ในคำพูดดุดันของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
“ขอเวลาเราหน่อยได้ไหมคะ แล้วฉันจะรีบหาเงินมาคืนคุณให้เร็วที่สุด” แม้จะเดาคำตอบได้บ้างแต่บุญสิตาก็อยากลองขอร้องเขาดูสักครั้ง และก็ไม่ผิดไปจากที่คิดไว้ เพราะเขาเองก็ตอบกลับมาโดยไม่ต้องคิดให้เหนื่อยสมองบางคนเหมาะแก่การช่วยเหลือ ขณะที่บางคนนอกจากจะไม่เหมาะแล้วนั้น ยังน่าเหยียบซ้ำให้จมอยู่แทบเท้าด้วยซ้ำ
“เห็นทีคงไม่ได้ เพราะว่าฉันไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้น” น่าเสียดายที่ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้จัดเป็นพวกประเภทที่สอง คนที่นอกจากเขาจะไม่คิดยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือแล้วนั้น ในใจยังอยากเหยียบย่ำให้จมดิน!
“ขอร้องเถอะนะคะคุณดิน อย่างน้อยๆ เราสองคนก็เคยระ…”
“รักกัน! อย่ามาพูดให้ขำน่าบุญสิตา เธอคิดจริงๆ เหรอว่าฉันจะยังให้ความสำคัญเรื่องนั้นอยู่อีก เพราะว่าใช่ ก็เปลี่ยนความคิดเสียใหม่เพราะนอกจากฉันจะไม่เคยให้ความสำคัญกับอดีตบ้าๆ นั่นแล้ว ฉันยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยพูดว่ารักเธอเมื่อไหร่!” เจ็บปวดจนต้องเบือนหน้าหนี ไม่อยากให้เขารู้ว่าคำพูดของเขาทำให้เธอเจ็บสาหัสแค่ไหน ซึ่งมันจริงอย่างที่พูด เขาไม่เคยพูดว่ารัก แต่ก็ไม่เคยใจร้ายกับเธอถึงขนาดนี้
“เอาอย่างนี้ไหมบุญสิตา มาเป็นอีตัวบนเตียงฉันสักคืนสิ เผื่อว่าบางทีฉันอาจยอมให้เธอผ่อนผันหนี้สินของพ่อเธอก็ได้” ข้อเสนอที่ไม่คิดว่าจะได้ยินมันจากปากของผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเคยสาบานว่าจะปกป้องเธอด้วยชีวิตทำบุญสิตาหน้าชาเมื่อได้ยิน แน่นอนคำตอบที่เธอจะมอบมันให้กับเขา มันก็ต้องสาสมกับคำพูดร้ายๆ ของเขาด้วยเช่นกัน
ใบหน้าคมคายสะบัดไปตามแรงตบทันทีที่พูดจบ นอกจากจะไม่โกรธแล้วคณินยังรู้สึกสนุกมากขึ้นเป็นเท่าตัว เขาเหยียดยิ้มก่อนจะย่างกายเข้าไปใกล้แม่ตัวดีที่ก็ไม่รู้ไปหอบความกล้าบ้าบิ่นนี่มาจากไหนก่อนจะกระชากต้นแขนเรียวเข้าหาตัว พร้อมกระซิบคำบางคำออกมา
“เธอมีเวลาตัดสินใจถึงสามทุ่มวันนี้เท่านั้น ถ้าตกลงคืนนี้ไปหาฉันที่บ้าน คงรู้ใช่ไหมว่าหลังไหน! แต่ถ้าไม่…พรุ่งนี้ทั้งเธอแล้วก็น้องของเธอเตรียมไสหัวออกไปจากที่ดินที่พ่อของเธอมันรักนักรักหนาได้เลย!” เขาทิ้งท้าย ก่อนจะผละตัวถอยห่างและเป็นฝ่ายเดินจากกันไป
