บทย่อ
เขาหลงรักเธอตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นก็จัดการให้เธอมาเป็นเมียรักเมียเสน่หาของเขา และปกป้องไม่ให้ผู้ชายคนไหนมาแตะต้องเธอได้อีก
1
การันต์ทอดสายตามองเด็กสาวที่เป็นคู่หมั้นคู่หมายแต่เยาว์วัยด้วยสายตาวาบหวาม
เขาไปเรียนจบกลับมาดูแลและพัฒนาไร่ สำคัญที่สุดต้องแต่งงานกับนาราหรือหนูน้ำตามคำของมารดา
นาราเป็นเด็กกำพร้าซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของกิตติกรและนงนภัส ทั้งสองเสียชีวิตนานแล้วทิ้งบุตรสาวเพียงคนเดียวเอาไว้พร้อมกับที่ดินซึ่งเป็นมรดกหลายร้อยไร่
บิดามารดาของเขาเอ็นดูนาราตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังหมั้นหมายกับเขา ท่านจึงอุปการะเลี้ยงดูนารามาจนเติบใหญ่ ส่งให้เรียนหนังสือในตัวเมืองใหญ่ ในขณะที่เขาไปเรียนต่อต่างประเทศเพิ่งจบการศึกษาในระดับปริญญาโทในวัยยี่สิบเจ็ดปี ซึ่งจริงๆ เขาเรียนจบนานแล้วแต่ทำงานหาประสบการณ์อยู่ที่โน่นหลายปี
นาราเป็นหญิงสาวรูปร่างบอบบาง ผิวขาวจัดเพิ่งเรียนจบด้านอาหารมาจากมหาวิทยาลัยในตัวเมือง
เพราะมารดาของเขาเป็นคนหัวโบราณ จึงเลี้ยงดู นารามาอย่างกุลสตรี
เขาเจอเธอครั้งแรกบอกได้คำเดียวว่าอยากจับเธอกินตับ ตับ ตับ ตับ!
ผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานน่ารักมีเสน่ห์ชวนหลงใหล ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวโป๊ล่อเสือล่อตะเข้ก็ทำเอาผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาอยากแนบชิด
เธอแต่งตัวมิดชิดหวงเนื้อหวงตัว แต่คนที่ผ่านผู้หญิงมานักต่อนัก และเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาอย่างเขาก็มีวิธีจัดการกินตับเธอก่อนวันวิวาห์
อีกสามเดือนจะได้แต่งงานกัน มารดาก็มักทำตาเขียว หวงห่วงไม่ชอบให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้นารา แม้แต่เขาซึ่งเป็นลูก ชาย ท่นเลี้ยงหล่อนยังกับไข่ในหิน ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม
แต่อะไรก็ตามที่ได้มายากๆ มันก็ทำให้เขายิ่งอยากได้ อยากเอาชนะ
มารดาหวงและห่วง เขาก็ไม่แสดงออกว่าอยากได้ ท่านก็ไม่เข้มงวดกับเขามาก
คุณกาญจนาอยากไปทำบุญ ท่านชอบไปทอดผ้าป่าหรือปฏิบัติธรรมบ่อยๆ ตามวัดแถวชนบท แต่ครั้งนี้จะพาสาวน้อยติดสอยห้อยตามไปด้วยก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะบุตรชายเกิดป่วยขึ้นมากะทันหัน
“น้ำจ้ะ หนูก็อยู่ดูแลพี่เขานะลูก ป้าไปไม่กี่วันเดี๋ยวก็กลับ ที่บ้านก็ไม่มีใคร ดูสิทำงานหามรุ่งหามค่ำ แถมยังตากแดดตากฝน บอกให้พักก็ไม่เชื่อ”
คุณกาญจนาบ่นอย่างเป็นห่วงลูกชายคนเดียวที่นอนซมอยู่เพราะพิษไข้แต่ท่านนัดสมัครพรรคพวกเอาไว้แล้ว ยังไงก็ต้องไป อีกอย่างนาราก็อยู่คงดูแลลูกชายที่กำลังป่วยของท่านได้
“ค่ะคุณป้า”
นารารับคำเดินมาส่งท่านที่หน้าบ้าน ก่อนจะเดินเข้ามาในตัวบ้านหลังใหญ่
การันต์เห็นร่างน้อยที่เดินมาแต่ไหล เขาก็รีบทิ้งตัวลงนอน สัมผัสอุณหาภูมิร่างกายแล้วยังร้อนอยู่
แผนการของลูกน้องของเขาถึงจะปัญญาอ่อนไปหน่อย แต่ก็ยอมรับว่ามันหัวใสใช่เล่น
“พี่กานต์เป็นยังไงบ้างคะ”
นาราเอ่ยถามการันต์มองเขาอย่างห่วงใย น้ำเสียงหวานหูแผ่วเบาแต่ใส่ใจทำให้คนแกล้งป่วยอยากจะออดอ้อนเข้าไปอีก
“รู้สึกร้อนจังเลยครับ”
“งั้นเดี๋ยวน้ำเช็ดตัวให้นะคะ”
เธอรีบกุลีกุจอไปหาผ้าหาน้ำมาเช็ดตัวให้เขา มือน้อยเช็ดใบหน้าของเขาแผ่วเบา การันต์กุมมือนิ่มของเธอเอาไว้ กลิ่นกายหอมกรุ่นของเธอทำให้เขาต้องสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ลึกๆ
การันต์นอนยิ้มให้ว่าที่เจ้าสาวเช็ดตัวให้ เธอมองสบตาเขาแล้วเขินอาย รีบก้มงุดเสไปบิดผ้าในกระทะละมังแทน
“ตรงนี้ก็ร้อนนะครับ”
เธอเช็ดตัวให้เขาแต่เว้นส่วนกลางกายเอาไว้ เขาเลยจับมือเธอมาวางที่หน้าท้องแกร่ง มือน้อยที่สอดเข้ามาใต้ผ้าห่มสั่นสะท้านใบหน้าแดงก่ำ
“เอ่อ... พี่กานต์ตัวไม่ร้อนแล้วนะคะ”
เธอเปลี่ยนเรื่องคุยพยายามดึงมือหนี
“เพราะน้ำช่วยดูแลพี่ไงครับ”
“พี่กานต์หิวหรือยังคะ”
“หิวครับ”
เขาหิวเธอนี่แหละ สาวน้อยแสนสวยอ่อนหวานตัวหอม แค่ได้อยู่ใกล้ๆ ใจเขาก็ลอยละลิ่วจนกู่ไม่กลับ
อยากจับปล้ำ แต่เขามีวิธีที่ดีกว่านั้นหลอกล่อแม่กวางเนื้อหวานเข้าโรงเชือดและค่อยๆ แทะเล็มเนื้อของเธอกินอย่างเอร็ดอร่อยระหว่างที่มารดาไปแสวงบุญ ณ วัดบ้านป่าเช่นนี้
“งั้นเดี๋ยวน้ำไปทำอะไรให้พี่กินนะคะ จะได้กินยา”
เธอรีบดึงมือหนี เขามองตามร่างบางไปอย่างคาดโทษ หนีได้หนีไป แต่ยังไงคืนนี้เธอก็ไม่รอดไปจากเขาอย่างแน่นอน
นาราทำซุปร้อนๆ มาให้คนป่วย พอเธอยกมาเสิร์ฟ คนป่วยก็มือไม้อ่อนไปหมด

