ตอนที่ 5 บทลงโทษแสนหวาน (2)
แพรวพิชชาเม้มปากตัวเองเอาไว้แน่น ไม่รู้ว่าจะเอื้อนเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมา ตอนนี้เหมือนกับว่าเธอโดนหมัดหนักๆ ชกเข้าที่หน้าจังๆ มันเลยเบลอเลยงงไปหมด แม้จะแอบคิดเข้าข้างตัวเองก่อนแล้ว แต่พอมันเป็นเรื่องจริงขึ้นมาเธอกลับรับสถานการณ์ตอนนี้ไม่ถูก จะเรียกว่าตั้งตัวไม่ทันก็คงจะได้ สายตาที่จ้องอยู่กับสายตาคมดุต้องเบนหนีเสมองไปทางอื่น อยากจะหายตัวได้ขึ้นมากะทันหันจะได้ไม่ต้องอยู่ตรงนี้ และเริ่มรู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายมันจะระเบิดได้
“จะตอบพี่ได้รึยังน้องแพรว อย่าเงียบไปแบบนี้สิ พี่รอฟังคำตอบอยู่นะ พี่ถามคำถามง่ายจะตาย ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย” ราฟาเอลมองคนใต้ร่างอย่างยิ้มๆ เมื่อเห็นว่าน้องน้อยยังคงนิ่งเงียบเช่นเดิม ไม่ได้อยากจะเร่งรัดอะไรหรอก แค่อยากจะรู้ว่าใจจะตรงกันหรือไม่
คนโดนรุกเร้าเริ่มทำตัวไม่ถูก นอนตัวเกร็งไม่กล้าจะขยับไปทางไหนเลย คิดหาคำพูดสารพัดว่าควรจะพูดออกมาในลักษณะไหนดี เพราะตอนนี้ก็ยังตอบใจตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกอะไรอย่างเขารึเปล่า แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ใจเธอมันวูบวาบคล้ายจะเป็นลมเสียให้ได้
“ถ้ายังไม่พูดอีกพี่จะง้างปากด้วยวิธีของพี่นะ ว่าไง” พอโดนขู่แพรวพิชชาก็รีบยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองเอาไว้อย่างกลัวๆ
“ปิดปากแล้วจะพูดยังไง หรือว่าอยากโดนง้างปาก หืม” ราฟาเอลโน้มหน้าลงไปจนหน้าผากของเขาและน้องน้อยแตะกัน
“พูดแล้วค่ะพูดแล้ว แพรวไม่รู้ว่าจะต้องตอบยังไง พี่ราล์ฟอย่าเพิ่งเร่งได้ไหมคะ แพรวคิดคำตอบไม่ทัน” แพรวพิชชาหน้าง้ำปากยื่น ของแบบนี้มันต้องใช้เวลาสิ
ราฟาเอลมองคนหน้างอที่นอนอยู่ใต้ร่างก็ยิ้มที่มุมปากน้อยๆ กดจูบลงบนเปลือกตาทั้งสองข้างที่หลับอยู่เบาๆ
“พี่ไม่ได้เร่งแค่อยากจะรู้ว่าน้องแพรวคิดเหมือนกับพี่รึเปล่าก็เท่านั้น”
“นั่นแหละค่ะเขาเรียกว่าเร่ง แล้วก็ช่วยขยับออกไปได้ไหมคะ มันอึดอัดหายใจไม่สะดวก คิดอะไรไม่ออก” แพรวพิชชาดันไหล่หนาให้ถอยกายออกไป
“เรื่องมากจริง” ราฟาเอลบ่น ก่อนจะยอมลงไปนอนข้างๆ แต่ก็ยังคงกกกอดเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้เหมือนเดิม
“ทีนี้จะหาข้ออ้างอะไรกับพี่อีกน้องแพรว” คนรู้ทันถามดักทางเอาไว้ก่อนที่ปากเล็กๆ จะขยับพูดอะไรขึ้นมาอีก
“แพรวไม่ได้จะหาข้ออ้างสักหน่อย” แพรวพิชชาแก้ตัวเสียงขุ่น
“แพรวไม่รู้ว่าคิดเหมือนพี่ราล์ฟรึเปล่า ตอนนี้คิดแค่พี่ราล์ฟคือพี่ชายของแพรวเท่านั้น แต่แพรวรู้สึกแปลกๆ เวลาที่พี่ราล์ฟเอ่อจูบ” คำพูดสุดท้ายเบาหวิวจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ก็ดังก้องสำหรับราฟาเอล
“อืม ไม่เป็นไรพี่จะทำให้น้องแพรวรักพี่เอง และพี่ก็จะลงโทษเราด้วยความรักของพี่ที่มีให้กับน้องแพรว” ราฟาเอลพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างบางอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เท้าแขนทั้งสองข้างไว้ที่ข้างหมอนนุ่ม กักใบหน้าเลิ่กลั่กไม่ให้ขยับไปไหน
“พี่ราล์ฟแพรวง่วงแล้ว ไว้คุยกันใหม่นะคะ” แพรวพิชชาอ้อนวอนทั้งที่ใบหน้าแดงจัด ไม่อยากอยู่ท่านี้บ่อยๆ เพราะกลัวว่าใจตัวเองจะกระเด็นออกมาด้านนอก ลำพังแค่คำพูดหวานๆ พวกนั้นมันก็มีอิทธิพลกับเธอมากพอแล้ว
“จะนอนได้ยังไงในเมื่อพี่ยังไม่ได้ลงโทษที่เราหนีออกไปเที่ยวกับเพื่อนเลย คิดจะเอาตัวรอดเหรอน้องแพรว” เสียงต่ำพูดอยู่แถวๆ ผิวแก้มนุ่ม
“แพรวไม่ได้หนีนะก่อนออกไปก็บอกป้านุ่มแล้ว พี่ราล์ฟอย่ามาหาเรื่องนะคะ เมื่อกี้พี่ราล์ฟเป็นคนพูดเองว่าจะลงโทษด้วยความรัก ฉะนั้นไม่มีสิทธิ์มาลงโทษแพรวด้วยวิธีอื่นแล้วละค่ะ แล้ววันนี้เป็นอะไรเนี่ยทำไมพูดมากขนาดนี้ ปกตินี่พี่ราล์ฟพูดน้อยกว่านี้มากนะคะ” มือนุ่มปิดปากคนพูดมากไม่ให้ยุ่มย่ามกับแก้มของเธอ สงสัยลืมกินยาเขย่าขวดแน่ๆ ถึงได้ผิดปกติอย่างนี้
ราฟาเอลไม่สนใจเสียงเจื้อยแจ้วที่ตั้งคำถามกับเขา แต่กลับสนใจสิ่งที่น่าพิศมัยที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า “หึ โนบราซะด้วย” ลากมือขึ้นมากอบกุมซาลาเปาอวบอิ่มที่ปราศจากสิ่งห่อหุ้ม บีบหนักเบาสลับกันอย่างสนุกมือ
“อื้อ พี่ราล์ฟอย่าทะลึ่งนะ เอามือออกไปจากหน้าอกแพรวเดี๋ยวนี้เลย บอกรักแล้วไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรกับแพรวก็ได้นะ เพราะแพรวยังไม่ได้ตอบรับพี่ราล์ฟเลย แพรวมีสิทธิ์ที่จะต่อต้าน เกิดแพรวไม่ได้รักพี่ราล์ฟแบบนั้นเราจะเข้าหน้ากันไม่ติดนะคะ อื้อ” แพรวพิชชาตีมือแกร่งที่บีบเคล้นหน้าอกแรงๆ คิดว่าห้องนอนปลอดภัยแล้วเชียว จึงได้กล้าโนบราและใส่ชุดนอนบางๆ แต่มันกลับผิดคาดเมื่อถุกบุกรุกความเป็นส่วนตัวเช่นนี้
“ไม่มีทางที่เราจะเข้าหน้ากันไม่ติดหรอกน้องแพรว เพราะพี่รู้ว่ายังไงเราก็หนีกันไม่พ้นหรอก รีบๆ รักพี่ เพราะความอดทนของพี่มันค่อนข้างต่ำ” สายเดี่ยวเส้นเล็กถูกรั้งลงมา จนอกอวบขาวราวกับน้ำนมที่มีเม็ดทับทิบสีอ่อนอยู่ตรงกลางปรากฎแก่สายตา แพรวพิชชารีบใช้ท่อนแขนเรียวปกปิด ทั้งโกรธทั้งเขินที่ต้องมาโชว์หน้าอกให้ราฟาเอลได้ยลโฉมอย่างไม่เต็มใจเช่นนี้
“พี่ราล์ฟแพรวเสียหายนะคะ แล้วแพรวก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่พี่ราล์ฟชอบใช้สนองความต้องการด้วย” แพรวพิชชาเบี่ยงหน้าหลบไม่ให้ริมฝีปากของราฟาเอลจูบเธอได้
“พี่ไม่ได้คิดว่าน้องแพรวคือผู้หญิงพวกนั้นสักหน่อย อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบอย่างนั้นพี่ไม่ชอบ น้องแพรวมีค่ามากกว่านั้นหลายร้อยเท่า” ราฟาเอลดุเสียงเข้ม
“ก็พี่ราล์ฟกำลังทำให้แพรวคิดแบบนั้นนี่คะ พี่ราล์ฟคิดว่าแพรวง่ายใช่ไหมคะ” แพรวพิชชาพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อต่อว่าจนมือใหญ่ที่นวดเฟ้นอกอวบชะงักในทันที
“ถ้ายังไม่หยุดพูดพี่จะทำมากกว่านี้แล้วนะ ร้องให้ตายพี่ก็จะไม่สนใจ น้องแพรวก็รู้ดีว่าความอดทนของพี่มันต่ำขนาดไหน”
“แพรวจะหยุดพูดแต่พี่ราล์ฟต้องปล่อยให้แพรวนอนนะคะ ส่วนพี่ราล์ฟก็ควรกลับห้องแล้วไปนอนได้แล้วค่ะ” แพรวพิชชายังคงกอดอกตัวเองเอาไว้แน่น บุ้ยบ้ายไปทางประตูห้องนอน
ราฟาเอลถอนหายใจ จูบที่หน้าผากเนียนหนักๆ “นอนซะนะ ฝันดีครับน้องแพรวของพี่ ครั้งนี้พี่จะยกผลประโยชน์ให้คนดื้อ แต่ถ้ามีครั้งต่อไปพี่จะลงโทษให้หลาบจำเลยคอยดู” ร่างสูงตัดสินใจผละห่าง ไม่อยากจะทำอะไรมากไปกว่านี้ เพราะกลัวคนตัวเล็กจะสติแตกไปซะก่อน
“ขอบคุณนะคะ แล้วก็ฝันดีค่ะพี่ราล์ฟ” แพรวพิชชาบอกเสียงเบา มองตามหลังกว้างที่กำลังเดินออกไป แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมายาวๆ เมื่อได้อยู่ตามลำพัง ทีนี้เธอจะปฏิบัติตัวกับราฟาเอลเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว เพราะล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิดอย่างนั้นแล้ว จะทำตัวยังไงก็ยังไม่รู้ ไหนจะความรู้สึกแปลกๆ นี่อีก
“โอ๊ย! ปวดหัว” มือบางขยุ้มผมตัวเองอย่างใช้ความคิด ประสบการณ์ด้านความรักยิ่งติดศูนย์อยู่ด้วย ทำตัวไม่ถูกแล้วนะเนี่ย ไม่อยากจะให้เช้าเลยให้ตาย
เวลาล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่มาสองชั่วโมงแล้ว ประตูห้องนอนของแพรวพิชชาก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง เงาตะคุ่มๆ เดินเข้ามาประชิดเตียงก่อนที่ที่นอนหนานุ่มจะยวบตัวลง ราฟาเอลที่นอนไม่หลับตัดสินใจลุกจากที่นอนเดินมายังห้องของน้องน้อย มือหนาปัดปอยผมให้ออกจากแก้มอิ่ม อมยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นคนตัวเล็กนอนหลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ลำแขนแข็งแรงพาดไปบนเอวคอดกิ่ว รั้งให้ร่างเล็กขยับมาชิดลำตัว ให้ศีรษะสวยได้นอนหนุนแขนแทนหมอน หอมแก้มเนียนหนักๆ อย่างเต็มรัก
แพรวพิชชาอืออาเล็กน้อยเมื่อถูกรบกวน แต่ก็ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมา ราฟาเอลเลิกก่อกวนนอนมองใบหน้าจิ้มลิ้ม ตระกองกอดเอาไว้แน่น ก่อนจะหลับใหลตามคนตัวเล็กไป
