ตอนที่ 3 มันหมายความว่าอะไร (2)
“พี่ราล์ฟจ้องแพรวทำไมคะ มีอะไรก็รีบๆ พูดออกมาสิคะ คนรอมันหงุดหงิดนะ แพรวไม่ได้มีอะไรผิดปกติบนใบหน้าสักหน่อย” แพรวพิชชานั่งลงบนโซฟาคว้าเอาหมอนอิงมากอดไว้แนบอกแน่น เพราะเริ่มที่จะทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องตกเป็นเป้าสายตาแบบนี้
“ทำไมพี่จะจ้องไม่ได้ พี่ไม่มีสิทธิ์มองงั้นเหรอน้องแพรว” ราฟาเอลเลิกคิ้ว น้ำเสียงเริ่มกระด้างขึ้น แพรวพิชชาส่ายหน้าปฏิเสธทันทีเพราะกลัวพี่ชายจะเข้าใจเธอผิด
“แพรวไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นสักหน่อย รู้ตัวไหมคะว่าตั้งแต่แพรวกลับมาอยู่บ้านพี่ราล์ฟชอบจ้องหน้าแพรว บางครั้งแพรวก็ทำตัวไม่ถูกนะ” คนสวยปากยื่นน้อยๆ
“น้องแพรวมีอะไรค้างคาใจอยากจะพูดกับพี่รึเปล่า พูดมาได้เลยพี่ยินดีจะรับฟัง แล้วจะตอบคำถามหากว่าพี่ตอบได้” ราฟาเอลยักไหล่ ไม่ตอบคำถามของคนช่างสงสัย แต่เขากลับย้อนถามเสียเอง
“เอ่อ คือว่าแพรว” แพรวพิชชาก้มหน้ามองมือตัวเองนิ่ง ไม่รู้ว่าจะเริ่มออกไปยังไง
“เอ่อ อะไรน้องแพรว ทำไมติดอ่างซะได้ ทุกทีนี่พูดไม่ได้หยุดเลย”
“พี่ราล์ฟจูบแพรวทำไมคะ ในห้องทำงานที่บริษัทวันนี้พี่ราล์ฟตั้งใจจูบแพรวใช่ไหมคะ” ถามแล้วก็กลั้นใจรอคำตอบ ไม่กล้าสบตาคมดุได้แต่มองที่แผงอกกว้างที่อยู่ตรงหน้าแทน
“นึกว่าเรื่องอะไรที่แท้ก็เรื่องนี้เอง พี่อยากจูบก็เลยจูบ มีอะไรอีกไหมครับที่อยากจะถามพี่” ราฟาเอลตอบแบบกำปั้นทุบดิน แพรวพิชชาเงยหน้าขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เธออยากได้คำอธิบายมากกว่านี้
“แพรวอยากได้คำอธิบายจากพี่ราล์ฟมากกว่านี้ค่ะ” แพรวพิชชาสูดลมหายใจเข้าปอดอีกระลอก ตอนนี้เริ่มที่จะมีน้ำโหขึ้นมาบ้างแล้ว แม้จะหน้าร้อนผ่าวกับคำตอบของเขาก็ตาม
“แล้วน้องแพรวจะให้พี่อธิบายอะไร ในเมื่อพี่ก็บอกแล้วว่าอยากจูบก็เลยจูบ” ราฟาเอลพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ อย่างที่เขาชอบทำ แม้ในใจจะยิ้มขำกับสีหน้าท่าทางของน้องสาวนอกไส้ก็ตาม
“การจูบกันมันสงวนไว้ให้คนที่เป็นแฟนหรือคนรักกันนี่คะ เราสองคนเป็นพี่น้องกันจะมาจูบกันไม่ได้” แพรวพิชชาจ้องตากับราฟาเอลอย่างไม่ยอมแพ้ เพราะเธอคิดว่าสิ่งที่พี่ชายทำมันไม่ถูกต้อง จะมาบอกว่าจูบเพราะอยากจะจูบไม่ได้
“น้องแพรวจะเก็บจูบไว้ให้ไอ้หน้าไหนกันแน่” ราฟาเอลอารมณ์ขาดผึง เมื่อแพรวพิชชาพูดเหมือนจะเก็บจูบไว้ให้ผู้ชายคนอื่น ใบหน้าหล่อเหลาเครียดเขม็งขึ้นทันตา
“แพรวไม่ได้จะเก็บไว้ให้ใครทั้งนั้น พี่ราล์ฟอย่ามาพาลนะ แพรวแค่พูดตามหลักความเป็นจริง ไม่มีพี่น้องบ้านไหนเขาจูบกันหรอกค่ะ พี่ราล์ฟอยากจูบผู้หญิงที่ไหนก็ไปแต่ต้องไม่ใช่แพรว” แพรวพิชชาพูดเสียงดัง ชักอยากจะข่วนหน้าหล่อๆ นั่นให้หายโมโห
“พูดแบบนี้กับพี่ใช่ไหม ได้น้องแพรว” ราฟาเอลก้าวเข้ามาประชิดร่างบางที่นั่งกอดอกอยู่บนโซฟา มือหนาคว้าข้อมือบางให้ลุกขึ้นยืน ร่างแพรวพิชชาปะทะที่อกกว้าง ไม่ทันได้ตั้งตัวริมฝีปากร้อนแสนร้ายกาจก็ก้มลงปิดปาก มือเล็กทุบไหล่หนาเอาเป็นเอาตาย ปากเม้มเข้าหากันเอาไว้แน่น ไม่ให้ลิ้นชื้นเข้าไปข้างในปากได้ แต่ความสามารถและประสบการณ์ของราฟาเอลนั้นมีมากเกินกว่าที่แพรวพิชชาจะต้านทานได้
“อื้อ อื้อ”
ใบหน้าสวยพยายามจะเบี่ยงหนีแต่ก็ถูกล็อคท้ายทอยเอาไว้ ราฟาเอลค่อยๆ ละเลียดไปตามขอบปากบาง เมื่อเผลอไผลแพรวพิชชาก็เปิดปากออกเอง ไม่รอช้าคนมากประสบการณ์ก็ส่งลิ้นเข้าไปทักทายเกี่ยวกระหวัดชิมความหวานล้ำราวกับน้ำผึ้งในโพรงปากเล็ก คนด้อยประสบการณ์หรือเรียกได้ว่าติดลบอย่างแพรวพิชชาตามไม่ทัน หัวหมุนไปกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้รับ มือที่ทุบอยู่บนไหล่หนาเปลี่ยนเป็นเกาะขยุ้มเอาไว้เพื่อพยุงตัว ลิ้นน้อยไม่รู้จะหลบหลีกไปทางไหนจึงได้แต่ตามราฟาเอลอย่างเงอะงะ
มือใหญ่ประคองกอดบั้นเอวคอดอาไว้แน่น มือข้างที่ตรึงท้ายทอยเล็กเอาไว้ถูกปล่อยออกมาลูบไล้ไปตามกายสาวสะพรั่ง ส่วนเว้าส่วนโค้งราวกับทรวดทรงนาฬิกาทรายถูกจับต้องอย่างหลงใหล สติของแพรวพิชชาไปไกลเกินกว่าที่จะดึงกลับมาได้ หัวสมองขาวโพลนถูกชักจูงไปทางไหนก็ตามเขาไป ฝ่ามือหนาลากไล้จากหน้าท้องแบนราบมาตรงดอกบัวตูมเต่ง แรงขยุ้มตรงหน้าอกทำให้สติที่เตลิดไปไกลเริ่มกลับมาทีละน้อย ราฟาเอลเลยเพิ่มน้ำหนักมือขึ้น
“อื้ม” กำปั้นเล็กทุบหัวไหล่หนา เพื่อที่จะให้เขาปล่อยมืออันแสนซุกซนที่กำลังยุ่มย่ามอยู่กับร่างกายของเธอ
ราฟาเอลถอนริมฝีปากออก คลอเคลียปากและจมูกที่ข้างซอกคอขาวผ่องที่หอมชื่นใจแทน มือก็ยังคงเพลิดเพลินไปกับหน้าอกอวบอิ่มที่พอเหมาะกับมือของเขาเป็นอย่างดี ราวกับสวรรค์สรรค์สร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
“พี่ราล์ฟคะ อื้อ พอเถอะค่ะ อย่าทำแบบนี้ ฮื่อ” แพรวพิชชาพูดเสียงเบาหวิว พยายามจะรวบรวมเรียวแรงทั้งหมดที่มีผลักร่างหนาให้ออกห่างจากร่างกาย แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกินเพราะราฟาเอลไม่ให้ความร่วมมือเลย
“น้องแพรวของพี่หอมหวานที่สุดเลยคนดี” เสียงแหบพร่าพูดชิดติดลำคอขาว ขบเม้มจนเกิดรอยแดงหลายแห่ง
“พี่ราล์ฟ พี่ราล์ฟปล่อยแพรวนะคะ” แพรวพิชชาดึงทึ้งผมราฟาเอลให้เงยหน้าขึ้นจากซอกคอของเธอ และมันก็สำเร็จราฟาเอลยอมเงยหน้า ดวงตาของทั้งคู่สบประสานกันนิ่ง
“พี่คือผู้ชายคนเดียวที่ทำแบบนี้กับน้องแพรวได้ อย่าได้คิดจะหาใครมาแทนที่พี่นะน้องแพรว เพราะพี่ไม่มีทางยอมเด็ดขาด ทั้งจูบรวมถึงทั้งตัวก็เป็นของพี่” ราฟาเอลพูดเสียงเข้ม
“พี่ราล์ฟหมายความว่ายังไงคะ อธิบายมาเดี๋ยวนี้นะ แพรวไม่ยอมทำความเข้าใจเองหรอกนะคะ แพรวหัวช้าไม่รู้ว่าที่พี่ราล์ฟพูดคืออะไร” แพรวพิชชาถามอย่างไม่เข้าใจ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันแน่น มือที่ขยุ้มไว้ที่ไหล่หนาเริ่มคลายลง ความสับสนงงงวยเริ่มโจมตีอีกระลอก เหตุการณ์ก่อนหน้ายังไม่ทันได้เคลียร์ให้รู้เรื่อง เหตุการณ์ใหม่ก็เข้ามาเพิ่มอีกจนมึนงงมากกว่าเดิม
“ก็หมายความตามที่พี่พูดนั่นแหละ”
“พี่ราล์ฟช่วยอธิบายอะไรให้มันกระจ่างหน่อยได้ไหมคะ ไหนจะจูบเมื่อกี้นี้อีก แถมตอนนี้ก็มาสั่งห้ามเรื่องผู้ชายอะไรนั่นอีก ตกลงที่พี่ราล์ฟทำนี่มันหมายความว่ายังไงพูดให้มันเคลียร์ๆ ได้ไหมคะ” แพรวพิชชาคาดคั้นจะเอาคำตอบจากปากหนักๆ ให้ได้ ปกติเวลาราฟาเอลพูดอะไรเธอก็เชื่อเสมอ ไม่เคยขัดเลยสักเรื่องเดียว แต่เรื่องนี้มันทนไม่ได้จริงๆ ยังไม่ทันที่ราฟาเลจะพูดอะไรต่อ เสียงเคาะประตูก็ดังเข้ามาทำลายความอึดอัดของคนในห้องซะก่อน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตครับ พอดีคุณพิชัยต้องการจะเรียนสายกับคุณราล์ฟ เรื่องงานที่คุณราล์ฟให้ไปจัดการครับ” แบรทส่งเสียงเข้ามา
ราฟาเอลมองใบหน้าของแพรวพิชชาด้วยสายตาอ่อนหวาน ก่อนจะประทับจูบลงบนหน้าผากกลมมนเบาๆ อย่างอ่อนโยน
“พี่ขอคุยธุระก่อนนะ สัญญาว่าหลังจากนั้นพี่จะบอกทุกอย่างที่น้องแพรวต้องการจะรู้ ตอนนี้น้องแพรวไปพักผ่อนที่ห้องก่อนนะครับ”
“พี่ราล์ฟสัญญาแล้วนะคะ” แพรวพิชชาเงยหน้าขึ้นสบตากับราฟาเอล พอเห็นว่าเขาพยักหน้าแล้วเธอเลยยอมเดินออกไปแต่โดยดี แบรทเห็นว่าคุณหนูคนสวยเดินออกมาก็ส่งยิ้มให้ ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในเพื่อเอาโทรศัพท์ให้กับเจ้านาย
แพรวพิชชามองบานประตูใหญ่ที่ถูกปิดลง แล้วส่ายหน้าเบาๆ อย่างคนคิดไม่ตก เดินเลี่ยงไปพักผ่อนยังห้องนอนของตัวเอง ตอนนี้ในใจเกินครึ่งของเธอบอกกับเธอว่าราฟาเอลไม่ได้คิดกับเธอแค่น้องสาว แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ยังไม่สามารถฟันธงอะไรได้ เพราะไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองจนเกินไป รอเวลาให้ราฟาเอลบอกเธอดีกว่าว่าเหตุใดจึงทำเช่นนี้ และเธอเองก็ยังให้คำตอบไม่ได้ว่ารู้สึกเช่นไร รู้แต่เพียงว่ามันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน
