บท
ตั้งค่า

Chapter III สารภาพรัก

ผมจอดรถมินิคูเปอร์สีเหลืองดำที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้วไว้ข้างร้านน้ำแข็งของไอ้เมิง แล้วกระโดดขึ้นรถสามล้อพ่วงข้างไปกับมันด้วย

ร้านป้าดาเป็นร้านขายอาหารตามสั่งและอาหารอีสานที่อยู่เยื้อง ๆ กับหมู่บ้านของหยินพอดี ระหว่างที่ผมช่วยไอ้เมิงยกกระสอบน้ำแข็ง สายตาของผมก็คอยจ้องว่าหยินจะออกมาจากบ้านหรือยัง

“พี่เฌอนัดให้เพื่อน ๆ ไปที่บ้านตอนทุ่มหนึ่ง ผมว่าพี่หยินน่าจะออกจากบ้านประมาณหกโมงครึ่ง นี่เพิ่งจะหกโมงสิบห้าเอง เขาคงยังไม่ออกไปหรอก” ไอ้เมิงที่เห็นผมเอาแต่จ้องไปที่ป้อม รปภ. หน้าหมู่บ้านปลอบใจ

แต่ในจังหวะที่พวกผมยกน้ำแข็งกระสอบสุดท้าย ผมก็เห็นรถคันที่ลุงสมหมายมักใช้รับส่งหยินไปโรงเรียนขับออกมา

“เฮ้ย! ไปแล้วมึง หยินออกไปแล้ว”

ผมรีบกระโดดขึ้นรถสามล้อพ่วงข้างของไอ้เมิง แล้วบิดอย่างไม่คิดชีวิต ดีที่ไอ้เมิงมันกระโดดตามขึ้นมาทัน มันลงไปนั่งแหมะอยู่ตรงกระบะพ่วงข้าง สองมือกำแน่นตรงราวเหล็ก ปากมันก็ร้องบอก

“ซ้าย ๆ ๆ ๆ นายท่านเบี่ยงซ้าย ซ้ายยยยยย!”

ผมขี่รถพ่วงข้างไม่ค่อยแข็งนักหรอกครับ มันบังคับยากกว่ามอเตอร์ไซค์สองล้อหรือมินิคูเปอร์ของผมเยอะเลย แต่ไม่รู้วันนี้ผมเอาสกิลมาจากไหน แม้มันจะแถลงข้างทางอยู่หลายครั้งแต่ผมก็บิดทันรถเบนซ์คันใหญ่ของหยิน

ผมตามรถคันนั้นจนมันไปจอดอยู่หน้า 7-eleven และทันทีที่ประตูฝั่งคนขับเปิดออกมา ผมก็บิดคันเร่งพุ่งเข้าชนทันที

พลั่ก!

ส่วนของพ่วงข้างชนเข้ากับขอบประตู ไอ้เมิงร้องกรี๊ด ๆ เพราะไม่คิดว่าผมจะทำแบบนั้น เพราะที่คุยกันไว้คือแค่ทำให้รถของหยินเป็นรอยเพื่อถ่วงเวลาไม่ให้หยินไปงานวันเกิดไอ้เฌอ

“กูโดนป๊าทุบหลังแน่” ไอ้เมิงร้องโวยวาย พร้อมกับเสียงคนที่อยู่หลังพวงมาลัยรถเบนซ์คันนั้น ซึ่งมันควรเป็นลุงสมหมายแต่กลับไม่ใช่

“หยาง!”

ผมอุทานอย่างเสียจริตเมื่อคนที่ก้าวลงมาจากรถคันนั้นคือ ‘หยาง’ น้องชายคนเดียวของหยิน

“พี่นายท่าน ขี่รถยังไงเนี่ย?” หยางลงมาสำรวจรถตัวเอง พอเห็นรอยที่โดนเหล็กครูดก็หน้าเสีย “ผมโดนคุณพ่อดุแน่”

ผมชะเง้อคอมองว่าจะมีใครลงมาจากรถอีกมั้ย แต่เพราะ หยางเปิดประตูค้างไว้ ไฟในรถจึงสว่าง จนผมแน่ใจว่าหยินไม่ได้อยู่ในนั้น ดูท่าว่าหยางน่าจะแอบเอารถของที่บ้านออกมาขับโดยที่ไม่มีใครรู้ เพราะปกติลูกชายบ้านนี้ต้องมีคนขับรถส่วนตัวพาไปไหนมาไหน

“หยางมาคนเดียวเหรอ?”

“เอออะดิ ถ้าพี่จอมมาด้วยแล้วเป็นคนขับ ผมก็ไม่เดือดร้อนหรอก ถ้าคุณพ่อรู้ผมโดนแน่”

“ขอโทษทีว่ะ มันเบรกไม่อยู่น่ะ เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องค่าซ่อมให้ก็แล้วกันนะ”

“มันแน่อยู่แล้ว” หยางดูผ่อนคลายลงเมื่อผมบอกจะรับผิดชอบ “ว่าแต่พวกพี่เหอะ จะรีบไปไหนกันเนี่ย แล้วมินิของพี่ไปไหนล่ะ ทำไมวันนี้ขี่ซาเล้งได้เนี่ย”

“พอดีพี่มาช่วยไอ้เมิงมันส่งน้ำแข็งน่ะ แล้วนี่… ทำไมออกมาคนเดียว ไม่ให้พี่ชายออกมาเป็นเพื่อนล่ะ”

“พี่หยินน่ะเหรอ ไปงานวันเกิดเพื่อนแล้ว”

“ฮะ? ไปแล้ว? ไปแล้วเหรอ? ไปตอนไหน?”

“พี่ตกใจอะไรเนี่ย”

“อ้อ… เปล่านี่ ใครตกใจ ไม่มี้” ผมพิรุธสัด! แต่ก็หน้าด้านปฏิเสธไปก่อน

“พี่เอิงเอยมารับน่ะ ผมก็ขับตามพวกเขาออกมานี่แหละ”

แม่งเอ้ย! ผมคงไม่ทันได้สังเกต จำได้ว่าตอนเห็นรถคันนี้ มีรถอีกคันขับออกมาก่อน แต่ผมไม่รู้ว่าหยินอยู่ในรถคันนั้น ป่านนี้ถึงบ้านไอ้พี่เฌอแล้วมั้งเนี่ย

“งั้นพี่ไปก่อนนะ”

ผมรีบสตาร์ตเครื่อง แต่ไอ้เมิงมันมาลากผมไปนั่งตรงพ่วงข้างแทน “กูขับเอง” แล้วมันก็บิดคันเร่งออกมาจากหน้า 7-eleven ทันที

พวกผมมาถึงหน้าบ้านไอ้พี่เฌอในอีกยี่สิบนาทีต่อมา แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว “หยินเข้าไปในงานแล้วว่ะ”

“เอาไงดีนายท่าน พวกเราเนียน ๆ เข้าไปมั้ย”

ผมคิดตามข้อเสนอของไอ้เมิง แต่ก็ยังไม่มีแผนสอง “เข้าไปแล้วยังไงวะ จับหยินยัดกระสอบน้ำแข็งออกมาหรือไง”

“แล้วนายท่านจะรอให้พี่หยินสารภาพรักกับไอ้พี่เฌอก่อนเหรอ ถ้าพี่เฌอก็ชอบพี่หยินอยู่เหมือนกัน สองคนนั่นก็แฮบปี้แอนดิ้งอะดิ แล้วนายท่านก็จะกลายเป็นพระรองที่ไม่สมหวัง ต้องไปกระโดดน้ำตายนะ”

“มึงไปเอาพล็อตนิยายน้ำเน่านี่มาจากไหนวะ?”

“แฮ่… ฟังมาจากวิทยุอะ”

“ฟังวิทยุ? นี่มัน พ.ศ.ไหนแล้ววะ มึงยังฟังนิยายในวิทยุอยู่อีกเหรอ?”

“ก็พวกพี่ ๆ ที่โรงน้ำแข็งมันชอบเปิดเสียงดัง ผมก็แค่ฟังผ่าน ๆ”

“นั่นมันนิยายน้ำเน่า”

ผมยังไม่ได้ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกว่าคนอย่างหยินจะกล้ามาสารภาพรักกับพี่เฌอ คนเรียบร้อย พูดน้อย ขี้อายอย่าง หยินเนี่ยนะ แต่เรื่องแอบชอบผมก็ค่อนข้างเชื่อ เพราะยังจำสีหน้าและแววตาของหยินตอนที่ผมยอมให้น้ำหอมขวดนั้นได้เป็นอย่างดี ดวงตางี้เป็นประกายวิบวับ ผมเห็นแล้วยังใจเต้นตุบตับ อยากจะเหนี่ยวคอมาหอมสักฟอดสองฟอด

“แล้วเอาไงดีล่ะ”

คำถามของไอ้เมิงดึงผมออกมาจากภวังค์ แต่ผมก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี สิ่งเดียวที่คิดได้และผมทำอย่างนั้นมาตลอดก็คือ “ก็ดูอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ตรงนี้แหละ”

“พระเอกสัด!”

ไอ้เมิงประชดผม แต่ตอนนี้ผมก็ทำได้แค่นั้นจริง ๆ

“ถ้าพี่หยินวิ่งร้องไห้ออกมาจากงานเพราะถูกพี่เฌอปฏิเสธล่ะ นายท่านจะทำยังไง?” ไอ้เมิงตั้งคำถามที่คงเกิดจากจินตนาการที่มันฟังนิยายมาเยอะ

“กูก็จะเข้าไปต่อยหน้าไอ้เหี้ยเฌอสักหมัด แล้วก็พาหยินกลับบ้าน” ผมตอบไปตามที่รู้สึก รักเขา อยากดูแลเขา

“ถ้าเป็นอย่างนั้นผมว่านายท่านควรถือโอกาสรวบหัวรวบหาง”

“ยังไงวะ?”

“พี่หยินจะต้องเสียใจหนักและอยากดื่มเพื่อลืมเธอ”

“แล้วไงต่อ?”

“พี่หยินจะเมามากไม่ได้สติ”

“ว่าไปซิ”

“นายท่านก็พาพี่หยินเข้าห้อง แล้วก็…”

ป๊าบ!

ผมตบฉาดเข้าหลังใบหูของมัน “ความคิดมึงเนี่ยนะ” ถึงผมจะไม่ใช่คนดี แต่ผมก็ไม่เคยคิดฉวยโอกาส ไม่อย่างนั้นผมคงปีนหน้าต่างบ้านหยินไปตั้งนานแล้ว

ผมกับไอ้เมิงนั่งตบยุงอยู่หน้าบ้านพี่เฌอที่มีรถยนต์เรียงกันเป็นตับ ไอ้ห่านี่ก็คงมีแต่เพื่อนรวย ๆ ผมมองดูรถซาเล้งที่ผมกับไอ้เมิงนั่งอยู่ก็อดนึกถึงรถมินิคูเปอร์ของตัวเองไม่ได้ นี่ถ้าไม่ติดว่ารีบคงไม่ต้องมานั่งตบยุง

เสียงเพลงดังออกมาจากบ้านหลังใหญ่ ข้างในคงกำลังสนุกสนาน ไม่รู้ว่าป่านนี้คนสวยของผมจะเป็นยังไงบ้าง หวังว่า หยินคงไม่ทำอย่างที่ไอ้เมิงคิด ที่ผมยังนั่งรออยู่นี่ก็แค่เป็นห่วง กลัวว่าจะดื่มแล้วขับเป็นอันตราย อย่างน้อยผมได้ตามไปส่งจนถึงบ้านก็สบายใจ

แต่นั่งกันอยู่ไม่นานและงานก็ยังไม่น่าจะเลิก ผมก็เห็นหยินวิ่งออกมาจากบ้านหลังนั้นเพียงลำพังในสภาพที่น้ำตานองหน้า ไม่ต่างจากในจินตนาการที่ไอ้เมิงมันเพ้อเอาไว้

หยิน!

ผมอุทานอยู่ในอก หัวใจเหมือนหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว ผมรีบกระโดดลงจากซาเล้งแล้ววิ่งข้ามถนนในซอย แต่พอไปถึงหน้าบ้าน ไอ้พี่เฌอก็วิ่งตามออกมา

“มึงทำเหี้ยอะไรหยิน?”

ผมไม่ฟังฟ้าฟังฝน ตรงรี่เข้าไปง้างหมัดซัดเข้าหน้าหล่อ ๆ ของไอ้เฌอจนมันเซไปข้างหลัง แล้วผมก็ชี้หน้ามันเป็นเชิงขู่ว่าอย่าเสือกตามมา!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel